ตอนที่6(ถูกปฏิเสธ)
เย็นวันเดียวกัน
คอนโด คีรี…
20:00น.
ขวัญเอย กมลวรรณ…
พรึบ
“เห้อ…เสร็จสักทีนะ^_^”ฉันพึมพำออกมาพร้อมกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองโต๊ะอาหารที่ฉันเป็นคนจัดเองในค่ำคืนนี้เพื่อรอดินเนอร์กับพี่คีรี
ตอนนี้ฉันอยู่ที่คอนโดของพี่คีรี ฉันไม่ได้โทรบอกเขาก่อนคิดว่าจะเซอร์ไพรส์เขาน่ะ และฉันก็จะนอนค้างกับพี่คีรีที่นี้สักคืน ซึ่งฉันมานอนค้างกับพี่คีรีที่คอนโดนี้บ่อยมากนะ แต่เราสองคนยังไม่เคยมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งอะไรเลยนะนอกจากแค่นอนจับมือมองตากันแค่นั้นเอง
พรึบ
“พี่คีรีต้องชอบมากแน่ๆ^_^”ฉันเอ่ยออกมาที่มองไปที่โต๊ะอาหารเบื้องหน้าและเทียนแท่งเล็กๆที่ถูกวางจุดและวางไปรอบๆห้องแห่งนี้ที่ถูกฉันตกแต่งเป็นรูปหัวใจโดยมีโต๊ะอาหารสำหรับสองคนตั้งอยู่ตรงกลาง มันดูโรแมนติกดีนะ^_^
พรึบ
ฉันถอดผ้ากันเปื้อนออกจากชุดนักศึกษาของฉันแล้วนำมันไปเก็บไว้ที่เก็บผ้าและกลับมาหยิบโทรศัพท์ของฉันเพื่่อจะส่งข้อความหาพี่คีรี
พรึบ
ฉันหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะในห้องนั่งเล่นและกดส่งข้อความหาพี่คีรีทันที
ขวัญเอย:พี่คีรีคะ
ฉันพิมพ์ข้อความในแอปพลิเคชันไลน์ของพี่คีรีรอสักพักพี่คีรีก็อ่านข้อความของฉัน ฉันก็อมยิ้มเล็กน้อยเพื่อรอข้อความตอบกลับจากพี่คีรี
พี่คีรี:คะ..น้องเอย?
ขวัญเอย:อยู่ไหนคะ?
พี่คีรี:กำลังจะถึงห้องที่คอนโดแล้วค่ะ…แล้วน้องเอยล่ะค่ะ..ทำอะไรอยู่?
ฉันยิ้มกับข้อความที่พี่คีรีตอบกลับมา ที่เขาไม่เอะใจเลยสักนิดแต่ถามฉันกลับมาว่าทำอะไรอยู่ เพราะฉันบอกพี่คีรีไปว่าฉันกลับบ้านเช่าแล้ว กลับกับเพื่อนน่ะไม่ต้องให้เขาไปรับ แต่ฉันกับมาดักรอเซอร์ไพรส์พี่เขาที่คอนโดพี่คีรีต้องดีใจมากแน่ๆ^_^
ขวัญเอย:กำลังคิดถึงพี่คีรีอยู่ค่ะ
พี่คีรี:พี่ก็คิดถึงน้องเอยค่ะ…น้องเอยคิดถึงพี่แต่ทำไมน้องเอยถึงไม่ให้พี่ไปหาล่ะค่ะ
ฉันเลือกที่จะไม่พิมพ์ข้อความตอบกลับพี่คีรีไปแต่กลับยืนยิ้มแก้มแทบปริอยู่กับข้อความที่พี่คีรีส่งตอบกลับมา และสักพักฉันก็ได้ยินเสียงเสียบคีย์การ์ดจากหน้าห้องดังขึ้น ทำให้ฉันรีบวิ่งไปแอบหลังประตูเพื่อจะดักรอเซอร์ไพรส์พี่คีรีทันที
