บท
ตั้งค่า

1 ทดแทนบุญคุณ

ควันสีดำลอยออกมาจากปล่องเล็กเหนือเมรุเผาศพ ทางด้านล่างมีเด็กสาวคนหนึ่งใบหน้าเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาเธอกำลังมองควันไฟที่ลอยออกไปและไม่นานมันก็สลายไปกับอากาศเหมือนกับความรู้สึกของตนเองตอนนี้ที่มันกำลังแหลกสลาย ยายพิกุลได้จากเธอไปแล้วมันเป็นการจากที่เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้

เด็กสาวอาศัยอยู่กับคุณยายมาตั้งแต่จำความได้ส่วนมารดาของเธอนั้นเสียชีวิตไปเมื่อห้าปีก่อนเธอมีความสุขดีกับคุณยายในบ้านหลังเล็กๆ ยายของเธอมีอาชีพทำขนมหวานขายที่ตลาดในตัวอำเภอส่วนเธอก็ตื่นแต่เช้าช่วยคุณยายทำขนมก่อนจะไปเรียนหนังสือ

ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาคุณยายของเธอมีอาการป่วยเมื่อไปหาหมอที่โรงพยาบาลก็ได้รับข่าวร้ายว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกและอาจจะใช้ชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ในตอนนั้นเธอแอบหวังว่าสิ่งที่คุณหมอบอกอาจจะเป็นแค่การพูดเพื่อให้เธอทำใจเพราะบางคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ก็ยังสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้หลายปีแต่มันก็เป็นจริงอย่างที่คุณหมอบอก คุณยายของเธอป่วยอยู่ไม่ถึงหกเดือนก็จากเธอไปอย่างไม่มีวันกลับ ตอนนี้บัวบงกชหรือบัวเด็กสาววัย 16 ปีกำลังรู้สึกเคว้งคว้างเป็นอย่างมากเธอไม่รู้ว่าอนาคตจากนี้จะเป็นยังไงต่อในเมื่อไม่มียายแล้ว

งานศพของคุณยายจัดอย่างเรียบง่ายมีพิธีสวดแค่สองคืนจากนั้นก็มีพิธีเผาศพโดยผู้ใหญ่บ้านและคนในหมู่บ้านต่างช่วยกันจัดพิธีศพให้

หลังจากพิธีเผาศพเสร็จแล้วชาวบ้านก็เดินทางกลับตอนนี้ในศาลาวัดมีเธอผู้ใหญ่บ้านและคุณป้าข้างบ้านและอาจารย์ที่ปรึกษาของเธอกำลังนั่งปรึกษากับเธียรธวัชและชุติมาเลขาของเขาซึ่งเดินทางมาจากกรุงเทพเพื่อจะมารับตัวบัวบงกชไปอยู่ด้วย

ตอนที่ป่วยยายของเธอได้โทรศัพท์ไปขอร้องชายหนุ่มว่าถ้าหากเธอเป็นอะไรไปก็อยากจะให้เธียรธวัชเข้ามาช่วยดูแลหลานสาวแต่ชายหนุ่มไม่คิดว่าเหตุการณ์ทุกอย่างมันจะเร็วขนาดนี้

ตอนที่ยายพิกุลโทรศัพท์ไปเขาตอบตกลงคุณยายอย่างไม่ลังเลเพราะแต่ก่อนนั้นยายพิกุลเคยทำงานที่บ้านของเขาและเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็กเมื่อมีอะไรที่จะพอตอบแทนท่านได้ชายหนุ่มก็ยินดีจะตอบแทน

ระหว่างที่คุณยายป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลชายหนุ่มก็มีโอกาสได้มาเยี่ยมอยู่หนึ่งครั้งและก็เคยเจอกับบัวบงกชมาแล้ว

เมื่อวันที่คุณยายพิกุลเสียชีวิตผู้ใหญ่บ้านจึงเปิดจดหมายที่ยายฝากไว้ตั้งแต่รู้ตัวว่าป่วยเมื่ออ่านแล้วก็โทรศัพท์ไปบอกเธียรธวัชตามคำสั่งเสียของยายพิกุลที่เขียนไว้

“ผู้ใหญ่คิดว่ายังไงล่ะคะ” อาจารย์ที่ปรึกษาของบัวบงกชถามผู้ใหญ่บ้านที่รู้จักทั้งบัวบงกชและคุณยายพิกุลเป็นอย่างดี

“จากการที่อ่านจดหมายของคุณยายแล้วผมคิดว่ามันก็เป็นผลดีกับหนูบัวนะ เธอจะได้มีโอกาสร่ำเรียนเพราะถ้าหากอยู่ที่นี่ก็อยู่คนเดียว มันก็น่าเป็นห่วงอยู่มากบ้านของยายก็ไม่ได้แข็งแรงแน่นหนาอะไรอีกทั้งหนูบัวยังเป็นผู้หญิงอีกด้วย”

“แต่บัวไม่อยากไปจากที่นี่นะคะผู้ใหญ่บัวขออยู่ที่นี่ได้ไหม”

“ถ้าหนูจะอยู่คนเดียวในบ้านหลังนั้นครูว่ามันค่อนข้างจะอันตรายนะ แถวนี้ก็ไม่มีหอพักให้นักเรียนอยู่ด้วยสิ” อาจารย์ที่ปรึกษาพูดด้วยความเป็นห่วงลูกศิษย์

