INTRO - ถูกใจ
เสียงเพลงภายในสถานบันเทิงดังกระหึ่ม ผู้คนมากมายดื่มจนเมาไม่ได้สติ ภายใต้แสงไฟหลากสีภายในคลับมีสายตาดุจเหยี่ยวคู่หนึ่งกำลังมองหาเหยื่อที่ถูกใจ
เพลิง มาเฟียหนุ่มผู้ทรงอิทธิพล นี่คือครั้งแรกในรอบเกือบสิบปีที่เขากลับมาประเทศไทย จนถึงตอนนี้เขาก็ยังมองหาผู้หญิงที่ถูกใจไม่ได้ ด้วยนิสัยที่เลือกกินไม่ชอบกินมั่วมาแต่ไหนแต่ไร แต่ถ้าเจอผู้หญิงที่ถูกใจเขาจะล็อกเป้าหมายทันที
ปัก!
“อื้อ! ม่ายมีตามองหรือไงว่ามีคนเดินอยู่ ชนมาได้” จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินโซซัดโซเซก่อนจะสะดุดข้าตัวเองล้มลงบนตักของผม เธอเมาจนไม่ได้สติจึงโวยวายออกไปคิดว่ามีคนชน
“หนัก! ลุกขึ้นไป” ผมออกคำสั่งอย่างไม่ชอบใจโดยไม่คิดจะมองหน้าคนที่นั่งอยู่
หาเหยื่ออยู่ดี ๆ ดันมีผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ล้มลงมานั่งบนตัก น่าหงุดหงิดชะมัด
“ลุกปายหนาย”
“กลับไปที่ของเธอ”
“อึก~ ที่นี่ที่ไหน เอยอยากกลับบ้าน”
“อยากให้ฉันไปส่ง ?”
“คาย! นายเป็นคาย!!”
“หึ!”
ผมเค้นหัวเราะในลำคอก่อนจะมองผู้หญิงที่นั่งบนตักอย่างพิจารณา ฝ่ามือใหญ่ปัดไรผมที่หล่นลงเกะกะมาทัดไว้ที่หลังใบหูให้เธอ เผยให้เห็นใบหน้าที่จิ้มลิ้มชวนมอง แน่นอนว่าถูกใจหนุ่มเจ้าสำราญอย่างผมไม่น้อย
หามาตั้งนานบทจะเจอก็เจอง่าย ๆ เมื่อเจอเหยื่อที่ถูกใจมาหาถึงที่แน่นอนว่าผมไม่มีทางปล่อยเธอหลุดมือไปง่าย ๆ
ผมตัดสินใจอุ้มร่างของเธอออกมาจากคลับทั้งที่ไม่รู้จักชื่อ ไม่รู้ว่าเธอคือใคร แต่เรื่องแบบนี้สำหรับหนุ่มเจ้าสำราญอย่างผมมันปกติ เมื่อถูกใจ… เธอก็ต้องเป็นของผมอย่างไม่มีข้อแม้
“อื้อ~ จะพาไปหนาย” คนตัวเล็กในอ้อมแขนเริ่มดิ้นเมื่อถูกจับวางที่เบาะของรถ
“สวรรค์”
“นะ นี่เอยตายแล้วเหรอคะ มะ ม่ายนะ เอยยังไม่อยากตาย” เธอโวยวายเสียงดังคิดว่าตัวเองตายแล้วและกำลังอยู่บนสวรรค์ “ปัญญาอ่อน”
ผมพูดไปอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นท่าทางของผู้หญิงตรงหน้าที่เพิ่งอุ้มมาที่รถ ไม่รู้ว่าคิดผิดหรือเปล่าที่จะพาผู้หญิงคนนี้กลับโรงแรม แต่พรุ่งนี้ต้องกลับอังกฤษแล้วถ้าไม่ได้เหยื่อ การมาไทยครั้งนี้คงจะเสียเที่ยว
“ท่านคือใคร ทะ ทำไมหล่อจัง เป็นเทวดาเหรอเพคะ”
“อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าฉันจะเป็นผัวเธอ”
“อื้อ~ ไม่เอาหม่อมฉันไม่อยากมีผัว หม่อมฉันตายแล้วมีผัวไม่ได้เพคะ”
#โรงแรมหรู
ภายในห้องระดับพรีเมียม ผมอุ้มผู้หญิงตัวเล็กมาวางไว้บนเตียงขนาดคิงไซซ์ แล้วจ้องมองเรือนร่างของเธออย่างไม่ละสายตา
“นะ หนาว”
“เดี๋ยวก็ร้อน”
ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรให้ยืดยาว ผมขึ้นคร่อมบนตัวของเธอที่นอนไม่ได้สติ ก่อนจะก้มลงฉกชิมรสหวานจากริมฝีปากอวบอิ่มอย่างอดใจไม่ไหว ทว่าก็ต้องแปลกใจเพราะคนตัวเล็กใต้ร่างทำเหมือนจูบไม่เป็น
“อื้อ มะ ไม่นะ อื้อ~” เธอใช้มือปัดป่ายไปทั่วแม้ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“ต้องการเงินเท่าไหร่ ?”
ดวงตากลมค่อย ๆ เปิดขึ้นมองหน้าผม เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยท่าทางที่ไม่มีสติเหมือนเดิม
“ถามว่าจะเอาเงินเท่าไหร่ ฉันยินดีจ่าย” ผมถามย้ำ
“หะ ห้ายเงินเอยทำมายคะ”
“คืนนี้ฉันซื้อเธอ ค่าตัวเท่าไหร่ว่ามา”
ดวงตาของเธอค่อย ๆ ปิดลงช้า ๆ แถมยังไม่ยอมตอบคำถามของผม
ผมจ้องมองใบหน้าหวานรับรู้ได้ว่าผู้หญิงคนนี้บริสุทธิ์และมันก็ทำให้ผมยิ่งอยากลิ้มลองรสหวานจากร่างกายของเธอ ถึงแม้ตอนนี้เธอจะหลับไปแล้ว ผมก้มลงสูดกลิ่นหอมตรงซอกคอของผู้หญิงใต้ร่างที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อ
แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาซะก่อน ผมหันไปจ้องมองโทรศัพท์อย่างไม่ชอบใจเท่าไหร่ เพราะถูกขัดจังหวะแต่ก็ยอมรับสายแต่โดยดี
“มีอะไร”
(นายครับตอนนี้โกดังไฟไหม้ไฟกำลังลามไปทั่วแล้วครับ)
“พวกมึงดูแลกันยังไงให้โกดังกูไฟไหม้ฮะ!!” ผมตวาดถามลูกน้องอย่างไม่สบอารมณ์ ถ้าหากไฟไหม้ทั้งโกดังมูลค่าความเสียหายทั้งหมดคงไม่ต่ำกว่าร้อยล้าน
(พวกที่เฝ้าหน้าโกดังถูกวางยาทั้งหมดเลยครับนาย)
ผมตัดสายทิ้งพร้อมกับกำโทรศัพท์ในมือแน่น รู้ดีว่าเรื่องนี้ต้องมีคนอยู่เบื้องหลัง และตอนนี้ผมไม่สามารถนิ่งนอนใจอยู่ที่ไทยได้ เพราะต้องรีบกลับอังกฤษ
ใจนึกเสียดายเมื่อมองร่างอรชรที่นอนหลับอยู่ ถ้าปล่อยเธอไปก็คงจะเหมือนปล่อยเนื้อชิ้นดี แต่ตอนนี้มันมีเรื่องที่ต้องสนใจมากกว่าเซ็กส์
ผมก้มลงกระซิบบอกข้าง ๆ หูของคนตัวเล็กที่กำลังหลับไม่รู้เรื่อง “ครั้งนี้ฉันจะยอมปล่อยเธอไปแต่ถ้าเจอกันอีกเมื่อไหร่เตรียมตัวเอาไว้เพราะฉันจะ… ลากเธอขึ้นเตียง”
“อื้อ~”