บทที่ 4 ตอน 2
“เห็นบอกว่าชอบ เลยให้พนักงานเอามาเก็บใส่กล่องไว้ให้หมดเลย เพราะความชอบของเพิร์ลทำให้ลูกค้าสาขานี้อดกินบานอฟฟี่เลยรู้ไหม”
ณัฐนันท์บอกยิ้มๆ มองดูแก้มเนียนๆที่แต้มรอยแดงโดยไม่ต้องปัดบลัชออนเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะมันเพิ่งแดงตอนที่เธอคุยกับเขานี่เอง อะไรจะขี้อายขนาดนั้น
“ขอบคุณค่ะ ทั้งหมดเท่าไหร่คะ”
พัลลภาเปิดกระเป๋าสตางค์ล้วงธนบัตรออกมาเตรียมจ่ายเงิน
“ไม่เป็นไร พี่ให้ครับไม่คิดเงิน”
ณัฐนันท์เหลือบตามองพนักงานที่เดินออกไปเก็บโต๊ะ เมื่อเห็นว่าอยู่กันเพียงลำพัง เขาก็ถามคำถามที่อยากรู้ พร้อมสายตากรุ้มกริ่ม
“รับพี่นัทใส่กล่องไปด้วยไหม”
พัลลภาเบิกตากลมโตของเธอขึ้นเพราะตกใจกับคำถาม ปากเธอยิ้มกว้างอย่างคนที่ไม่สามารถหุบยิ้มเอาไว้ได้ บ้าจริง ถามอะไรแบบนี้เนี่ย ตอนคุยทางโทรศัพท์ เธอก็เขินตัวจะบิด เล่นมาถามกันต่อหน้าแบบนี้ เธอทำหน้าไม่ถูก
“เอ้าเงียบเลย อุตส่าห์เสนอของอร่อยที่สุดในร้านให้แล้วนะเนี่ย ไม่อยากกินหน่อยเหรอ”
ณัฐนันท์มองแก้มที่แดงขึ้นกว่าเดิมของคนที่พยายามจะหุบยิ้ม อย่างอดเอ็นดูไม่ได้
จริงดิ นี่คือเขินจริง เขินเป็นเรื่องเป็นราวเลยนะเนี่ย
“ให้ฟรีด้วยหรือเปล่าคะ หรือต้องจ่ายด้วยเงินเท่าไหร่ สำหรับของที่อร่อยที่สุดในร้าน”
พัลลภาข่มความอายถามออกไป เพราะไม่อยากให้เขามองว่าเธอซื่อจนเกินไป เธอกลัวว่าเขาจะไม่ชอบที่มัวแต่เหนียมอาย แม้จริงๆจะอายมากก็เถอะ แต่เธอก็อยากจะพูดคุยกับเขานานๆ
“ถ้าเพิร์ลอยากกิน พี่ให้ฟรีได้ครับ...พรุ่งนี้เพิร์ลว่างไหม ไปดูหนังกันไหมครับ”
ณัฐนันท์มองสาวน้อยตรงหน้าแล้วเอ่ยชวนออกไป ถ้าไม่ได้ฟันสักที มันคงอึดอัดคาใจอยู่แบบนี้
“ไปดูหนังเหรอคะ”
พัลลภามองหน้าเขาอย่างคาดไม่ถึง เมื่อเขาชวนไปดูหนัง ใจเต้นแรงยิ่งขึ้นด้วยความตื่นเต้นและดีใจ
“ใช่ครับ เพิร์ลชอบดูหนังแนวไหนพี่ตามใจเลย ให้เพิร์ลเลือก พี่แค่อยากไปดูหนังกับเพิร์ลแค่นั้นเอง”
พัลลภาซ่อนยิ้ม หลุบตาลงมองถุงเค้กในมือ หัวใจเบิกบานไปหมด พี่นัทชวนเธอไปดูหนัง!
