บทที่ 5
“มัดแก้มสิคะ”
ศรันย์พรที่ตอนนี้เหลือเพียงแค่ชุดชั้นในแสนน่ารักสองชิ้นเอ่ย เธอกำลังส่งสายตายั่วยวนให้กับอนุชิต ไม่ต้องรอให้เธอบอกซ้ำ เขาจับเธอมัดแขนโยงไว้ตรงหัวเตียง ศรันย์พรหัวเราะเสียงพลิ้วใส แล้วเอ่ยให้เขามัดขาเธอด้วย มันเหมือนเธอถูกขึงพืดกับเตียงแบบช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่มันเพิ่มอารมณ์ให้นักล่าอย่างอนุชิตนัก เขาขยับแส้ในมือเบาๆ ศรันย์พรมองตาวาว แน่ล่ะ นี่คือของเล่นใหม่ ที่เธอริเอามาเล่นกับเขา...มันเพิ่มเติมให้รสชาติเซ็กซ์ของเธอและเขา รวมถึง...
“เซ็กซี่เหลือเกิน”
เขาเอ่ยเสียงกระเส่า มองหญิงสาวที่เหลือเพียงอาภรณ์สองชิ้นนอนระทวยกายอยู่บนเตียงของเขา จากสีหน้ายั่วยวนของเธอ พลันก็เปลี่ยนไป เมื่อศรันย์พรเริ่มกรีดร้องขอความช่วยเหลือ และด่าทอเขา
“ไอ้...เลว ไอ้ระยำ จับฉันมาทำไม ฮือๆ อย่าทำอะไรฉันนะ ปล่อยฉันไป ปล่อย”
โอ เธอกำลังเล่นบทสาวน้อยโดนข่มขืนซาดิสม์สินะ แน่ล่ะเขาจะสนองอารมณ์เธอ แส้ในมือของเขาตวัด ปลายของหนังโดนผิวเนื้อขาวจนเป็นรอยแดง เขาไม่ได้ใส่สุด เพียงแค่นิดๆ เลือดซิบ...มันทั้งเจ็บ และทำให้เธอเกิดอารมณ์
“นังร่าน นังกระหรี่ กูจะเอามึงให้คลาน”
“ฮือๆ อย่า โอ๊ย แก้มเจ็บ เจ็บ อย่าทำ”
เธอยิ่งเพิ่มเสียงกรีดร้อง เมื่อเขาตวัดแส้มาอีกหน จนเลือดเธอซิบ ก่อนจะแลบลิ้นออกมาเลียเลือดนั้น ศรันย์พรน้ำตาไหลร่วง ร้องไห้สะอื้น ขณะที่เขากำลังเลียเล็มไปทั้งตัวเธอ เขาฉีกบารเธอแล้วดูดดื่มบัวคู่ขาวอย่างตะกละตะกลาม
“อ๊า...อื้อ อย่ากัด ซี๊ด”
“กูรู้มึงชอบ”
เขาเอ่ยงึมงำ เอ่ยคำพูดเถื่อนๆ ถ่อยๆ ไปด้วยระหว่างที่จับจูบลูบคลำ ศรันย์พรดิ้นระริกระรี้ ร้องครางออกมาเมื่อเขาเลียไปถึงแผ่นท้องขาวนวล แล้วมือก็กระชากกางเกงในตัวน้อยให้ขาดวิ่น
อา...
