อยากขอบคุณ
“แม่”
“ว่าไง”
“วันนี้หนูทำโอทีอาจกลับดึกนะ”
“ให้ไปรอรับไหม” เพราะมีกันแค่สองคนพวกเขาจึงดูสนิทมาก ฝันดีและแม่ของเธอจะเหมือนเพื่อนกันซะมากกว่า มีปัญหาหรือไม่สบายใจเธอมักจะมาปรึกษาแม่ตัวเองตลอด ทุกเรื่องเธอจะเล่าให้แม่ฟังหมด ผู้เป็นแม่เองก็ให้คำปรึกษาลูกสาวได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
“ไม่ต้องเลยนะ พักผ่อนไปเถอะฝันกลับเองได้”
“ถ้ามีอะไรก็โทรมาแล้วกัน”
“เค ฝันไปทำงานก่อนนะ”
“อืม”
บริษัทไอที
“สวัสดีจ้าน้องฝัน”
“มอนิ่งค่ะพี่น้อยหน่า” หญิงสาวส่งยิ้มทักทายรุ่นพี่ที่ทำงาน วันนี้ฝันดีรีบมาแต่เช้าเพื่อเคลียร์งานตัวเองให้เสร็จ จะได้ไม่กลับดึกมาก
“ทำไมมาเช้าจังวันนี้”
“รีบมาเคลียร์งานให้จบค่ะ”
“ฮ่า ๆ เรานี่ก็นะ” เพื่อนที่ทำงานมักเรียกเธอว่าฝันเพียงสั้น ๆ หลังจากทักทายพี่น้อยหน่าหัวหน้าแผนกบัญชีเสร็จเธอก็ขึ้นไปยังชั้นทำงานของตัวเอง ทันทีที่ตูดถึงเก้าอี้ฝันดีก็เริ่มลงมือทำงานในส่วนของตัวเองทันที แต่ในขณะนั้นเอง..
“ไงแสบ” เสียงทุ้มของใครบางคนทำใบหน้าสวยเงยขึ้นไปมอง
“อ้าวคุณแผ่นดิน” ฝันดีระบายยิ้มให้ใครบางคนที่กำลังเดินตรงมาหาเธอ ก่อนที่ร่างสูงนั้นจะมาหยุดนิ่งข้างโต๊ะทำงานของเธอ
“มาเช้านะ” เขามองไปรอบ ๆ ก็เห็นแค่เธอเท่านั้นที่นั่งทำงานอยู่
“มาหาท่านประธานเหรอคะ”
“ใช่ แต่เผอิญเห็นเราพอดี” แผ่นดินหรือที่ทุกคนรู้จักเขาในนามเพื่อนสนิทของท่านประธานของที่นี่ แต่เพราะแผ่นดินรู้สึกเอ็นดูหญิงสาวทำให้เขาชอบแวะมาทักทายเธอทุกครั้งที่เข้ามาหาเพื่อนตัวเอง อย่างเช่นวันนี้
“แหะ” ฝันดีทำเพียงยิ้มแห้งไปให้ร่างสูงตรงหน้า เพราะรู้ว่าเขากำลังจะบ่นเธอยังไงล่ะ
“ไม่ต้องมายิ้มกลบเกลื่อนเลย แล้วนี่กินอะไรมายัง”
“ฝันกินมาจากบ้านแล้วค่ะ”
“ไว้เจอกัน ฉันต้องไปแล้ว” แผ่นดินดูเวลาก็เห็นว่าจะถึงเวลานัดแล้วจึงขอตัวออกไป ร่างสูงเดินล้วงกระเป๋ากางเกงตรงไปที่ลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังชั้นบนสุด ชั้นของผู้บริหาร
“เฮ้อ” พ่นลมหายใจออกมาอย่างเมื่อยล้าพลางเอนตัวพิงไปด้านหลัง เสร็จสักทีงานที่ได้รับ ยังเหลืออีกส่วนที่น่าจะเสร็จทันก่อนเลิกงานแน่นอน
ตึกตึก
“ยัยฝันดี” ฝันดีขยับสายตามองไปยังคนที่เรียกชื่อตัวเอง ก่อนจะพบว่าเป็นเพื่อนสาวตัวเองนั่นก็คือใยไหม เพื่อนสาวของเธอเดินยิ้มมาอย่างอารมณ์ดีจนเธอต้องขมวดคิ้วสงสัย เพื่อนไปโดนตัวไหนมา?