ติ๊ดๆๆ
แอดดดดดดด
ฉันยิ้มออกมาทันทีที่ได้ยินเสียงเอี๊ยดอ๊าดของบานประตูทำให้ฉันรู้ได้ทันทีว่าบุคคลเจ้าของห้องกำลังจะเดินเข้ามาด้านในแล้ว ที่ฉันเข้ามาในห้องของพี่คีรีที่มีระบบรักษาความปลอดภัยได้ เพราะฉันมีคีย์การ์ดและมาที่นี้บ่อยพี่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงรู้จักฉันเป็นอย่างดีน่ะ
พรึบ
“เห้ย!”เสียงร้องตกใจจากผู้ชายร่างสูงโปร่งสัดส่วนเพอร์เฟคของหนุ่มวัยสามสิบปีเศษร้องอุทานออกมาที่ถูกผู้หญิงร่างเล็กและบอบบางอย่างฉันสวมกอดจากทางด้านหลัง เพราะเขาไม่ทัรได้ตั้งตัวคงจะกำลังงงอยู่ว่าทำไมไฟในห้องถึงดับแบบนี้
ที่จริงไฟในห้องพี่คีรีจะถูกเปิดอัตโนมัติเมื่อแตะคีย์การ์ด้ข้ามาภายในห้อง แต่ฉันเป็นคนสับคัทเอาท์ไว้น่ะไปเลยดับแบบนี้
“น้องเอย?”พี่คีรีเอ่ยออกมาเมื่อเขามองสำรวจท่อนแขนเล็กและคงจะได้กลิ่นน้ำหอมกลิ่นเดิมจากตัวฉันเขาถึงรู้ได้ทันทีว่าเป็นฉัน ที่เป็นผู้บุกรุกห้องของเขา
พรึบ
“ค่ะ…เอยเองค่ะ^_^”ฉันปล่อยมือจากเอวสอบของพี่คีรีและเขาก็หันมามองหน้าฉันพร้อมกับทำสีหน้าเอ็นดูใส่ฉันพร้อมกับยื่นมือมาจับมือฉันไปกุมไว้ สีหน้าของพี่คีรีดูแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นฉันมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาแบบนี้
“นี่หลอกพี่หรือคะ?”พี่คีรีกดเสียงต่ำพลางทำสีหน้าง้องอนใส่ฉัน ฉันก็อมยิ้มให้เขาก่อนจะเบียดร่างอวบอิ่มของฉันแนบชิดไปกับแผงอกแกร่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวของพี่คีรี
“อย่าโกรธเอยได้ไหมล่ะค่ะ^^”
“ได้สิครับ…แฟนสวยน่ารักขนาดนี้…ใครจะไปโกรธลง^_^”
“ก็ดีแล้วค่ะ…พี่คีรีทานข้าวมาหรือยังคะ…เอยทำอาหารที่พี่คีรีชอบเตรียมไว้ดินเนอร์กับพี่นะคะ^_^”
“ยังเลยครับ…พี่ยังไม่ได้ทานอะไรเลย^_^”
“งั้นเราไปทานอาหารกันดีกว่าค่ะ^_^”
“ครับ^_^”พี่คีรีตอบรับคำฉันพร้อมกับยิ้มหวานให้ฉันและจูงมือฉันเดินไปตามทางที่มีแสงสีส้มให้ความสว่างจากเทียนเล็กๆที่ฉันเป็นคนทำไปเรื่อยๆจนไปถึงใจกลางของรูปหัวใจที่มีโต๊ะอาหารอยู่ พี่คีรีเลื่อนเก้าอี้ให้ฉันอย่างสุภาพบุรุษและเขาก็ไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับฉัน
“อร่อยไหมคะ?”
