ขออภัยข้าไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นขยะไร้ค่า

133.0K · จบแล้ว
แม่นางปันปันผู้เลอโฉม
46
บท
26.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

นางเป็นสตรีเพียงหนึ่งเดียวของทั้งห้าแคว้น ที่ไร้ซึ่งปราณธาตุ ถูกผู้คนดูถูกยังไม่พอ มารดาที่ให้กำเนิดขยะเช่นนาง จึงถูกสามีหมางเมิน แม่สามีชังน้ำหน้า และตายไปด้วยความทุกข์ใจ เมื่อนางแต่งงานมีสามี ก็ถูกน้องสาวแท้ๆ ต่างมารดาหักหลัง ปีนขึ้นเตียงเพื่อแย่งสามี "นี่น้องสาวข้านางจะตั้งครรภ์ได้อย่างไร" "พี่หญิงใหญ่ข้าผิดต่อท่าน" อะไรวะ…!!! 'ชีวิตมันจะบัดซบได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ' ไม่หรอกมันยังบัดซบได้อีก!!! เพราะยังเหลือไทเฮา แม่สามีตัวร้ายในละครที่จงเกลียดจงชังอยากจะไล่ข้าไปให้ไกล คอยดูเถิดไอ้คนที่มันดูถูกข้าไว้!!! วันนี้… ข้าจะยิ่งใหญ่เหนือผู้คนทั้งใต้หล้าให้พวกเจ้าดู ...................................................

นิยายจีนโบราณนิยายรัก

ตอนที่ 1 ถูกหักหลัง

ดวงหน้าที่ขาวซีด ไร้สีเลือด สายตาของนางวูบไหวไปมา แววตาเต็มไปด้วยความกังวล ยิ่งเมื่อหมอหลวงแตะไปที่ข้อมือ ขาวซีดของนางแล้ว หญิงสาวยิ่งแสดงสีหน้าของความตระหนกอย่างเห็นได้ชัด หมอหลวงใช้เวลาตรวจอาการอยู่สักพัก ก็สามารถค้นพบถึงสาเหตุ ของความผิดปกติของนางได้ เขาละมือจากข้อมือขาวซีดนั้น แล้วหันมาเอ่ย บอกผู้ที่ใจจดจ่อรอฟังอาการของนางด้วยความรู้สึกลำบากใจ "ดูเหมือนว่าคุณหนูรองจะไม่ได้เป็นอันใดมาก เพียงแค่…"

เขาถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง "นางเพียงแค่ ร่างกายอ่อนแอ จากการตั้งครรภ์อ่อนๆ เพียงเท่านั้น ร่างกายของสตรีที่พึ่งตั้งครรภ์ก็เป็นเช่นนี้ พวกท่านเพียงแค่บำรุงนางให้ดี อีกไม่นานอาการของนางก็จะดีขึ้นเอง"

"ตั้งครรภ์…!!! นางจะตั้งครรภ์ได้อย่างไร"

ประโยคนี้หานรั่วหลานคล้ายกับจะถามตนเองเสียมากกว่า แต่เมื่อตั้งสติได้ นางจึงหันไปเอ่ยถามกับหมอหลวงที่กำลังเก็บล่วมยาของเขาอยู่ "นางตั้งครรภ์ได้กี่เดือนแล้ว"

"กราบทูลพระชายา นางตั้งครรภ์น่าจะประมาณสองเดือนแล้ว"

หานรั่วหลานแสดงสีหน้าครุ่นคิด ตั้งแต่ที่หานเฟิงอี้มาขออาศัยอยู่กับนางก็ล่วงผ่านมาห้าเดือนแล้ว เป็นไปไม่ได้ ที่นางจะตั้งครรภ์ด้วยอายุครรภ์เท่านี้ ยกเว้นเสียแต่ว่า…