“ว่า”
“คืนนี้ไปเที่ยวกันไหม” ใยไหมเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอชวนไปเที่ยวด้วยกันคืนนี้ ทั้งสองสนิทกันตั้งแต่มาทำงานวันแรก ด้วยนิสัยใยไหมเป็นคนที่พูดเก่งและเข้ากับคนได้ง่าย วันแรกที่ฝันดีก้าวเข้ามาในบริษัทแห่งนี้ ใยไหมเป็นคนแรกที่เข้ามาทักทายฝันดีจนทำให้ทั้งสองเริ่มสนิทกันโดยปริยาย
"ได้ดิ สองคนแล้วใช่ปะ”
"มันต้องสองคนแหละเพราะเรามีกันแค่นี้ ไม่มีใครคบเรานะเพื่อนรัก" ใยไหมเอ่ยติดตลก มีกันอยู่สองคนจะให้ไปชวนใครอีก
"ลืมไปเลย เราอย่าเลิกคบกันนะ"
"ฮ่า ๆ ยัยบ้านี่" สองสาวมักชวนกันไปเที่ยวอยู่บ่อยครั้ง เป็นปกติของวัยอย่างเธอที่จะต้องมีดื่มสังสรรค์กันบ้าง แต่ก็ไม่ได้บ่อยถึงขนาดทุกวัน และวันนี้ฝันดีเองก็เหนื่อย ๆ กับงานด้วยไปปลดปล่อยสักหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง แต่ก่อนไปเธอไม่ลืมที่จะส่งข้อความไปบอกแม่ว่าคืนนี้อาจกลับดึก ซึ่งคนเป็นแม่ก็เข้าใจเพราะลูกสาวก็โตแล้วท่านจึงเลือกที่จะไม่ห้ามแล้วปล่อยให้ลูกสาวได้ใช้ชีวิตของตัวเองไป
"ร้านไหนดี" ฝันดีเงยหน้าถามเพื่อนตัวเอง
"มีร้านใหม่ที่เขาเปิดนานแล้วแหละ แต่ฉันไม่เคยไปสักทีฉันอยากลองไป ไปกันนะ"
"ได้ดิ ตามใจเธอเลย"
"ว่าจะพาเพื่อนไปหาผัวสักหน่อย"
"ก่อนจะหาให้ฉัน หาให้ตัวเองก่อนไหม ชิ" ใยไหมเองก็ใช่ว่ามีแฟน โสดด้วยกันทั้งคู่นั่นแหละ
"ไหนเราสองคนสัญญากันแล้วไงว่าจะไม่เอาผัว เราจะแก่ไปด้วยกัน"
"ขอถอนคำพูดทันไหม" ฝันดีทำหน้าปลง จากนั้นทั้งสองก็แยกย้ายกันไปทำงานจนกระทั่งถึงเวลาเลิกงาน
"ฝันดีทางนี้" ใยไหมที่เสร็จก่อนลงมารอเพื่อนที่ด้านล่าง ทว่ารอได้ไม่นานอีกคนก็ตามลงมา
"ไปรถอะไรอะ"
"มันไม่ไกลแก นั่งรถจากนี้ไปประมาณสิบห้านาทีอะ เดี๋ยวเรานั่งแท็กซี่ไปก็ได้เนอะ"
"ได้ ๆ”
"เออว่าแต่ช่วงนี้คุณแผ่นดินยังเข้าไปทักทายแกปะ เมื่อเช้าฉันเห็นเขามาอยู่หนิ เขาได้แวะไปอยู่ใช่ไหม"
"มา แอบเกร็ง ๆ เหมือนกันนะ กลัวคนจะเข้าใจผิดแต่จะให้ทำไงได้ฉันเองก็ไม่รู้จะพูดกับเขายังไงเหมือนกัน ทำได้สุดก็แค่ยิ้มทักทายตามมารยาทไป"
"ไม่เป็นไรหรอกน่า เขาอาจจะชอบแกก็ได้แกจะไปสนใจคนอื่นทำไม เขาไม่ได้มาหาให้เราแดกสักหน่อย เราเองก็ไม่ได้ทำผิดอะไรอีกอย่างคุณแผ่นดินก็โสดไม่มีใคร ไม่แปลกปะคนโสดกับโสดมาเจอกัน ถ้าเขาจะรักมันก็เป็นสิทธิ์ของเขาถ้าแกมัวแต่แคร์คนอื่นชาตินี้แกก็ไม่ได้ผัวหรอกนะ หัดเลิกแคร์คนทั้งโลกแล้วมาแคร์ตัวเองบ้างเถอะยัยซื่อบื้อ"
