บทที่ 9 ตอน 4
“เพิร์ลมีอะไรกับพี่ครับ”
ณัฐนันท์ตัดสินใจถามออกไป เมื่อเห็นอาการที่อยากจะพูดอยากจะถามบางอย่าง แต่ดูประหม่านิดๆของเธอ
“เพิร์ล...เห็นพี่นัทหายไป เพิร์ลไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น...”
เธอเงียบไปแล้วเม้มปากเมื่อรู้สึกว่าเสียงของตัวเองเครือน้อยๆ กลัวว่าพูดออกไปจะเผลอสะอื้นออกมา
ณัฐนันท์มองสบตาของคนที่ตาแดงเหมือนจะร้องไห้ออกมา ก็อดสงสารไม่ได้ใจอ่อนยวบ เธอเหมือนเด็กน้อยๆที่กำลังขวัญเสีย และต้องการการปลอบโยนจากเขา เหมือนลูกแมวตัวน้อยที่กำลังหลงทางแล้วออกมาตามหาเจ้าของ เพราะกลัวว่าเจ้าของจะเอาไปปล่อย
มันดูน่าเอ็นดูบอกไม่ถูก และพอนึกถึงสายตาที่มองมาที่เขาอย่างอิจฉาตอนที่เธอบอกว่ามาหาเขา ก็อดรู้สึกภูมิใจเล็กๆไม่ได้
“พี่มีสอบครับยุ่งมากเลย เพิร์ลดูสิแม้แต่เวลาที่จะโกนหนวดยังไม่มีเลย พี่หล่อน้อยลงสำหรับเพิร์ลหรือเปล่า”
ณัฐนันท์จับมือของเธอให้มาวางที่ข้างแก้มแล้วถูหน้าลงกับมือของเธอ ไรหนวดสั้นๆขูดกับมือของเธอ รู้สึกจั๊กกะจี้ จนอยากจะชักมือออก แต่เขาดึงไว้
“ยุ่งจนไม่มีเวลาอ่านข้อความของเพิร์ลเลยเหรอคะ”
เธอถามเขาเสียงเครือ ณัฐนันท์อึ้งไปไม่ใช่ไม่อ่านแต่ไม่ได้รับเพราะเขาบล็อกเบอร์บล็อกไลน์เธอ
“เพิร์ลส่งข้อความมาเหรอครับ”
เขาทำหน้าตกใจ ซึ่งไม่รู้ว่าเนียนไหม
“ค่ะ ส่งไปหลายข้อความแต่พี่นัทไม่เปิดอ่าน”
ในหัวของณัฐนันท์ประมวลผลอย่างรวดเร็ว ตอบว่าอะไรดีวะ
“โทรศัพท์พี่เสียครับคนดี ยุ่งมากเลยไม่มีเวลาเอาไปซ่อม”
พัลลภามองหน้าเขา กึ่งเชื่อกึ่งไม่เชื่อ
“แน่ะมองแบบนี้แปลว่าไม่เชื่อจริงๆใช่ไหม วันนั้นพอเราแยกกัน พี่ก็ไปที่ร้าน พอดี...ทำน้ำหกใส่โทรศัพท์เปียกหมดเลย มันเลยพัง พี่เลยส่งไปซ่อมครับ เลยไม่รู้เลยว่าเพิร์ลส่งข้อความมา ใจก็คิดถึงเพิร์ลเหมือนกันอยากโทรหา แต่พี่จำเบอร์ไม่ได้ นี่ยังคิดว่าสอบเสร็จจะไปตามหาเพิร์ลที่คณะแต่โชคดีจังที่เพิร์ลมาหาพี่ก่อน”
เขาจับมือเธอเอาไว้ พอเธอมองอย่างสงสัยเขาก็ยกมือเธอขึ้นมาจูบ
