ตอนที่1(ขวัญเอยกมลวรรณ)
คฤหาสน์ ลิ้มเกียรติ
ขวัญเอย กมลวรรณ….
09:00น.
พรึบ
“น้ำส้มคั้นสดๆค่ะ…คุณหนูเอย^_^”เสียงนุ่มละมุนอย่างใจดีพร้อมกับแก้วน้ำส้มคั้นสีส้มสดเข้มสวยถูกวางลงบนที่รองแก้วตรงหน้าฉัน ทำให้ฉันละสายตาหน้าจอไอแพดสิบนิ้วขึ้นไปมองหน้าป้าแพรป้าแม่บ้านประจำบ้านฉันด้วยแววตาสดใส
“ขอบคุณนะคะป้าแพร^_^”ฉันเอ่ยขอบคุณป้าแพรไปและยื่นมือไปหยิบแก้วน้ำส้มขึ้นมาดื่ม
“อร่อยไหมคะ? ”ป้าแพรเอ่ยถามฉันในขณะที่ฉันดื่มน้ำส้มไปอึกใหญ่แล้ว สีหน้าของท่านมองมาที่ฉันด้วยสีหน้าลุ้นๆกับคำตอบของฉันที่กำลังจะตอบท่าน
“อร่อยมากค่ะ^_^”ฉันตอบท่านไปพร้อมกับวางแก้วน้ำส้มกลับไปที่เดิมและหันมาให้ความสนใจหน้าจอไอแพดของฉันต่อ เพื่อจะทำงานในไอแพดของฉันเพื่อรอพี่คีรีแฟนของฉันมารับฉันไปมหาลัยน่ะ^_^
“คุณหนูต้องการอะไรเพิ่มอีกไหมคะ? ”
“อ้อ…ไม่แล้วค่ะหนูอิ่มมากเลย^_^”
“ขอบคุณป้าแพรนะคะ^_^”
“ค่ะ…งั้นป้าขอตัวไปดูในครัวก่อนนะคะ^_^”
“ค่ะ..ตามสบายค่ะ^_^”ฉันยิ้มหวานเป็นเชิงอนุญาตให้ป้าแพร
“เอ่อ…ป้าแพรคะ? ”ฉันรีบท้วงป้าแพรไว้ก่อนอย่างคนที่เพิ่งนึกขึ้นได้ ป้าแพรที่กำลังจะออกเดินไปจากตรงนี้ต้องหยุดชะงักฝีเท้าลงและหันกลับมามองหน้าฉัน
“คะ? คุณหนูจะรับอะไรเพิ่มเหรอคะ? ”ป้าแพรเอ่ยถามฉันด้วยสายตาอ่อนโยนอย่างใจดี ฉันก็ยิ้มบางๆให้ท่าน
“คุณแม่…ตื่นรึยังคะ? ”ฉันเอ่ยถามป้าแพรไปอย่างสงสัยเพราะสองสามวันมานี้ฉันไม่เจอหน้าคุณแม่ของฉันเลย
“เอ่อ..คือ…”ป้าแพรทำหน้าอ้ำๆอึ้งๆด้วยสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“คุณแม่ยังไม่ตื่นเหรอคะ? ”
“เปล่าหรอกค่ะ…แต่คุณผู้หญิงยังไม่ได้กลับบ้านเลยตั้งแต่เมื่อวานค่ะ…”ป้าแพรก้มหน้าต่ำลงไม่มองสบตาฉันพร้อมกับเอ่ยตอบคำถามที่ฉันถามเธอไปด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
“ยังไม่กลับเหรอคะ? ”
“คุณแม่ไปไหน? ”ฉันเอ่ยออกมาอย่างสงสัยใบหน้าของฉันร้อนผ่าวขึ้นมาหางคิ้วข้างขวากระตุกบ่งบอกถึงสิ่งที่ฉันกลัว
ตึกๆๆๆตึกๆๆ
“คุณผู้หญิงกลับมาแล้วจ๊ะป้าแพร!”เสียงฝีเท้าที่วิ่งมาจากทางหน้าบ้านและเสียงตื่นเต้นและร้อนรนใจของผินเด็กรับใช้หลานสาวของป้าแพรเอ่ยตะโกนลั่นมาแต่ไกลทำให้ป้าแพรหันไปจ้องมองหน้าผินด้วยแววตาดุๆ