ปากร้องด่าทอ แต่ขากลับอ้ากว้างให้เขาเห็นส่วนสัดสาว แน่ล่ะมันคือบทละครเพื่อเพิ่มอารมณ์เซ็กซ์ระหว่างเธอกับเขา มีเพียงอนุชิตที่ตอบสนองเธอได้ทุกสิ่ง การรับบทสาวน้อยที่ถูกขืนใจ มันทำให้เธอเปียกแฉะ และเสียวซ่านนัก
อนุชิตมองส่วนที่เปียกฉ่ำตาวาว แล้วแลบลิ้นออกเลียติ่งสาว ร่างงามกระตุกเมื่อเขาเริ่มดูดดื่มมัน เธอครางออกมาเสียงกระเส่า บอกอ้อนให้เขาปลดเธอออกจากพันธนาการ...เขาดึงเชือกออก แล้วก็ตกอยู่ใต้การควบคุมของร่างงดงามนั่นบ้าง
เธอคร่อมตัวเขา ริมฝีปากบดลงมาจูบดูดดื่ม มือของเขาเคล้าเต้าเต่ง บี้คลึงอย่างเมามัน เธอเอาส่วนสาวถูไถกับความแข็งชูชันผงาดนั้น แล้วค่อยสวมทับกับความใหญ่โตนั่น มันแนบแน่น...และดูดตอดเขา จนคนใต้ร่างเธอส่งเสียงคราง เมื่อเธอเริ่มขยับควบเขา
“อ๊า อา...อีนังตัวดี ซี๊ด อื้ม เอาอีก เอาอีก”
เขาตีสะโพกเธอแรงๆ ไปด้วยขณะที่เธอกำลังควบขี่ มือก็เคล้าเต้านุ่มจนมันแดง แต่ศรันย์พรกลับชื่นชอบความรุนแรงที่แสนเสียวซ่านนี้ เธอจับมือของเขาขึ้นมา เขาสอดนิ้วเข้าปากเธอ เธอกัดมันขณะที่ควบขี่เขาไปด้วยอย่างได้อารมณ์
เลือดของเขาซึมนิดๆ ให้เธอได้ลิ้มรสขณะที่เธอพาเขาไต่ไปยังสรวงวิมานแมน
เสียงครางของเขาและเธอคลอกันดังลั่น เธอถูกพลิกร่างลงให้หันหลังให้เขา อนุชิตสวมสอดจากทางด้านหลังเป็นท่ากวางเหลียวหลัง มือของเขาข้างหนึ่งบีบเต้าอวบ อีกข้างลูบลงไปยังกลีบสาวอ้าเผย บี้ติ่งเกสรไปด้วยขณะที่ควบขับเธอไปด้วยในจังหวะที่แสนดุดัน
“อา แรงอีก แรงอีกสิ ไอ้เหี้ย แรงอีก ซี๊ด...โอ้ว...ผัวขา ผัวทำมันมาก อ๊า...เมียจะถึงแล้วซี๊ด”
“แตกในเลยนะเมียจ๋า โอว...อื้ม...”
“กัดเมีย กัดเมียสิคะ อ๊า...”
เขาก้มลงงับบ่ามนเบาๆ พร้อมกับเร่งจังหวะ เธอร้องกรี๊ดเมื่อถึงจุดสุดยอด ร่างงามกระตุกเกร็ง เป็นจังหวะเดียวกับที่เขาพุ่งหลั่งเชื้อพันธุ์มากมายลงในร่างกายเธอ ที่เขากล้าทำแบบนี้เพราะรู้ว่าเธอฝังยาคุม ฉะนั้นหมดห่วงเรื่องที่จะมีมารหัวขนจากการมีความสุขด้วยกัน หล่อนไม่ยอมให้มีอะไรมาตัดอนาคตของหล่อนแน่ ที่เขาชอบหล่อนส่วนหนึ่ง เพราะศรันย์พรฉลาดรู้อะไรควรไม่ควรทำนี่ล่ะ
ทั้งสองหอบหายใจ แล้วคร่อมทับกัน ก่อนที่ศรันย์พรจะค่อยจูบไปตามผิวเนื้อแข็งแกร่งของอนุชิต ที่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เหมือนจะปลุกพลังให้กับตัวเอง เมื่อมือน้อยแสนซุกซนนั่นลูบลงไปยังส่วนชายของเขาที่คอตกพับเพราะเพิ่งถูกรีดพิษไป
นังเด็กตะกละ
คืนนี้เขาจะต้องตอบสนองเธออีกสินะ
หนเดียวไม่เคยพอไม่เคยอิ่มจริงๆ
............................................................................................................................................................................
“เก็บของเสีย ผมจะรอที่นี่” คนสั่งทรุดลงนั่งตรงโซฟา แล้วยื่นมือมาตรงหน้าเธอ พร้อมกับเอ่ยเสียงเย็น
“ขอโทรศัพท์มือถือของเธอให้ผมด้วย อรุณ”
“คะ?”