“อร่อยที่สุดค่ะ…สเต็กหมูฝีมือน้องเอยเนี่ย^_^”พี่คีรีเอ่ยชมฉันหลังจากที่ฉันหันเนื้อสเต็กและยื่นป้อนพี่คีรี เราสองคนดินเนอร์ใต้แสงเทียนพร้อมกับบรรยากาศสุดโรแมนติก โดยทั้งฉันและพี่คีรีต่างเทคแคร์กันและกัน จนเวลาล่วงเลยมาจนดึก เราสองคนดินเนอร์เสร็จ และฉันก็บอกว่าฉันจะนอนค้างกับพี่คีรีสักคืน พี่คีรีก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะฉันมักจะทำแบบนี้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เขาจึงขอตัวไปอาบน้ำก่อน ส่วนฉันพอเก็บจานล้างอะไรเรียบร้อยก็มาเตรียมเสื้อผ้าชุดนอนไว้ให้พี่คีรี
พรึบ
“น้องเอยจะอาบน้ำต่อเลยหรือเปล่าคะ?”เสียงอบอุ่นของพี่คีรีดังออกมา ทำให้ฉันที่จัดเตรียมเสื้อผ้าให้เขาเสร็จพอดีหันกลับไปมองพี่คีรีที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ โดยพี่คีรีกำลังใช้ผ้าสีขาวผืนเล็กเช็ดผมที่เปียกของเขาอยู่ ทำให้ฉันยิ้มออกมาและเดินมุ่งตรงไปหาพี่คีรีอย่างช้าๆพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาตัวจิ๋วไปด้วย
“นะน้องเอย?”
“จะทำอะไรคะ…?”พี่คีรีถามฉันเสียงสั่นพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคอดังอึกใหญ่ เป็นในจังหวะที่ฉันถึงตัวของพี่คีรีพอดี
พรึบ
“เราก็คบกันมานานแล้ว…”
“พี่คีรี…จูบเอยหน่อยได้ไหมคะ…?”ฉันเอ่ยบอกพี่คีรีไปพร้อมกับยื่นมือไปโอบรอบต้นคอของพี่คีรี เขาก็มีสีหน้าตื่นตกใจสายตาของพี่คีรีพยายามไม่ก้มมองต่ำลงมาที่หน้าอกของฉันที่ตอนนี้มันกำลังโผล่พ้นเสื้อนักศึกษาที่โดนฉันปลดกระดุมออกไปหมดทุกเม็ด
โดยที่ฉันสวมใส่เพียงแค่บราปีกนกสีเนื้อแค่นั้น
พรึบ
“นะน้องเอยคะ…”พี่คีรีเอ่ยเรียกฉันเสียงสั่นเครือในขณะที่ฉันยื่นหน้าเข้าไปหาเขาพร้อมกับเขย่งปลายเท้าเพื่อจะเอาริมฝีปากอวบอิ่มของฉันไปแนบชิดกับริมฝีปากของพี่คีรี
“จูบเอยหน่อยนะคะ…”ฉันพูดเสียงแผ่วเบาและแหบพร่าริมฝีปากของฉันคลอเคลียไปกับริมฝีปากนุ่มนิ่มสีชมพูสดของพี่คีรีและเป็นฉันที่กดริมฝีปากของตัวเองแนบชิดไปกับริมฝีปากของพี่คีรีก่อน
“จ๊วฟฟฟ”และเป็นฉันที่ดูดดึงริมฝีปากที่หวานของพี่คีรีโดยที่เขายืนตัวแข็งทื่อเป็นท่อนไม้ไม่ยอมจูบตอบฉัน