"กลายเป็นคนขี้บ่นแล้วเหรอเรา"
"แต่ก่อนไม่เป็นหรอก มาเป็นก็ตอนที่คบกับแกนี่แหละ" ยังมีนิสัยบางอย่างที่ทั้งสองไม่ค่อยเหมือนกันนั่นก็คือ..ใยไหมจะเป็นคนตรง ๆ แรง ๆ คิดยังไงก็พูดอย่างนั้น เธอเป็นคนที่ปากไวแต่เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองผิดก็จะขอโทษ ณ ตรงนั้นเลยจะไม่ปล่อยให้ค้างคา แต่กลับฝันดี..เธอจะเป็นคนที่ตรงไปตรงมามีเหตุผลก็จริง แต่บางอย่างเธอก็ไม่กล้าพูดมันออกไป เธอเป็นคนที่ค่อนข้างขี้เกรงใจคนแต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ได้โกรธหรือเกลียดใครแล้วเธอจะไม่ยุ่งด้วยทันที
"นี่ก็หนึ่งเดือนแล้วใช่ปะที่เราไม่ได้เที่ยวด้วยกัน"
"ใช่ ช่วงนี้ทั้งฉันและแกงานเยอะพอกัน อยากไปเที่ยวทะเลอะ"
“จริงแก”
"ไว้แกออกรถแล้วเราไปกัน" ใยไหมพูด เพราะเห็นว่าฝันดีมีโปรแกรมจะออกรถยนต์ไว้ขับเพื่อความสะดวกในแก่การเดินทางเวลาจะพาแม่ไปเที่ยว อย่างน้อยเธอจะได้ไม่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปนั่งรถโดยสาร มีรถเป็นของตัวเองมันก็สะดวกอีกอย่างเธอเองก็ขับรถเป็นใบขับขี่ก็มีเพียงแต่ยังไม่มีรถเท่านั้น ฝันดีไปดูรุ่นที่จะเอาไว้แล้วแต่ยังไม่มีเวลาที่จะไปทำเรื่อง เธอไม่ได้ซื้อเงินสดหรอกผ่อนปกตินี่แหละ
ฝันดีเป็นคนที่ค่อนข้างซีเรียสเรื่องเงินนิดหนึ่ง กว่าเธอจะตัดสินใจซื้ออะไรได้แต่ละอย่างก็โดนใยไหมคะยั้นคะยออยู่หลายครั้ง เมื่อมานั่งคำนวณรายจ่ายในแต่ละเดือน หักค่ารถค่าบ้านค่าอะไรไปหมดแล้วเธอยังเหลือใช้เหลือกิน นั่นจึงทำให้เธอตัดสินใจที่จะออกมันในที่สุด
เมื่อทั้งสองมายืนรอรถอยู่หน้าบริษัทได้ครู่หนึ่งรถแท็กซี่ก็ขับมาจอดอยู่ตรงหน้า พวกเธอพากันขึ้นไปนั่งก่อนจะบอกสถานที่แก่โชเฟอร์
"ดีนะฉันมีชุดมาเปลี่ยน" ใยไหมพูดขึ้น
"ปกติเธอก็เป็นคนแต่งตัวแซ่บอยู่แล้วปะ" ไม่จำเป็นต้องหาชุดมาเปลี่ยนเพื่อนเธอก็สวยได้
"แซ่บแล้วยังไง ชุดทำงานกับชุดเที่ยวจะใส่รวมกันไม่ได้นะจ๊ะสาวน้อย"
"เวลาทำงานนี้จะเป็นจะตายกันนะ ถึงเวลาเที่ยวนี่ดี๊ด๊ากันจังเลย"
"แน่นอน"
"ฟ้าก็ช่างส่งเราสองคนมาเจอกัน"
"คนสวยกับคนสวยมันก็ต้องคู่กันอยู่แล้ว"
ไม่นานสองสาวก็มาถึงร้าน ฝันดีทำการจ่ายค่าโดยสารไปก่อนจะลงจากรถตามเพื่อนไป ทั้งคู่ยืนนิ่งมองเหล่าบอดี้การ์ดที่ยืนเฝ้าประตูทางเข้าร้าน ทั้งสองหันมองหน้ากันก่อนจะกระตุกยิ้มแล้วจูงมือกันเดินเข้าไปยังด้านใน