“ผมถามคุณหน่อยนะครับคุณเธียรถ้าคุณพาหนูบัวไปอยู่ที่กรุงเทพคุณจะให้เธออยู่ที่ไหน อยู่บ้านหลังเดียวกับคุณหรือเปล่า ขอโทษนะครับที่ผมต้องถามเพราะหนูบัวเป็นผู้หญิงและคุณก็เป็นผู้ชายถ้าต้องไปอยู่บ้านหลังเดียวกันผมก็เกรงว่ามันจะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่”

“บ้านของผมไม่ได้มีผมอยู่คนเดียวหรอกครับยังมีน้องสาวของผมอยู่อีกด้วย แต่ผมคิดว่าถ้าบัวยอมเข้าไปเรียนที่กรุงเทพจริงๆ ผมอยากให้เธอเรียนที่โรงเรียนประจำนะครับ เพราะบ้านของผมมันค่อนข้างไกลจากโรงเรียนอีกอย่างการอยู่โรงเรียนประจำก็เธอจะทำให้เธอมีเพื่อนด้วย”

“ครูเห็นด้วยกับคุณนะการที่ให้บัวไปอยู่โรงเรียนประจำบัวจะได้มีเพื่อนใหม่ๆ และจะได้ไม่ต้องเหงา”

“แล้วบัวต้องอยู่ตลอดเลยเหรอคะ”

“ไม่หรอก ช่วงปิดเทอมหรือวันหยุดก็กลับมาอยู่ที่บ้าน”

“ครูว่ามันก็ดีนะ วันธรรมดาหนูก็อยู่โรงเรียนกับเพื่อนๆ พอวันหยุดก็กลับมาใช้ชีวิตข้างนอกหวังว่าคุณเธียรคงมีเวลาไปรับเธอนะคะ”

“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาหรอกครับผมจะรับเธอกลับมาอยู่ที่บ้านตามที่โรงเรียนกำหนดครับ ตั้งแต่ที่คุณยายติดต่อไปผมก็ให้เลขาดูไว้หลายโรงเรียน แต่ทั้งนี้ก็ต้องให้บัวเป็นคนตัดสินใจอีกทีว่าอยากจะเรียนที่โรงเรียนไหน”

“คุณเธียรคะบัวว่าโรงเรียนประจำค่าใช้จ่ายมันจะต้องแพงมากๆ แน่เลยบัวเรียนโรงเรียนวัดใกล้ๆ บ้านก็ได้นะคะ”

“ไม่ได้นะบัว คุณยายเธอสั่งเสียไว้ว่าอยากให้เธอได้รับการศึกษาที่ดีที่สุดและฉันก็รับปากคุณยายเธอไว้แล้ว” เธียรธวัชไม่อยากเป็นคนผิดคำพูดที่ให้ไว้กับคุณยายพิกุลอีกอย่างเขาก็รู้สึกเอ็นดูบัวบงกชอยู่มาก

“ผมถามหน่อยนะครับคุณเธียรทำไมคุณถึงยอมจะรับบัวไปเป็นเด็กในปกครองครับทั้งๆ ที่คุณไม่ใช่ญาติของบัวเลย” ผู้ใหญ่บ้านถามเพราะเท่าที่รู้ยายพิกุลไม่เคยมีญาติที่ไหนญาติทางพ่อของบัวก็ไม่ได้ติดต่อกัน

“เพราะยายพิกุลเลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็กครับ พ่อกับแม่ผมทำงานยุ่งมากๆ ถ้าผมไม่มียายพิกุลช่วยเลี้ยงดูผมก็คงแย่เหมือนกัน พอตอนนี้ผมพอจะตอบแทนท่านได้ผมก็ยินดีจะทำครับ”

“แล้วเรื่องค่าใช้จ่ายล่ะ ถ้าเรียนโรงเรียนเอกชนแบบนั้นค่าใช้จ่ายต้องแพงมากๆ เงินที่คุณยายได้จากกองทุนฌาปนกิจหมู่บ้านมันก็ไม่มากเท่าไหร่”

“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ ผมจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของบัว ส่วนเงินที่บัวได้จากคุณยายก็ให้บัวเก็บไว้ใช้เป็นการส่วนตัว”

“แต่บัวยังไปอยู่กับคุณตอนนี้ไม่ได้หรอกนะคะ มันยังไม่ปิดเทอมเลยนะคะ ถ้าบัวเข้าไปเรียนกลางเทอมแบบนี้คงเรียนไม่ทันเพื่อนค่ะ”

“ฉันจะให้เธอเรียนที่นี่จนจบเทอมจากนั้นเทอมสองก็ค่อยย้ายเข้าไปเรียนในกรุงเทพระหว่างนี้คงต้องฝากคุณครูกับผู้ใหญ่บ้านและคุณป้าช่วยดูแลบัวก่อนได้ไหมครับ”

“ได้ค่ะ ป้าจะคอยดูแลให้บ้านป้ากับบัวก็อยู่ติดๆ กัน” ป้าจวนที่เป็นเพื่อนบ้านของบัวบงกชรีบรับปาก

“แต่ถ้าบัวไม่อยากจะอยู่ที่บ้านหนูจะไปอยู่กับครูที่บ้านพักครูก็ได้นะ”

“ขอบคุณค่ะครูแต่บัวอยู่ได้ค่ะ”

“ถ้ามีอะไรหนูโทรหาครูได้ตลอดนะบัว”

“ขอบคุณค่ะครู”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel