Chapter 6 เมื่อไหร่จะไป
ลาฟฟี่ก้าร์ผับ
ในค่ำคืนของย่านบันเทิง เต็มไปด้วยแสงสีเสียงและผู้คนเริ่มพลุกพล่าน จุดนัดพบคือด้านหน้าของผับ เฌอเอมมาถึงก่อนและนั่งรอเพื่อนเกือบหนึ่งชั่วโมง มองไปทิศทางไหนก็มีแต่หนุ่มสวมควงกันมาเป็นคู่ ในส่วนตัวเองยังหน้าหน้างอตามลำพัง
“ทำไมยังไม่มา”
เพราะนั่งรอนาน ย่อมถูกสายตาผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมามองอย่างสงสัย จนรู้สึกเกิดความประหม่า เปิดกระเป๋าหยิบมือถือเพื่อหมายจะต่อสายตามเพื่อนของตัวเอง ก็ต้องเงยหน้าที่ก้มมองหน้าจอขึ้นไปมองต้นทางของเสียงเรียก
“เอม!!”
แนนนี่เดินมาพร้อมกับชายไม่คุ้นหน้า คนมองแอบแปลกใจ ในทีแรกนึกว่าเพื่อนจะควงแฟนหนุ่มที่มารับกลับบ้านไปเมื่อตอนเย็น ทว่ากับควงชายอีกคนมาผับแห่งนี้
“กำลังจะโทรหา”
“โทษทีนะเพื่อนรถติด ลานจอดรถก็เต็ม ต้องเอาไปจอดฝั่งโน้น เลยใช้เวลาเดินนานไปหน่อย”
"อืม"
“นี่พี่พอล”
แนนนี่แนะนำชายที่ควงมาได้ แม้เฌอเอมจะยกยิ้มแสดงท่าทียินดีที่ได้รู้จัก ทว่ายังงงๆ แต่กระนั้นก็พอเดาออกว่าคนที่เพื่อนหนีบมาด้วยเป็นชายในสต๊อกหรือที่เรียกว่ากิ๊กนั้นเอง
“แล้วนี่เพื่อนแนนเอง ยัยเอมที่เคยเล่าให้ฟัง”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับน้องเอม ได้เจอตัวจริงก็วันนี้”
หญิงสาวยกมือไหว้เป็นมารยาท ในขณะที่อีกฝ่ายก็ไหว้ตอบอย่างสุภาพ ก่อนจะมีชายอีกคนเดินสมทบมาตามหลัง จังหวะนั้นทำเฌอเอมงุนงงไปใหญ่ นอกจากจะมีเธอเพื่อนสาวและชายหนุ่มที่เป็นกิ๊ก ยังมีผู้มาใหม่อีกคนที่เธอไม่รู้จัก
“มาพอดีเลย ช้าอีกนิด แนนให้พี่พอลโทรตามแล้ว”
“ขอโทษที พี่ไม่เคยมาแถวนี้เลยขับหลง”
ชายผู้มาใหม่ขอโทษขอโพย ก่อนจะหันไปยิ้มให้หญิงสาวหน้าตาสะสวย กระทั่งถูกแนะให้รู้จักว่าชื่อคิม เมื่อทั้งหมดรู้จักกันก็เดินเข้าไปด้านใน
“น่าสนุกนะน้องแนน”
พอลเอ่ยขึ้นทั้งขยับตัวโอบเอวเจ้าของชื่อทันที ยังไม่ถึงครึ่งคืน เขาก็รุ่มร่ามเพื่อนสาวของเธอเสียแล้ว แต่ก็ช่างเถอะ นั่นมันเรื่องส่วนตัวของแนนนี่ เฌอเอมยืนโยกส่ายเรือนร่างตามเสียงเพลงพอเป็นพิธี และยกแก้วแอลกอฮอล์ที่ชงเข้มจนแทบกลืนไม่ลง ทว่าก็ยกดื่มเป็นมารยาทเพื่อให้บรรยากาศนั้นดูสนุกสนาน
“เอมเมาหรือเปล่า”
ความเสียงดังอัดแน่นไปด้วยดนตรี ทำให้คิมขยับเข้าใกล้ เอียงคอถามในระยะแค่คืบ ในตอนนี้เฌอเอมเริ่มมึนเบลอ เธอไม่ใช่นักดื่มแต่มาที่นี่เพราะอยากจะหลีกหนีใครบางคนก็เท่านั้น
“รู้สึกมึนๆ ขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”
ใบหน้าที่ร้อนผ่าวจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เล่นงานเธอ ความเมาจนต้องเดินเกาะไปตามโต๊ะตามผนังเพื่อประคองตัวเองไม่ให้ล้ม แม้คิมจะพยายามเข้าช่วยก็ถูกปฏิเสธ จนกระทั่งพาตัวเองมายืนที่อ่างล้างมือห้องน้ำหญิง คนเมาเปิดน้ำจากนั้นค่อยๆ พรมความเย็นเข้าไปหน้าให้สดชื่น ก่อนจะยืนสูดหายใจรวบรวมสติตัวเอง
“ดื่มแค่นี้ก็เมาเหรอเอม”
ต้องเมาอยู่แล้ว เพราะตัวเองไม่ใช่นักดื่ม ลูบน้ำบนใบหน้า จนรู้สึกว่าตัวเองดีขึ้น กำลังจะเดินกลับมาโต๊ะเดิมดื่มน้ำเปล่าแทนเครื่องดื่มเพราะรู้สึกว่าตัวเองเริ่มไม่ไหว ยังไม่พ้นบริเวณส่วนห้องน้ำกลับถูกมือปริศนากระชากออกไปยังมุมดูดบุหรี่
“ปล่อย!!”