"บัตรค่ะ" ใยไหมยื่นบัตรตัวเองแล้วของฝันดีให้กับชายชุดดำนำไปตรวจดู เมื่อตรวจเสร็จการ์ดก็คืนบัตรให้พร้อมกับปล่อยให้ทั้งสองเข้าไปด้านใน
"เชิญครับ" เมื่อผ่านด่านเข้ามาในร้านได้ก็พบกับความอลังการ มองข้างนอกยังดูธรรมดา พอเข้ามาด้านในมันกลับหรูหราดูไม่เหมาะสมกับพวกเธอสองคนยังไงไม่รู้
"นี่เราเที่ยวผับหรูกันขนาดนี้เลยเหรอ" ฝันดีกวาดตามองไปทั่วร้าน มันใหญ่และอลังการกว่าที่เธอคิดไว้อีกนะเนี่ย
"ฉันเห็นในรีวิวน่ะ แต่ดูรีวิวมันยังไม่เท่าไหร่พอมาเจอของจริงแอบตกใจเหมือนกันนะ ฉันไม่คิดว่ามันจะหรูหราขนาดนี้"
"นั่นน่ะสิ หรือเราจะเปลี่ยนใจกันกลับไหม"
"ได้ไง เรามาถึงขนาดนี้แล้วนะเราต้องสู้ให้ถึงที่สุดสิ อีกอย่างเราก็ไม่ได้เที่ยวทุกวันสักหน่อย ถือว่ามาผ่อนคลายให้กับชีวิตตัวเองจะเป็นไรไป ถ้ามัวแต่คิดชาตินี้ไม่ได้เที่ยวนะยะบอกไว้ก่อน"
"งั้นจะรออะไรล่ะ หาโต๊ะนั่งสิ"
“มันต้องแบบนี้สิเพื่อนฉัน”
"สวัสดีครับกี่ท่านครับ"
"2 ค่ะ" ใยไหมตอบพนักงานที่เข้ามาบริการพวกเอ
"เป็นโต๊ะไหนดีครับหรือว่ามีจองไว้แล้ว"
"เป็นโซนธรรมดาก็พอค่ะไม่ต้องถึงขั้น VIP" เพราะเธออยากซึมซับบรรยากาศให้เต็มที่ ในเมื่อมาเที่ยวสถานที่แบบนี้จะไปนั่งในห้อง VIP คุยกันแค่สองคนทำไม เราต้องนั่งมองอาหารตาที่มันทำให้เรามีกำลังใจในการทำงานในแต่ละวันสิ เห็นเธอเป็นผู้หญิงแรง ๆ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าพวกเธอไม่เคยผ่านมือผู้ชายเลยสักคน พอมีคนเข้าหาจริง ๆ พวกเธอกลับไม่สนใจ
"รับเป็นอะไรดีครับเครื่องดื่ม"
"เอาตัวที่เขาฮิตกันเลยค่ะ"
"ได้ครับรอสักครู่นะครับ"
"พนักงานที่นี่งานดีมากแก" หลังจากที่พนักงานออกไปใยไหมก็ก้มไปกระซิบกระซาบกับเพื่อนสาวทันที เธอมองพนักงานเดินออกไปแววตาลุกวาว แค่พนักงานหุ่นก็อย่างกับนายแบบ แล้วเจ้าของผับล่ะ ชื่อเสียงเรื่องลือขนาดนั้นเธอชักอยากจะเห็นเจ้าของแล้วสิ เห็นเขาบอกว่าเป็นผู้ชายที่หล่อและรวยมากที่สำคัญคือ..ยังไม่มีแฟน
เวลาที่ทั้งสองมาก็เกือบจะสองทุ่มแล้ว เนื่องจากฝันดีเคลียร์งานเลทนิดหน่อย แต่ถือว่ามาเวลานี้กำลังดีจะได้ไม่ต้องกลับดึกมากอีกอย่างคนก็ยังไม่เยอะแม้พวกเธอจะชอบเที่ยวแต่ก็ใช่ว่าจะชอบความวุ่นวายขนาดนั้น เที่ยวได้แค่พอหอมปากหอมคอพอเบื่อก็กลับไม่ได้เที่ยวยันเช้าเหมือนอย่างที่คนเขาชอบเที่ยวกัน
แต่ในระหว่างนั้นเอง..