หานเฟิงอี้เป็นสตรีที่มากความสามารถ ที่ยากจะหาเจอได้ในแผ่นดินนี้ นางเป็นผู้ที่ถือครองพลังธาตุถึงสองสายในตัว ซึ่งมีน้อยคนนักที่มีพรสวรรค์เช่นนี้ เพราะโดยปกติแล้วคนผู้หนึ่งจะมีพลังธาตุ เพียงธาตุเดียวเท่านั้น เมื่อหานเฟิงอี้มีปราณธาตุถึงสองสายในตัว จึงทำให้นางเป็นสตรีที่ถูกยกย่อง และน่านับถือไปโดยปริยาย แต่เมื่อไม่กี่เดือนก่อน หญิงสาวเกิดต้องชะตากับบุรุษต่างแคว้นที่มีฐานะไม่ธรรมดา ที่ถือครองปราณธาตุถึงสองสายเช่นเดียวกับนาง และหนึ่งในปราณธาตุที่บุรุษผู้นั้นถือครองยังเป็นธาตุที่หายาก นั่นก็คือปราณธาตุสีดำ ที่ต่อให้ค้นหาจากทั้งห้าแคว้น ก็ยังไม่สามารถพบเจอได้โดยง่าย หนึ่งร้อยปีถึงจะปรากฏออกมาให้เห็นสักครั้ง แค่เพียงนางได้พบเจอกับบุรุษผู้นั้น ก็รู้สึกต้องตาต้องใจ ยอมตกแต่งให้เขาโดยง่าย ทั้งที่ยังไม่รู้จักนิสัยใจคอกันดีด้วยซ้ำ นั่นจึงทำให้หลังจากที่นางตกแต่งให้เขาได้เพียงสามเดือน ก็ค้นพบว่าสามีตนเองมีทั้งชายา และสตรีมากมายเต็มตำหนัก หญิงสาวที่เย่อหยิ่งและทรนงตนเช่นนาง มีหรือจะยอมรับได้

หานเฟิงอี้หนีออกมาหลังจากที่ทราบว่าตนเองหาได้เป็นสตรีเพียงหนึ่งเดียวของเขา นางไม่ยอมกลับตระกูลเดิม โดยให้เหตุผลว่าเพราะบิดามิอาจ ยอมให้บุตรีที่แต่งออกไปแล้ว กลับมายังตระกูลเดิมเพื่อให้เกิดความเสื่อมเสียได้ นั่นจึงทำให้นางต้องหันมาพึ่งใบบุญของพี่สาวต่างมารดา ที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันในกาลก่อน เมื่อเรื่องราวเป็นเช่นนี้ มีหรือที่พี่สาวจะสามารถเอ่ยปฏิเสธได้ ถึงแม้นางจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรยิ่ง ที่อนุญาตให้สตรีอื่นเข้ามาอาศัยอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับตนเองที่แต่งออกมาแล้ว แต่ด้วยความเชื่อใจที่มีให้กันเสมอมา จึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาใดเกิดขึ้น

"เฟิงเอ๋อร์เจ้าตอบพี่มา ว่าเจ้าตั้งครรภ์ได้อย่างไร"

สายตาของอีกฝ่ายวูบไหว ชวนให้ผู้ถามใจกระตุก เหตุใดนางถึงรู้สึกสังหรณ์ใจอย่างแปลกประหลาด สตรีที่ดวงหน้าขาวซีดนอนไร้ซึ่งเรี่ยวแรงอยู่บนเตียง พยายามหยัดกายลุกขึ้น ก่อนที่นางจะหลั่งน้ำตาออกมาในที่สุด หญิงสาวค่อยๆ คลานลงมาจากเตียงพร้อมกับนั่งคุกเข่าลงยังเบื้องหน้าของผู้เป็นพี่สาวต่างมารดา ทุกการกระทำหานรั่วหลานรู้สึกใจไม่ดีเลย

"พี่หญิงใหญ่ ข้าผิดต่อท่าน"

"เจ้าพูดบ้าอันใดกันเหตุใดต้องขอโทษ บิดาของลูกในท้องเจ้าคือผู้ใดกันแน่" หานรั่วหลานเอ่ยถามเสียงสั่น นางพยายามประคองสติของตนเอง ชั่ววูบหนึ่งนางทอดมองไปที่ใบหน้าขาวซีดของผู้เป็นสามี ก่อนที่หญิงสาวจะกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

"ป๋อเหวินเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับท่านหรือไม่"

เมื่อไม่เห็นอีกฝ่ายตอบคำถาม แต่ท่าทีนั้นกลับชัดเจน หญิงสาวจึงระเบิดอารมณ์ออกมาคว้าคอสตรีที่นั่งอยู่เบื้องหน้า "เจ้าตอบข้ามาว่าผู้ใดคือบิดาของบุตรในท้องเจ้า มันคือผู้ใดกันแน่ เจ้าบอกข้ามาสิ"