ความมืดในผับและยังตาลายจากความเมา มองคนปริศนาได้ไม่ชัดเต็มตา รู้สึกคุ้นแต่ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร เฌอเอมคิดไปเองว่าชายที่ดึงเธอออกมานั้นคือพี่คิมเพื่อนสนิทของพี่พอล
“พี่ปล่อยเอมนะ อย่าทำแบบนี้”
“ทำไมจะทำไม่ได้”
เสียงที่เอ่ยออกมา พร้อมกับผลักคนตัวเล็กกระแทกเข้ากับผนังปูนเปลือย จากความมืดสลัวด้านในพลันสว่างจ้าขึ้นเป็นผลให้หญิงสาวเบิกดวงตากลมโตอย่างตกใจ ชายตรงหน้าคือปวีร์ เขาใช้มือยันเข้ากับผนังสองข้าง ขณะที่คนอายุน้อยยืนประจันใบหน้าแดงก่ำของชายหนุ่ม เฌอเอมอยากเอาตัวเองหนีออกไปจากตรงนี้ ก็ทำได้แต่ยืนอ้าปากพะงาบไม่คิดว่าโลกจะกลมถึงขั้นเจอพี่ชายที่จงเกลียดจงชังเธอในผับ
“พี่วีร์”
“เป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“แบบไหน”
“ควงผัวคนอื่นมาเที่ยว เหมือนแม่ตัวเองไม่มีผิด”
“พี่วีร์!!”
เมื่ออีกฝ่ายลามปามถึงบุพการีก็ได้แต่กัดฟันจ้องทั้งดวงตาแข็งกร้าว กำปั้นน้อยๆ ทุบเข้าหน้าอกแกร่ง พยายามผลักให้คนอายุมากถอยห่างออกจากตัว แต่ก็หมือนว่าเขาจะยิ่งขยับเข้ามาใกล้มากขึ้นทุกที
“ไม่ใช่”
“เห็นเต็มสองตา ยืนออเซาะซบไหล่กันแบบนั้น ใครก็มองออก”
“ก็บอกว่าไม่ใช่”
เพราะความเมาต่างหาก ทำให้เธอต้องหาที่พิงในยามมึนเบลอทั้งแสงไฟและเครื่องดื่ม ทั้งเกือบล้มกองลงพื้นก็หลายหน ทว่าผู้จับจ้องเหตุการณ์จากโต๊ะด้านข้างนานสองนานเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังอ่อยคนที่มีเจ้าของ
“ถ้าร่าน ก็มาหาฉัน พร้อมทำให้ได้ทุกคืนอยู่แล้ว”
“ไม่!! เลิกยุ่งกับเอมสักที ไม่ชอบกัน เกลียดกันก็เลิกยุ่ง”
เฌอเอมย้ำเสมอ หากเกลียดเธอกับแม่มันก็ควรต้องต่างคนต่างอยู่ แต่เหมือนว่าปวีร์ยังคงวุ่นเวียนหาเรื่องเธอไม่หยุดหย่อน
“จะยุ่งจนกว่าเธอกับแม่จะออกไปจากบ้านหลังนี้ เมื่อไหร่เธอจะไป ห้ะ!!”
แค่นเสียงทั้งตะคอกตรงหน้าพลางโน้มเรียวปากแนบชิดข้างแก้มแต่ไม่ใช่การจูบเป็นเพียงการคลอเคลียเพราะรู้ว่าเฌอเอมไม่ชอบให้ทำแบบนี้
“ปล่อยเอม”
“ปล่อยให้ไปถ่างขาให้ผัวคนอื่นเหรอ”
“อคติ คนอคติ”
“พูดถูก ถ่างให้ฉันคนเดียวก็ไม่พอ ทำไมต้องทำครอบครัวคนอื่นร้าวฉาน เหมือนที่แม่เธอทำกับครอบครัวฉัน”
น้ำเสียงดูถูกเหยียดหยามก็ยังไม่หมดจากปากของปวีร์ อีกทั้งคนอายุมากกว่าคล้ายจะเมามาก เฌอเอมทั้งผลักทั้งดันคนตัวโตก็ไม่อาจหลุดจากพันธการนี้ได้
“ปล่อย บอกให้ปล่อย”
“ไปกับฉัน”
“ไม่ไป เอมจะกลับเอง”
“ต้องปล่อยให้เธอไปอ่อยผัวคนอื่นแล้วเข้าม่านรูดด้วยกันเหรอเฌอเอม -- ฉันไม่มีวันปล่อยเธอทำพฤติกรรมไม่ละอายต่อบาป”
“ความคิดพี่โคตรต่ำ เอมไม่เคยคิดจะทำแบบนั้น ไม่เคยคิดจะไปยุ่งกับคนมีครอบครัว แต่ถ้าพี่เขาโสดก็ว่าไปอย่าง”
เพราะคำพูดที่หมายจะประชดคนเหนือกว่าบ้าง ทำชายหนุ่มหัวร้อนขึ้นหนักกว่าเดิม คิมกำลังระหองระแหงกับภรรยาผู้ซึ่งเป็นเพื่อนกับปวีร์ จังหวะบังเอิญทำสองคนรู้จักกันและเห็นมาคลอเคลียอยู่กับหญิงตรงหน้า ฉะนั้นเขาจะไม่มีปล่อยให้เฌอเอมได้เข้าแทรกกลางครอบครัวเพื่อนของตนเด็ดขาด