"เอ๊ะนั่นมัน" ฝันดีเหมือนจะเห็นใครบางคนที่เธอรู้สึกคุ้นหน้าค่าตา คนตัวเล็กพยายามเพ่งมองให้ชัด แต่จังหวะที่เขาหันหน้ามา..
"เขาจริงด้วย.. แกเดี๋ยวฉันมานะ"
"เดี๋ยวดิแกจะไปไหน"
"รอฉันแป๊บหนึ่ง" ฝันดีฝากกระเป๋าไว้กับเพื่อนแล้วตรงดิ่งไปที่ผู้ชายคนนั้นทันที
"คุณคะ" ร่างสูงที่กำลังยืนหันหลังคุยกับลูกน้องค่อย ๆ หันมามองยังเจ้าของเสียงเรียก ทันทีที่เห็นใบหน้าของเธอเขาก็นิ่งชะงักไปพร้อมกับทำมือไล่ลูกน้องให้ออกไปก่อน
"...." เงียบไม่ตอบทำเพียงมองมาที่เธอนิ่ง ๆ
"คือว่า.."
"มีอะไรก็รีบพูดมาฉันไม่ได้ว่าง" เขาแทรกขึ้นโดยที่สายตาก็ไม่ละไปจากใบหน้าสวยของเธอ
"คุณมาเที่ยวเหรอคะ ถ้าเกิดว่าคุณมาเที่ยวฉันขอเลี้ยงแทนคำขอบคุณได้ไหมคะ ที่คุณช่วยฉันวันนั้น" เธอไม่อยากติดค้างบุญคุณกับใคร ในเมื่อเจอเขาแล้วคืนนี้ก็ถือว่าเลี้ยงแทนคำขอบคุณไปเลย
"ไม่จำเป็น" เขาปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย
"แต่ว่า.."
"ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัว"
อีกด้าน
ทันทีที่ขึ้นมาบนห้อง ไมเนอร์รีบพาตัวเองไปยืนตรงระเบียงพร้อมกับแง้มม่านเล็กน้อยเพื่อมองลงไปยังโต๊ะที่หญิงสาวนั่งอยู่ นั่นก็คือคนที่เข้ามาทักเขาก่อนหน้านี้ ทำไมเขาจะจำเธอไม่ได้ จำได้แม่นเลยแหละ
ไมเนอร์ ชายหนุ่มวัย 39 ปีเจ้าของความสูง 190 เซนติเมตร เขาเป็นเจ้าของสถานบันเทิงแห่งนี้ และยังเป็นเจ้าของสนามแข่งรถที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทางด้านสถานะหัวใจตอนนี้ปิดสนิทไม่เปิดรับให้ใครเข้ามา สำหรับผู้หญิงแล้วเขาให้ได้แค่ในฐานะคู่นอนเท่านั้นและจะไม่มีกินรอบสองเด็ดขาด ส่วนเรื่องครอบครัวเขาขอไม่เปิดเผยก็แล้วกันเพราะไม่อยากพูดถึง รู้แค่ว่าครอบครัวของเขาตอนนี้มีแค่น้องชายก็พอแล้ว
"นายครับ" อคิน ลูกน้องคนสนิทของไมเนอร์เข้ามาหาผู้เป็นนายหลังจากได้รับข้อความ
"ไปเรียกเดซี่มาหากู" เขาสั่งโดยที่สายตายังจับจ้องไปยังหญิงสาว ทั้งสองที่นั่งอยู่โต๊ะโซนธรรมดา
"ครับ"
อคินออกไปแล้วทว่าไมเนอร์ยังคงยืนอยู่ที่เดิม แต่ในจังหวะนั้นเอง.. ฝันดีดันเงยหน้าขึ้นมาทำให้เขารีบเอาตัวหลบด้วยความเร็วแสง ก่อนจะหมุนตัวเดินไปทิ้งตัวลงนั่งที่โต๊ะทำงานตัวเอง ที่เขาสั่งให้ลูกน้องไปเรียกเดซี่มาก็เพราะว่าเขามีบางอย่างที่อยากจะคุยกับอีกคน..