“จ๊วฟฟฟ”ฉันกดริมฝีปากให้หนักหน่วงขึ้นเพื่อเรียกร้องให้พี่คีรีจูบตอบฉัน และมันก็เป็นไปตามคาดพี่คีรียอมจูบตอบฉันแต่เป็นจูบที่เก้ๆกังๆเหมือนคนจูบไม่เป็น ใช่นี่เป็นจูบแรกของฉันกับพี่คีรีและเขาก็เป็นจูบแรกของฉันด้วย
“อื้ออออ”ฉันร้องครางออกมาอย่างพึงพอใจและเริ่มหลับตาพริ้มมือเล็กเริ่มซุกซนสอดแทรกเข้าไปภายใต้ชุดคลุมอาบน้ำของพี่คีรี ร่างของพี่คีรีสั่นสะท้านเล็กน้อยที่โดยฝ่ามือของฉันสัมผัสเข้ากับแผงอกแกร่ง
“อ๊ะ!”ฉันเผลอร้องออกมาเมื่อพี่คีรียื่นมือมาลูบไล้เต้าอวบอิ่มของฉันพร้อมกับบีบคลึงเบาๆสร้างความเสียวซ่านให้ฉันเป็นอย่างมาก
พรึบ
ฉันค่อยๆดันร่างของพี่คีรีให้เดินถอยหลังไปนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ด้านหลังของพี่คีรีโดยที่เราทั้งคู่ยังไม่ผละริมฝีปากออกไปจากกัน
“อื้ออ!”พี่คีรีร้องเสียงหลงอย่างคนที่ตกใจมากๆทันทีที่ฝ่ามือนุ่มของฉันเลื่อนลงไปสัมผัสกับลำกายของเขาที่ซ่อนอยู่ภายใต้ชุดคลุมอาบน้ำ
พรึบ
ฉันตกใจลืมตาจากจูบหวานเชื่อมที่เริ่มปลุกอารมณ์ให้ฉันอย่างตกใจที่อยู่ๆร่างของฉันก็โดนพี่คีรีผลักออกมาจากร่างเขาอย่างไว
“น้องเอยคะ!”พี่คีรีเรียกฉันเสียงดัง ฉันที่ยืนมองหน้าพี่คีรีที่หอบหายใจเหนื่อยถี่อยู่บนโซฟาพร้อมกับใช้มือของเขามาผูกชุดคลุมอาบน้ำที่เพิ่งจะโดนฉันคลายปมไป
พรึบ
พี่คีรีที่ผูกปมเชือกของชุดคลุมเสร็จแล้วก็ลุกขึ้นยืนเดินตรงดิ่งมาหาฉันที่ยืนสตั้นกับการกระทำที่โดนผู้ชายปฏิเสธ
“พี่ขอโทษนะคะ…”พี่คีรีเอ่ยขอโทษฉันด้วยสีหน้าและน้ำเสียงรู้สึกผิด เขายื่นมือมาติดกระดุมเสื้อนักศึกษาของฉันให้เสร็จสรรพครบทุกเม็ดที่โดนฉันปลดออกไป
“มันยังไม่ถึงเวลา….”พี่คีรีมองหน้าฉันด้วยแววตาสั่นไหว ฉันก็มองหน้าเขาและคลี่ยิ้มบางๆออกมา
“ค่ะ…เอยเข้าใจ…”
“พี่คีรี…คงจะมองเอยเป็นผู้หญิงใจง่ายใช่ไหมคะ?”ฉันเอ่ยถามพี่คีรีไปอย่างใจคิด การที่ฉันทำแบบนี้ก็เท่ากับฉันเสนอตัวให้เขาแต่เขากลับปฏิเสธฉัน ฉันไม่ดึงดูดเขาหรือเขาเป็นสุภาพบุรุษมากเกินไป…
“ไม่ค่ะ…พี่เข้าใจที่น้องเอยทำ…”
“พี่ก็อยากจะทำเรื่องแบบนั้นกับน้องเอย…”
“แต่….”
“แต่อะไรคะ?”ฉันเอ่ยถามพี่คีรีไปอย่างสงสัยที่เขาพูดและทำสีหน้าดูเคร่งเครียดและจริงจัง
“เปล่าค่ะ…ให้พี่ไปส่งน้องเอยดีกว่านะคะ…”
“ค่ะ…”ฉันตอบตกลงที่จะให้พี่คีรีไปส่ง เพราะมันดึกแบบนี้ คงไม่มีแท็กซี่วิ่งแล้วล่ะ….ถึงจะมีฉันก็คงจะไม่กล้านั่ง