บทที่ 21 ครุ่นคิดและวางแผน - 1
บทที่ 21
ครุ่นคิดและวางแผน
เพราะมารดาที่ไม่เคยเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ด่วนตายจากไปตั้งแต่ซ่งชิงเยียนยังเป็นเด็กมีอายุเพียงสี่ห้าขวบเท่านั้น อีกทั้งตระกูลเดิมของมารดาก็ไม่มีผลประโยชน์มากมายให้อยู่ในสายพระเนตรของผู้เป็นใหญ่ สุดท้ายแล้วองค์หญิงแปดผู้อยู่นอกสายตาของทุกคนจึงเติบโตขึ้นมาจากการดูแลแบบทิ้งๆ ขว้างๆ ของสนมชั้นผินผู้หนึ่ง
ทว่าหลังจากที่ได้รับหน้าที่ให้ดูแลนาง เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณในครั้งนี้เหมือนว่าฮ่องเต้จะทรงเสด็จมาประทับกับฉีผินผู้นั้นอยู่ถึงสองราตรีและภายหลังจากนั้นมาได้ไม่นานนางก็ตั้งครรภ์มังกร
และเหมือนว่าสวรรค์ยังใจดีกับฉีผินผู้นั้นไม่พอ เมื่อยามนางคลอดบุตรเด็กที่คลอดมายังเป็นพระโอรสอีกต่างหาก ตระกูลเดิมของฉีผินนั้นเป็นตระกูลทหารอีกทั้งที่ได้สร้างผลงานอันน่าประทับใจในการปราบกองโจรทางตอนใต้ของแคว้น เมื่อรวมเอาผลงานและความดีความชอบในการคลอดโอรสให้ฮ่องเต้แล้วฉีผินก็ได้เลื่อนขั้นขึ้นเป็นฉีเฟยในที่สุด
และทั้งๆ ที่ฉีฉู่หลันหรือฉีเฟยได้ดิบได้ดีมีวาสนาออกอย่างนั้น ซ่งชิงเยียนที่อยู่ในความดูแลของนางกลับไม่ได้มีชีวิตอยู่ที่ดีตามไปด้วย ในวันที่อีกฝ่ายย้ายจากตำหนักเล็กไปอยู่ตำหนักที่ใหญ่กว่าเพื่อให้สมฐานะพระสนมชั้นเฟย ซ่งชิงเยียนกลับเป็นคนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง นางแอบได้ยินบรรดานางกำนัลนินทากันว่าฉีเฟยเมื่อมีโอรสเป็นของตัวเองแล้วก็ไม่ต้องการที่จะดูแลนางอีก จึงได้จงใจปล่อยนางไว้ที่ตำหนักเดิมโดยการอ้างว่าตำหนักใหม่ยังแตกแต่งไม่เสร็จและตัวนางเองที่เป็นเด็กน้อยสี่ห้าขวบไม่ได้ต้องการจะย้ายออกไปจากตำหนักเดิม ดังนั้นฉีเฟยให้นางกำนัลสามคนมาคอยดูแลนางซึ่งทั้งสามคนนั้นก็จะทำหน้าที่ภายใต้คำสั่งของขันทีคนสนิทของฉีเฟยอีกต่อหนึ่ง
และหนึ่งในสามนางกำนัลที่ถูกส่งให้มาดูแลซ่งชิงเยียนที่ถูกปล่อยให้อยู่ที่ตำหนักเล็กตำหนักเดิมนั้นก็คือตี้ฉาง นางกำนัลเด็กที่มาอายุไล่เลี่ยกันกับองค์หญิงแปด
ในตอนท้ายๆ ของเรื่องเล่าที่จ้าวเมิ่งเหยียนได้ฟังจากซ่งชิงเยียนจะมีอยู่จุดหนึ่งที่ฟังดูเหมือนว่าตี้ฉางเป็นคนที่หักหลังเจ้านายตัวเองโดยการที่ตี้ฉางไปเข้ากับกงไป๋อวี่และกลายเป็นพวกเดียวกันในที่สุด
“ถ้าจะกำจัดคนทรยศ...มันก็ต้องเริ่มกำจัดตั้งแต่ยังเป็นเพียงต้นอ่อนสินะ” จ้าวเมิ่งเหยียนผุดรอยยิ้มร้ายกาจออกมาขณะนั่งมองหิมะที่กำลังตกหนักอยู่ริมหน้าต่าง
แม้ว่านางจะย้อนเวลามาอยู่ในร่างของซ่งชิงเยียนได้เพียงสามวัน แต่ความทรงจำในชาติก่อนและเรื่องราวของเจ้าของร่างนี้ที่นางได้ฟังนั้นก็ยังติดตัวนางมาด้วย นางรู้แล้วว่าผู้คนรอบตัวของซ่งชิงเยียนเป็นอย่างไร อนาคตของร่างนี้จะเป็นอย่างไรในอีกสี่ห้าปีข้างหน้า ฉะนั้นแล้วนางก็ถือว่ายังมีเวลามากพอที่จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมอันเลวร้ายและน่าหดหู่ใจของซ่งชิงเยียน ให้กลายเป็นเรื่องราวชีวิตที่น่าตื่นเต้น สนุกสนานและน่าประทับใจ
ซ่งชิงเยียนไม่ควรต้องตายอย่างน่าอนารถ
ยิ่งเรื่องราวของแคว้นซิ่งที่ปกครองโดยคนแซ่ซ่งไม่เคยปรากฏให้เห็นประวัติศาสตร์ นั่นจึงยิ่งง่ายต่อการเปลี่ยนแปลงเรื่องราวในชีวิตของซ่งชิงเยียน เพราะไม่ว่าอีกฝ่ายจะดำเนินชีวิตหรือใช้ชีวิตไปในรูปแบบใด มันก็จะไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อคนรุ่นหลังในอีกหนึ่งพันกว่าปีข้างหน้า
“แล้วต่อจากนี้ไปฉันก็คือซ่งชิงเยียน องค์หญิงแปดแห่งแคว้นซิ่ง ผู้ที่จะมีชีวิตเป็นของตัวเองและจะไม่ยอมเป็นหมากเบี้ยให้ผู้อื่นใช้สอยอีกต่อไป แม้ว่าคนๆ นั้นจะเป็นอ๋องหน้าไหนหรือฮ่องเต้แคว้นใดก็ตาม”
และสิ่งแรกที่ซ่งชิงเยียนคนนี้จะทำ นั่นก็คือการเรียกร้องสิทธิ์ของตัวเองและจัดการคนขี้โกง
“อู๋กงกง...ข้าจะให้สิทธิ์ท่านได้รับรู้ฝีมือของข้าก่อนเป็นคนแรก”