“ค่ะคุณไมเนอร์” ไม่นานเดซี่ก็เข้าห้องมาหลังจากที่ไมเนอร์ให้ลูกน้องไปตามเธอมาพบ
“ฉันอยากรู้ประวัติเธอคนนั้น”
“ใครเหรอคะ”
“คนที่มาแทนเธอ” เขาหมายถึงฝันดีสินะ เพราะมีแค่ฝันดีที่มาทำงานแทนเดซี่ในช่วงที่เธอลา
“คุณไมเนอร์จะเอาไปทำไมเหรอคะ”
“ฉันแค่อยากรู้” นั่นหมายความว่าทำตามที่เขาสั่งก็พอ
“ได้ค่ะ”
“ขอภายในวันนี้”
“ค่ะ” จากนั้นเดซี่ก็ออกจากห้องไป ไมเนอร์นั่งนิ่งเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ ขณะนั้นเอง..
แอด
“แม่งโคตรสวย” ครูซเอ่ยเมื่อพรวดพราดเข้ามาในห้อง เขาไม่นั่งแต่ตรงไปที่กระจกพร้อมกับมองลงไปยังชั้นล่างแทน
“อะไรของมึง” อยู่ ๆ ก็พูดขึ้นแล้วเดินไปดูอะไรก็ไม่รู้
“ตอนกูเดินเข้าร้านมา กูเห็นผู้หญิงสองคนแม่งโคตรสวย”
“ไหนวะ” แล้วคิดว่าเสืออย่างเขาจะยอมอยู่นิ่งอย่างนั้นเหรอ ไมเนอร์ลุกพรวดพราดตามเพื่อนไปดูอีกคน ทว่า..
“เป็นไง สวยสัส ๆ” เพราะผู้หญิงที่เพื่อนเขาหมายถึงนั่นก็คือฝันดีและเพื่อนของเธอยังไงล่ะ
“สวยตรงไหน”
“สเปคมึงนี่”
“ไร้สาระ”
“กูคิดอะไรออกละ” ครูซยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะลากเพื่อนให้ตามลงไป
“มึงจะพากูไปไหนไอ้เหี้xครูซ”
“เถอะน่า”
ตึกตึก..
กึก!
“.../...” สองสาวที่กำลังนั่งคุยกันอยู่อย่างสนุกสนานเป็นต้องเงียบเสียงลงเมื่อมีคนเดินมาหยุดข้างโต๊ะที่พวกเธอนั่ง ฝันดีและใยไหมมองไปยังสองหนุ่มที่ยืนทำหน้านิ่งหนึ่งคน ยิ้มตาหยีอยู่หนึ่งคน
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” เป็นใยไหมที่ถาม ส่วนฝันดีเธอมองถัดไปที่อีกคน ไมเนอร์เบือนหน้าหนีไปมองอย่างอื่นทันที
“ขอพวกฉันนั่งด้วยได้ไหมพอดีโต๊ะมันเต็ม”
“ฮะ?” ทั้งสามอุทานออกมาพร้อมกันทันทีเมื่อครูซพูดจบประโยค ก่อนจะพากันหันมองไปรอบ ๆ ร้านที่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพียงประปรายเนื่องจากยังไม่ดึกมากคนเลยไม่เยอะ
“มึงพูดอะไรก็ให้มันเนียน ๆ หน่อยไอ้เวร” ไมเนอร์กัดฟันกรอดกระซิบข้างหูเพื่อนให้ได้ยินกันแค่สองคน เขาอยากเอาหัวโขกโต๊ะแรง ๆ สักทีตอนที่เพื่อนเอ่ยคำนั้นออกมา ขายขี้หน้าชะมัด
“กูรีบ”
“เอากูมาขายขี้หน้าจริง ๆ”
“สรุปขอนั่งด้วยได้ไหม”
“เชิญค่ะ” เป็นใยไหมอีกเช่นเคยที่อนุญาตให้สองหนุ่มนั่ง ฝันดีหันขวับไปมองยัยเพื่อนตัวดีทันที
“ขอบคุณ” ครูซเอ่ยขอบคุณพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งทว่ามีอยู่หนึ่งคนที่ไม่ยอมนั่งลง ไมเนอร์ทำเป็นมองไปทั่วร้านเหมือนกำลังตรวจงาน
“ยืนหาพ่อมึงเหรอ นั่งสิวะ”
“เอ่อ..”