“เพิร์ลดูได้ทุกแนวค่ะ พรุ่งนี้กี่โมงดีคะ”
ณัฐนันท์ยิ้มอย่างพอใจเมื่อเธอตกลง
“เที่ยงดีไหมครับ ทานข้าวกันก่อน แล้วค่อยไปดูหนังกัน เพิร์ลให้พี่ไปรับที่ไหนดี”
พัลลภาคิดคำนวนในหัว จะบอกพี่เพชรว่าอะไรดีนะ ส้มก็ไม่อยู่ด้วย ถ้าจะอ้างว่าไปดูหนังกับส้มก็ไม่ได้
“ที่คณะสถาปัตย์ได้ไหมคะ พอดีพรุ่งนี้เพิร์ลมีธุระที่คณะเดี๋ยวเพิร์ลจอดรถไว้ที่นั่น ดูหนังเสร็จพี่นัทก็ส่งที่คณะเหมือนเดิม”
นี่ท่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด บอกพี่เพชรว่ามีงานที่คณะ พี่เพชรจะได้ไม่ต้องสงสัย
“ได้ครับ เที่ยงเจอกันนะครับ”
พัลลภายิ้มแก้มแดง ในใจพองฟูที่ชายที่แอบปลื้มชวนไปดูหนัง
“เจอกันค่ะ ขอบคุณสำหรับเค้กนะคะ”
ณัฐนันท์มองตามหลังสาวน้อยในชุดกระโปรงยาวที่เดินออกจากร้านไป
ปกติเขาไม่นิยมกินของหวาน แต่ถ้าได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็ดีเหมือนกัน กินอะไรเปรี้ยวๆมานานแล้ว กินของหวานบ้างชีวิตจะได้หวานชื่น
“ไปซื้อเค้กมาแค่เนี่ย ทำไมถึงได้เดินยิ้มอารมณ์ดีกลับมาขนาดนี้ล่ะเพิร์ล มีอะไรดีดีในร้านเค้กเหรอ เขาจัดโปรหนึ่งแถมหนึ่งหรือไง ซื้อมาเยอะเชียว”
พัชระมองดูถุงเค้กในมือของน้องสาวแล้วก็อดถามไม่ได้ ตอนเข้าไปก็ปกติดีพอเดินออกมาจากร้าน ยิ้มหน้าบานมาแต่ไกล แถมซื้อเค้กมาเยอะมาก
พัลลภายิ้มกว้าง ไม่ใช่หนึ่งแถมหนึ่ง ฟรีเลยต่างหาก แถมเจ้าของร้านยังชวนไปดูหนังอีกด้วย จะไม่ให้ยิ้มยังไงไหว
“ก็ทำนองนั่นล่ะค่ะ”
พัลลภาตอบพี่ชายเหลือบตามองคนเป็นพี่ก่อนจะถามว่า
“พรุ่งนี้พี่เพชรไปไหนหรือเปล่าคะ”
“เพื่อนชวนไปตีแบดน่ะ ว่าจะออกไปตีแบดกับเพื่อน มีอะไรหรือเปล่า”
พัลลภาลอบยิ้มอย่างดีใจ ถ้าพี่เพชรไปตีแบดก็ไปหลายชั่วโมง เข้าทางพอดี
“พรุ่งนี้เพิร์ลไปคณะนะคะจะไปหาหนังสือในห้องสมุดคณะค่ะ”
พัชระพยักหน้า ไม่ได้ถามอะไรอีก พัลลภาลอบผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก ที่พี่ชายไม่ได้สงสัยอะไรเลย เธอไม่เคยโกหกอะไรแบบนี้มาก่อน จริงๆถ้าทุกอย่างแน่ชัดกว่านี้
ถ้าเธอกับพี่นัทจะคบกันจริงๆ เธอคงกล้าบอกพี่ชาย แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรที่ชัดเจนสักอย่าง เธอไม่อยากให้พี่เพชรรู้ อยากจะเก็บเป็นความลับเอาไว้ก่อน