นางเขย่าร่างของหานเฟิงอี้ที่ตอนนี้คล้ายกับไร้เรี่ยวแรงจะต่อต้าน น้ำตาของทั้งสองไหลอาบแก้ม จนเมื่อเห็นว่า ทุกอย่างชัดเจนแล้ว นางจึงได้ยกฝ่ามือขึ้นหมายจะตบเข้าที่ดวงหน้าของอีกฝ่าย แต่กลับถูกหยุดไว้ที่กลางอากาศ หญิงสาวทอดมองไปยังข้อมือที่ถูกรวบเอาไว้ด้วยฝ่ามืออันคุ้นเคย แต่ตอนนี้เหตุใดนางถึงได้รู้สึก ไม่อยากถูกฝ่ามือนั้นแตะต้องผิวของนางให้ระคายเคืองเลยแม้แต่น้อย หญิงสาวสะบัดมือออกจนหลุด

"ทุกอย่างเป็นความผิดของข้าเอง มันเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ข…ข้าไม่คิดว่า" เฉินหลิวหยาง หรือชินอ๋องเอ่ยตอบนางเสียงสั่น

"อย่าเอามือสกปรกของท่านมาแตะตัวข้า"

หญิงสาวคล้ายกับไม่อยากจะเชื่อหูตนเอง นางใช้ฝ่ามือปิดปากร่ำไห้ ร่างกายเริ่มสั่นเทา แววตาที่ทอดมองไปยังผู้เป็นสามีเต็มไปด้วยความเจ็บปวดอย่างเหลือคณานับ

"ท่านจะบอกว่า ท่านคือบิดาของลูกในท้องนางหรือ…!? "

"ลู่เสียนข้าผิดไปแล้ว ให้อภัยข้าได้หรือไม่ มันเป็นความผิดพลาดแค่เพียงครั้ง หลังจากที่นางให้กำเนิดแล้ว ข้าจะเลี้ยงดูเด็กคนนั้นอย่างดี เจ้าวางใจ ถึงอย่างไรข้าก็จะมีเพียงเจ้า"

"นี่ท่านกำลังละเมออยู่หรือ พูดบ้าอันใดของท่าน นางอุ้มท้องบุตรของท่าน แล้วท่านจะบอกว่าจะไม่ยอมรับนาง มีผู้ใดจะยอมได้บ้าง ท่านคิดว่าสิ่งที่ท่านพูดมันง่ายถึงเพียงนั้นหรือ เหตุใดป๋อเหวิน ทั้งที่ข้าเชื่อในตัวท่านถึงปานนั้น เหตุใดท่านถึงเลือกที่จะทรยศข้า"

หานรั่วหลานเอ่ยเสียงสั่น นางทรุดลงหัวใจคล้ายกับถูกบีบรัดอย่างรุนแรง "ข้าเชื่อใจท่านมาโดยตลอด คิดว่าท่านจะต่างจากบุรุษอื่น ไม่สนใจ ถึงสิ่งที่ข้าเป็น แต่สุดท้ายท่านกลับหักหลังข้าได้อย่างเยือกเย็น นางเป็นน้องสาวแท้ๆ ของข้า เหตุใดท่านถึงได้ทำกับข้าได้ลงคอ ทั้งๆ ที่ข้าออกจะรักท่านถึงปานนั้น"

"ข้าหาได้เปลี่ยนใจไปจากเจ้า แต่เพราะคืนนั้น ข้าเมามาก จนคิดว่านางคือเจ้า ลู่เสียนอภัยให้ข้าสักครั้งเถิดนะ"

"พี่หญิงใหญ่ข้ารู้ว่าข้าผิดต่อท่าน ท่านอยากจะด่าว่าข้าเช่นไรก็ได้"

"ในเมื่อเจ้าก็รู้ว่าพี่เขยของเจ้าอยู่ในอาการเมามาย เหตุใดเจ้าถึงไม่ขัดขืน ข้าเชื่อว่าด้วยปราณธาตุที่เจ้ามี เหตุใดจะทำให้เขามีสติไม่ได้ หรือว่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น เกิดจากความเต็มใจของเจ้ากันแน่ เฟิงอี้เจ้าเป็นน้องสาวที่ข้ารักมากที่สุด และคิดว่าเจ้าจะไม่มีทางหักหลังข้าเป็นอันขาด เหตุใดกัน เหตุใดข้าถึงมิเคยรู้เลย ว่าเจ้าคิดจะตีท้ายครัวของข้า แม่นมหลิวเคยเอ่ยเตือนข้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ข้าก็ไม่เคยเอะใจนึกสงสัยในตัวเจ้าเลย ที่แท้ทุกอย่างมันเกิดขึ้น เพราะเจ้าได้วางแผนเอาไว้หมดแล้วนี่เอง"

"พี่หญิงใหญ่หาได้เป็นเช่นนั้น เพราะคืนนั้นข้าเองก็เมามาย ทุกอย่างเกิดจาก…"

