บทที่ 1 ตอน 3
“เพื่อนหนูชื่อเพิร์ลค่ะ พอดีเห็นพี่เดินผ่านตรงลานจอดรถ เพื่อนหนูเขาชมว่าพี่หล่อ พี่รู้ไหมว่ายัยเพิร์ลไม่เคยชมว่าใครหล่อมาก่อนในชีวิต แม้แต่พี่ชายของยัยนี่ที่หล่อมาก เพิร์ลยังไม่เคยชมพี่ตัวเองเลยค่ะ แต่พอเพิร์ลเห็นพี่ปุ๊บก็สะกิดให้หนูดูเลย หนูเลยวิ่งตามพี่มาเนี่ยแหละค่ะ”
ณัฐนันท์อดยิ้มออกมาไม่ได้ให้กับความตรงไปตรงมาของสาวน้อยตรงหน้า คนหนึ่งก็ดูแก่นเซี้ยวเหลือเกินส่วนอีกคนก็ดูขี้อายมาก ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเพื่อนกันได้ แน่นอนเขารู้ว่าเขาหน้าตาดี แต่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเข้าหาเขาในรูปแบบนี้มาก่อน
ณัฐนันท์เหลือบตามองดูประตูลิฟต์ที่เปิดออก แต่ไม่ได้สนใจจะเดินเข้าไป เพราะยังอยากจะคุยกับสาวน้อยขี้อายที่อยู่ตรงหน้า นี่ชอบเขาจริงหรือโดนเพื่อนแกล้ง
“เพิร์ลใช่ไหมครับชื่อเพราะดี เพิร์ลที่แปลว่าไข่มุกใช่ไหม”
พัลลภาพยักหน้า ดูใกล้ๆแบบนี้ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าดูดีมากปากของเขาสวย สวยน่าจูบ เธอไม่เคยรู้สึกว่าปากของผู้ชายคนไหนจะดูสวยเท่าเขามาก่อน พัลลภาอดตกใจกับความคิดของตัวเองไม่ได้
นี่ถ้าพี่เพชรพี่ชายของเธอรู้ว่าเธอคิดอะไรแผลงๆแบบนี้ เธอต้องโดนเขาดุแน่ๆ
“เอาโทรศัพท์มาสิ”
ณัฐนันท์ละสายตาจากใบหน้าน่ารักก่อนจะเหลือบตาดูนาฬิกาข้อมือ ช้ามากแล้วเขาต้องไปเช็คยอดขายก่อนร้านจะปิด แล้วเอาเงินเข้าบัญชีร้านก่อนหนึ่งทุ่ม หลังจากนั้นต้องแวะไปสาขาหน้ามอกับหลังมออีก
สุธาสินีมองเพื่อนที่ทำหน้างงๆ อย่างคนที่ไม่เข้าใจ เธอเลยเป็นฝ่ายดึงกระเป๋าสะพายของเพื่อนออกมาแล้วยื่นโทรศัพท์มือถือให้เขาแทน
ณัฐนันท์มองหน้าคนที่ทำหน้างงจนเพื่อนต้องทำหน้าที่แทนอย่างอดขำไม่ได้ พอจะเดาได้แล้วว่าเพื่อนแกล้งแน่ๆ แต่เขาก็รับมือถือของเธอไปแล้วกดหมายเลขโทรศัพท์ของตัวเองจนครบทุกตัว ก่อนจะกดโทรออกรอจนรู้สึกถึงความสั่นในกระเป๋ากางเกงแล้วจึงยื่นคืนให้เธอ
“เบอร์พี่ครับ พี่ชื่อนัทเรียนวิดวะโยธาปีสี่มอเดียวกับเรา เอาไว้ว่างๆคุยกัน วันนี้พี่มีธุระต้องรีบไป”
ณัฐนันท์ส่งยิ้มกระชากใจให้สาวน้อยตรงหน้าก่อนจะสวมแว่นดั่งเดิมแล้วเดินเข้าไปในลิฟต์ที่เปิดออกพอดี
ก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดพัลลภาทันได้เห็นรอยยิ้มมุมปากที่ส่งมาให้อีกครั้ง ใจของเธอกระตุกกับภาพนั้น หล่อร้าย นิยามนี้น่าจะเหมาะกับเขา
“เพิร์ลพี่เขาเรียนมอเดียวกับเราด้วย เฮ้ยดูไกลๆว่าดูดีแล้ว ดูใกล้ๆหล่อมาก จีบเลยแก”
สุธาสินียุเพื่อนรัก อายุย่างสิบเก้าแล้วชีวิตการเรียนมหาวิทยาลัยควรจะมีแฟนได้แล้ว
“แก เล่นอะไรไม่ปรึกษาเพื่อนเลย”
เพิร์ลทำหน้ามุ่ยบ่นเพื่อน อายจะตายตอนที่เพื่อนบอกว่าเธอชอบเขา แค่เดินผ่านแล้วเห็นหน้าตาดีเฉยๆหรอก ไม่น่าเผลอพูดให้ยัยส้มได้ยินเลย ไม่รู้ว่าพี่เขาจะคิดว่าเธอเป็นคนยังไง
“ไม่ได้เล่นนะแก แค่อยากให้เพื่อนลองมีแฟนดู เจอคนหน้าตาดีถูกใจ ก็น่าจะลองคุยดูนะ ชีวิตนักศึกษามหาลัยมีแค่สี่ปี ใช้ให้คุ้ม”
พัลลภายังไม่ทันได้ตอบอะไร เสียงแจ้งเตือนว่ามีข้อความเข้าจากโทรศัพท์ในมือของเธอดังขึ้น
Nut : ว่างๆแวะมาที่ร้านพี่ได้นะครับ
Nut : แนบรูป
พัลลภาคลิกเข้าไปดูรูปที่เขาส่งมา เป็นรูปหน้าเขาที่เซลฟี่กับป้ายร้านคลาสคาเฟ่ คลาสคาเฟ่งั้นเหรอ พี่เขาเป็นเจ้าของร้านนี้เหรอ เธอเคยแวะไปร้านนี้สาขาหลังมอ
“ใครส่งอะไรมา พี่คนเมื่อกี้ส่งมาเหรอ”
สุธาสินีถามอย่างอยากรู้ พัลลภายื่นโทรศัพท์ให้เพื่อนดู เธอกับสุธาสินีไม่มีความลับต่อกัน
“ว้าวเป็นเจ้าของร้านกาแฟด้วย เท่อ่ะหล่อแล้วยังรู้จักทำมาหากินอีก ร้านนี้ดังมากนะเคยเห็นเพื่อนๆเช็คอินลงเฟซบุ๊คด้วย เห้ยเราก็เคยไปนี่ใช่ป่ะ ตรงหลังมอก็มีแกกับฉันเคยไปมาแล้วนี่เพิร์ล”
สุธาสินีจำได้ เธอติดใจเค้กส้มของร้านนี้อร่อยดี
“อืมใช่”
พัลลภาดึงโทรศัพท์กลับมาคลิกดูรูปโปรไฟล์ของเขา หล่อจัง แปลกไหมถ้าเราจะตกหลุมรักใครตั้งแต่เจอกันครั้งแรก
แต่จะเป็นอะไรไปในชีวิตของคนเราก็น่าจะลองทำอะไรที่มันแปลกๆดูสักครั้ง