คิ้วของเธอขมวดไม่เข้าใจกับคำสั่งของเขา ตั้งแต่...ที่ลืมตาตื่นบนเตียงเขา เธอก็หัวหมุนไปหมดเพราะเขาสั่ง สั่ง สั่ง อยู่ตลอดเวลา นัยน์ตาดุๆ นั้น น้ำเสียงนั้น ทำให้เธอไม่กล้าขัดคำสั่ง เธอกลัวเขา...เกรงเขา...เงื่อนไขใดๆ ที่เขาสร้างขึ้นมาระหว่างกัน มันทำให้อรุณพิไลจำต้องยอมจำนน
จำนนกับเงื่อนไขเหล่านั้นอย่างไม่มีทางเลือก
เขามันวายร้าย...ผู้ชายโรคจิตชัดๆ
เธอจะทำอย่างไรถึงจะหนีไปจากเขาได้นะ
อรุณพิไลเม้มริมฝีปาก เธอจำยื่นโทรศัพท์ให้เขา แล้วเอ่ยเสียงเย็น
“ชีวิตของหนูก็ต้องให้คุณด้วยหรือเปล่าคะ?”
คำเอ่ยเชิงประชดนั่น ทำให้คนฟังเกือบยิ้ม แต่ก็แสร้งทำหน้านิ่งพลางเอ่ยออกมาเสียงเรียบ
“ผมไม่ได้ต้องการชีวิตของเธอหรอกนะอรุณ มันไม่มีค่าอะไรสำหรับผม ผมต้องการอย่างอื่นมากกว่า จะต้องให้ผมบอกไหมว่า กับเธอ ผมอยากได้อะไร”
“หนูรู้ค่ะ...” เธอเม้มปากแน่น แล้วกำมือเข้าหากัน ก่อนจะเอ่ยเสียงพยายามไม่ให้สั่น
“คุณจะ...ให้หนูอยู่ตรงนี้อีกนานเท่าไหร่ แล้ว...สำหรับคุณหนูคืออะไร?”
คำถามถึงสถานะ ทำให้คนที่สร้างสถานการณ์ทั้งหมดเพื่อน้องสาว ถึงกับอึ้งไปครู่ แล้วตอบเสียงเย็นชา...
“สำหรับผม เธอคือของเล่น...อรุณพิไล ถ้าผมเล่นเบื่อแล้ว ผมก็จะปล่อยเธอไป ระหว่างนั้นผมก็จะดูแลให้คุณอยู่กับผมอย่างมีความสุขเป็นการตอบแทน ดีไหม? ผมมีที่อยู่ มีข้าวให้กิน อ้อ...ผมมีเงินเดือนให้ด้วย อาจจะไม่มาก แต่มันก็คงพอที่จะไม่ให้เธอไปไถลหาค่าครองชีพด้วยวิธีการที่เคยทำ” เขาเน้นคำท้าย ทำให้อรุณพิไลถึงกับขมวดคิ้วกับคำพูดนั้นของศาสตรา
วิธีการที่เคยทำ?
พนักงานเซเว่นน่ะเหรอ?
หรือเขาคิดว่าอะไร...ดูเหมือนเขาจะดูแคลนเธอเหลือเกิน และด้วยวิธีที่เขารวบรัดและใช้กับเธออีก เขาเห็นเธอเป็นคนอย่างไรกันแน่
เธอเม้มปากแน่น ไม่พูด ไม่ตอบโต้ คนอย่างนี้ตอบโต้ไปก็ไร้ประโยชน์ เขามั่นใจว่าเธอเป็นอย่างนั้นไปแล้ว เอาเถอะ...เธอมั่นใจว่าเธอจะพิสูจน์ตัวเองได้ แล้วก็จะทำให้เขาเอือมระอา ไม่อยากเล่นของชิ้นนี้อีกแล้ว ปล่อยเธอไปโดยไว
คนบ้านี่คาดหวังอะไรจากเธอกันนะ
เธอเดินหันหลังจากเขาเงียบๆ เดินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน เพื่อเก็บข้าวของ ตามที่เจ้านายสั่ง หึ...เขาเป็นเจ้านาย ก็ปล่อยให้เขาเป็น เขาบอกเองว่าจะให้ที่อยู่ที่กิน จะคุ้มหัวเธอแลกเปลี่ยนกับการที่เธอยอมเป็นของเล่นของเขา...
เอาเถอะอรุณ มาถึงขั้นนี้แล้ว ไหนๆ เธอก็เสียรู้หมาป่าตนนี้ไปแล้ว เมื่อเขาก็ไม่ได้คิดแค่หลอกฟันเธอได้พรหมจรรย์เธอหนเดียวแล้วทิ้ง แถมยังต่อรองรับเธอไว้เป็นของเล่น เธอควรดีใจ? ดีไหมนะ
กับเขา...