“มันคือการคุยกันแบบเพื่อนรักอย่างพวกฉันน่ะ”
“อ่า..” ฝันดีทำหน้าพยายามเข้าใจ
“ว่าแต่พวกเธอชื่ออะไรกันบ้าง” และก็ยังเป็นครูซที่ชวนสองสาวคุยไม่หยุด โดยข้างกายก็เป็นไมเนอร์ที่เอาแต่เงียบฟังพวกเขาคุยกัน
“ฉันใยไหมค่ะ”
“ฉัน..”
“ฝันดี ยัยนี่ชื่อฝันดี” ยังไม่ทันที่ฝันดีจะได้แนะนำตัวเอง ใครบางคนก็แทรกขึ้นซะก่อน ทั้งสามหันไปมองที่เขาเป็นตาเดียวโดยเฉพาะเจ้าของชื่อ
“มึงรู้ได้ยังไง”
“เรื่องของกู”
“สัส”
“ค่ะ ฉันชื่อฝันดี”
“จริงจัง?”
“ค่ะ”
“มึงรู้จักเธอทำไมไม่บอกกู”
“ไม่รู้จัก”
“ตอแหล”
“มึงต้องการอะไรจากกูไอ้ครูซ”
“ยอมรับสิว่ามึงกินแล้ว”
“ปากมึงนี่น่าเอาตีนยัดไว้จริง ๆ” ต่อให้ได้หรือไม่ได้มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมาพูดให้คนฟัง อีกอย่างเธอก็นั่งอยู่ตรงนี้ มันไม่ควรพูดเพราะถือว่าไม่ให้เกียรติอีกฝ่าย แม้ว่าเธอจะไม่ได้ยินก็ตาม
“ทำเป็นเข้มนะ”
“เข้มพ่อมึงสิ”
“กูฟ้องพ่อกูนะ”
“ไปตายที่ไหนก็ไป”
“นี่ พวกเธอรู้หรือเปล่าว่าบ้านมันมีสวนสัตว์ด้วยนะ”
“ไม่รู้ค่ะ ไม่ใช่ญาติ” เป็นใยไหมที่ตอบกลับไปทำเอาฝันดีและไมเนอร์หัวเราะออกมาพร้อมกัน
“เธอ..เคยวูบไหม?”
“หยอกค่ะ”
“อยากไปดูกวางบ้านมันไหม” ครูซยังคงหลอกล่อสาวให้เพื่อนไม่หยุด ฝันดีตรงสเปคเพื่อนเขาทุกอย่าง ใยไหมยังห่างมาก แต่ฝันดีคือใช่เลย
“เขาเลี้ยงกวางด้วยเหรอ”
“ตัวใหญ่เลยล่ะ”
“จริงเหรอคุณ” ฝันดีหันไปถามอีกคน
“....” ไมเนอร์ขยับตามองมาที่หญิงสาวนิ่ง ฝันดีก็จ้องเขากลับไปเช่นกัน กลายเป็นว่าตอนนี้ทั้งสองกำลังนั่งจ้องกันอย่างไม่มีใครยอมใครกระทั่ง
“สงสัยจะได้ไปดูกวางบ้านมันจริง ๆ”