"เกิดจากจิตใจที่ชั่วร้ายของเจ้า ที่อยากจะแทนที่ข้าใช่หรือไม่ เจ้าจะเอาเรื่องเมามายของตนเองมาอ้าง ยังไงมันก็ฟังไม่ขึ้น หานเฟิงอี้วันนี้ถือว่าความสัมพันธ์ของเราสองพี่น้องให้สิ้นสุดลงเท่านี้"

นางสูดลมหายใจเข้าลึก หลับตาลงคล้ายกับไม่อยากจ้องมองสตรีผู้นั้นอีกต่อไป แต่เมื่อนางลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง สายตาก็ทอดมองไปยังเฉินหลิวหยางผู้เป็นสามี แววตาของนางตอนนี้เต็มไปด้วยความเย็นชา "ในเมื่อท่านบอกว่า อยากขอโอกาสจากข้า งั้นท่านก็ทำลายลูกในท้องของนางเสีย แล้วข้าจะลืมเรื่องราวทั้งหมด ทำเสมือนว่าเรื่องทุกอย่างนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ท่านทำได้หรือไม่"

ทั้งเฉินหลิวหยางและหานเฟิงอี้ดวงตาเบิกกว้างพวกเขาจ้องมองกลับมาที่นางอย่างยากจะเชื่อสายตา

"นี่มันจะเลวร้ายเกินไปแล้ว ถึงอย่างไรนางก็มีศักดิ์เป็นน้องแท้ๆ ของพระองค์ พระชายาจะไม่มีจิตใจเมตตาต่อนางบ้างเลยหรือ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว พระชายาจะทำใจกว้าง ยอมรับน้องสาวของตนเองบ้างไม่ได้เลยหรือไร"

เฝิงซื่อที่โผล่มาได้ประจวบเหมาะเวลา เอ่ยถามลูกเลี้ยงอย่างหานรั่วหลานอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ นางเดินไปประคองบุตรสาว ที่นั่งอยู่บนพื้นที่เย็นเฉียบขึ้นมา

"พระชายาเองก็ตกแต่งให้กับชินอ๋องร่วมสองปีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะให้กำเนิดท่านชายหรือท่านหญิงสักคน นี่ไม่ถือเป็นเรื่องดีสำหรับชินอ๋องหรือไร แค่เพียงท่านใจกว้างสักนิด ให้นางตกแต่งเข้ามาในฐานะชายารอง ท่านก็ยังครองตำแหน่งชายาเอก อำนาจทุกอย่างก็ยังคงอยู่ในมือท่าน เหตุใดเรื่องแค่นี้ถึงไม่ยอมถอยสักก้าว เพื่อให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี"

ในที่สุดหานรั่วหลานก็หัวเราะออกมาอย่างเสียสตินางทอดมองอีกฝ่าย คล้ายกับพึ่งได้ฟังเรื่องตลก

"เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ที่ท่านมาขอร้องให้นางมาอยู่กับข้า เพราะได้วางแผนทุกอย่างไว้หมดแล้ว นี่คือ แผนการของพวกเจ้าสองแม่ลูกสินะ เหตุใดข้าถึงมีความคิดไม่เท่าทันพวกเจ้า บุตรีที่แต่งออกไปแล้ว ถึงแม้นางจะเป็นสตรีที่มีความสามารถโดดเด่น มีปราณธาตุสองสายในตัว แต่ก็เป็นเพียงสตรีที่หย่าร้างกับสามี จะมีเกียรติอันใด การหาบุรุษที่มีเกียรติเท่าเทียมกัน ตกแต่งให้กับเขาถึงแม้นจะในฐานะชายารอง แต่หากนางสามารถให้กำเนิดบุตรชายกับเขาได้ ต่อให้คนผู้นั้นจะเป็นพี่เขยแล้วอย่างไร หากพวกเจ้าต้องการจะดับเรื่องราว ฉาวโฉ่ของตนเอง เพียงเท่านี้ เจ้าก็สามารถกลับมามีชีวิตที่เฉิดฉายได้อีกครั้ง"

นางเหยียดยิ้มให้กับตนเองที่โง่งมไม่เท่าทันแผนการของทั้งสองแม่ลูก แต่สิ่งที่หญิงสาวรู้สึกเจ็บมากที่สุด เห็นจะเป็นคนข้างหมอนของนางผู้นี้เสียมากกว่า

"แต่ต่อให้พวกนางวางแผนการมาดีอย่างไร ก็คงจะไม่สำเร็จได้ หากคนของข้าไม่ร่วมมือ"