“คิดถึงมากเลยรู้ไหม นี่ถ้าวันนี้เพิร์ลไม่มาหา พี่คงไปตามเพิร์ลที่คณะแล้ว”
เขามองสองข้างแก้มที่มีสีระเรื่อขึ้นแล้วอดไม่ได้ที่จะยกมือเธอขึ้นไปจูบอีกที
“จริงเหรอคะ”
พัลลภาเอ่ยถามเขาแม้จะกึ่งเชื่อกึ่งไม่เชื่อ แต่พอเห็นสีหน้าท่าทางของเขา เธอก็ใจเหลวเป็นน้ำ
“จริงสิคะ คนดี จริงทั้งเรื่องโทรศัพท์พัง จริงทั้งเรื่องที่คิดถึงเพิร์ลมาก”
เขาลากคำว่ามากเสียงยาว จนพัลลภาอดยิ้มออกมาไม่ได้
“แล้วโทรศัพท์เอาไปซ่อมหรือยังคะ”
พัลลภารู้สึกว่าใจที่เคยหมองเศร้าเริ่มพองฟูขึ้น เหมือนตุ๊กตาอัดลมที่แห้งเหี่ยวแล้วอยู่ดีดีก็ถูกสูบลมเข้าเต็มตัว มันเหมือนใจของเธอในเวลานี้เลย
“ซ่อมแล้วค่ะ เด็กที่ร้านเพิ่งเอามาให้ตอนเที่ยงนี่เอง ต่อไปพี่ก็โทรหาเพิร์ลได้แล้วนะ”
พัลลภารู้สึกว่าคำพูดของเขามันขัดกันหลายส่วนส่วน ไหนจะบอกว่ายุ่งจนไม่มีเวลาเอาไปซ่อม แล้วก็มาบอกว่าได้โทรศัพท์มาแล้ว ถ้าได้มาแล้วก็โทรหาเธอได้ โดยที่ไม่ต้องไปที่คณะของเธอก็ได้ ตอนแรกเขาบอกว่าถ้าวันนี้เธอไม่มาเขาจะไปตามหาเธอ
แต่เธอก็ไม่อยากจะถามให้รู้สึกไม่ดีต่อกัน จะว่าเธอใจง่ายก็ได้ แต่นาทีที่เขาบอกว่าคิดถึง เธอก็มีความสุขจนไม่อยากจะกลับไปคิดมากอีก เธอทุกข์มาหลายวันแล้ว
“เพิร์ลก็นึกว่าพี่นัทโกรธอะไรเพิร์ลถึงไม่อ่านข้อความ ไม่รับสาย”
เธอบอกกับเขาเสียงเครือ ยังมีความวูบไหวในอารมณ์หลงเหลืออยู่ ห้าวันเลยนะ ที่เธอจมอยู่กับความคิดวกวนซ้ำๆ
“พี่จะโกรธอะไรเพิร์ลล่ะคะคนดี มีแต่กังวลว่าเพิร์ลจะติดต่อพี่ไม่ได้ คิดถึงจะแย่อยู่แล้วรู้ไหม อาทิตย์หน้าพี่มีสอบอีกวิชาเดียว สอบเสร็จเราไปหาอะไรอร่อยๆกินกันดีไหมคะ”
พัลลภายิ้มออกเมื่อเขาบอกแบบนั้น นึกโล่งใจว่าเรื่องราวมันไม่มีอะไรเลย ไม่น่าคิดมากซึมเศร้าอยู่ตั้งหลายวันเลย
“ค่ะ”
พัลลภาพยายามกลั้นยิ้ม ตอนนี้ใจพองฟูคับอกไปหมด ยิ่งมองสบตาคมที่มองมา ยิ่งรู้สึกว่าเขาน่ารักมาก ใจเธออ่อนไปหมดแล้ว พี่นัทน่ารักจัง
“พี่มีสอบช่วงบ่ายค่ะ ต้องไปรอสอบก่อน คนดีขอกำลังใจหน่อยได้ไหมคะ”
***