ผู้ชายที่เรียกได้ว่าสามีแห่งชาติของมหาวิทยาลัย ใครๆ ก็อยากได้
แต่อรุณพิไลอยากไปให้ห่างไกลเขาเหลือเกิน
เมื่อคล้อยหลังเธอไปแล้ว ศาสตราก็เปิดดูโทรศัพท์มือถือของอรุณพิไล ข้อความที่เธอยังไม่ได้อ่านส่งมาจาก...อนุชิต หมอนี่กำลังติดต่อเจ้าหล่อนจริงๆ สินะ เขาถือวิสาสะเปิดอ่าน หลายๆ ข้อความนั้นบอกชัดว่าฝ่ายนั้นรุกหนักมาก ส่วนทางอรุณพิไลนั้น ตอบข้อความสั้นมาก แทบจะจับใจความอะไรไม่ได้ หล่อนตอบทางนั้นเพียงค่ะ...ไม่ค่ะ หรือไม่ก็ขอบคุณค่ะ...
แบบนี้เหมือนจะยิ่งยุให้เสืออย่างอนุชิตอยากจะล่าหล่อนมากขึ้น ไม่รู้ว่าหล่อนรู้หรือเปล่า ถึงได้แสร้งวางกับดับเสือแบบนี้ ข้อความล่าสุดที่บอกเกี่ยวกับบิดาของหล่อน ทำให้ศาสตราเม้มริมฝีปาก เขาเปิดนั่นดูนี่อีกสักพักก็รู้ล่ะว่าบิดาของหล่อนอยู่โรงพยาบาลไหน เมื่ออนุชิตเอาสิ่งนี้จะมาตั้งใจรุกฆาตหล่อน เขาก็จะทำให้มันไม่มีความหมายอีกต่อไป
“อะไรนะคะ เป็นญาติของคนไข้ ต้องการจ่ายค่าใช้จ่ายหรือคะ”
“ครับ...แจ้งมาได้เลยครับ แล้วก็ขอบิลด้วยนะครับ”
“ยอดนี้คือยอดที่ยังค้างชำระตอนนี้นะคะ หนึ่งหมื่นแปดพันห้าร้อยสิบสองบาทค่ะ”
“ถ้าผมต้องการจ่ายยอดที่รวมค่าผ่าตัดค่ายาทั้งหมดแล้วล่ะครับ เป็นเงินเท่าไหร่ ผมอยากจ่ายล่วงหน้าไว้เลยครับ”
“อ้อ...ถ้าอย่างนั้นรอสักครู่นะคะ”
ศาสตราขอหมายเลขบัญชีของโรงพยาบาล เมื่อทางนั้นแจ้งยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมดมา มันก็...มากพอสมควร แต่เขาจ่ายไหว เพื่อน้องสาวของเขาจะได้สบายใจ และเพื่อที่อนุชิตจะได้เลิกมาต่อรองกับคนของเขาอีก...
ใช่...
ตอนนี้หล่อนเป็นของเขาแล้ว
อรุณพิไล...
หล่อนเดินลงมาหลังจากที่เขาโอนเงินให้กับโรงพยาบาลแล้วเรียบร้อย ทางนั้นส่งไลน์บิลค่ารักษาที่เขาชำระมาทั้งหมดให้เขา แล้วขอที่อยู่เพื่อส่งเอกสารตัวจริงให้อีกหนหนึ่ง
เขาลุกขึ้นยืน มองหน้าสวยใสที่ซีดเซียวไปเล็กน้อยของอรุณพิไล พร้อมกับเอ่ยเสียงทุ้ม
“ไปกันเถอะ...เธอคงจะไม่ได้มาที่นี่อีกนาน เก็บของเรียบร้อยทั้งหมดแล้วนะ"
“ค่ะ”
อรุณพิไลก้มหน้า ไม่อยากมองหน้าเขาเลยสักนิด...ปากของเธอเม้มแน่นอยู่ตลอดเวลา อาจารย์หนุ่มใหญ่มองเห็นอาการต่อต้านนั่นของหล่อน แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรที่หล่อนทำแบบนั้น
เขาชอบปราบม้าพยศ และเด็กดื้อ
เขาคิดในใจ ขณะที่ช่วยเธอถือของตรงไปยังรถยนต์ของตนที่จอดไว้หน้าบ้านของหล่อน