พรึบ
“ขอโทษค่ะ..คุณหนู”ผินที่โดนป้าแพรดุทางสายตาก็หันมามองหน้าฉันที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทานอาหารถึงกับหน้าเสียเอามือกุมกันไว้ด้านหน้าหน้าตาซีดเชียวอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ…คุณแม่กลับมาแล้วเหรอ? ”ฉันเอ่ยบอกผินไปและเอ่ยถามถึงคุณแม่
“ค่ะ…คุณผู้หญิงกลับมาแล้วค่ะ…”
“ป้าแพร!…นังผิน!”เสียงที่คุ้นหูของฉันเอ่ยดังมาจากหน้าประตูทางเข้าห้องอาหารพร้อมกับร่างสูงสวยสง่าของคุณผู้หญิงของบ้านนี้กำลังเดินตรงดิ่งเข้ามาในห้องอาหารแห่งนี้
“ขาาาคุณผู้หญิง”ผินเด็กสาวสิบเจ็ดเอ่ยขานรับคุณแม่ของฉัน เธอยังคงอยู่ในชุดนักเรียนของมหาวิทยาลัยเทคนิคสายอาชีพที่อยู่ติดกับมหาลัยของฉัน
“ยัยเอย? ”
“คุณแม่^_^”ฉันเอ่ยเรียกคุณแม่ไปด้วยสีหน้าและนำ้เสียงดีใจที่สายตาของเราทั้งคู่สบกัน คุณแม่ของฉันยิ้มให้ฉันก่อนจะเดินตรงดิ่งมาหาฉันที่โต๊ะอาหารใหญ่ ท่านนั่งลงตรงหัวโต๊ะด้านข้างของฉัน ฉันก็มองหน้าท่านและยิ้มให้ท่าน
“เอากาแฟให้ฉันแก้วหนึ่ง”คุณแม่ละสายตาจากฉันและหันไปสั่งผิน
“ค่ะ…คุณผู้หญิง^_^”ผินก้มศีรษะลงเล็กน้อยพร้อมตอบรับคำสั่งของคุณแม่ฉันและเดินออกไปจากห้องอาหารแห่งนี้ และคุณแม่ก็หันกลับมามองหน้าฉันเหมือนเดิม
“ลูกยังไม่ไปเรียนอีกเหรอจ๊ะ? ”
“รอพี่คีรีมารับนะคะ^_^”ฉันตอบคุณแม่ไปและยื่นมือไปหยิบแก้วน้ำส้มคั้นของฉันมาดื่ม
“แม่มีเรื่องอยากจะคุยกับหนูนะจ๊ะ”
“เรื่องอะไรเหรอคะ? ”ฉันวางแก้วน้ำส้มลงและหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาซับไปที่ริมฝีปากของฉันแทน คุณแม่มีสีหน้าที่ดูเป็นกังวลอยู่นิดหน่อย ทำให้ฉันอยากจะรู้เรื่องที่คุณแม่จะบอกฉันซะเหลือเกิน
พรึบ
คุณแม่หันไปเปิดกระเป๋าแบรนด์เนมรุ่นดังและหยิบซองสีชมพูออกมาจากกระเป๋าและยื่นมันมาให้ฉัน ฉันก็ยิ้มบางๆให้คุณแม่ของฉันสลับกับมองซองจดหมายสีชมพูนี้ด้วยแววตาสงสัย
“อะไรคะ? ”
“เดี๋ยวนี้จะให้เงินเดือนหนูเป็นซองสีชมพูแบบนี้เลยเหรอคะ? ”ฉันพูดเชิงเล่นเชิงจริงใส่คุณแม่ไป แต่สีหน้าของท่านก็ไม่ได้เล่นขำไปกับคำพูดของฉันเลยสักนิด
พรึบ
ฉันที่เห็นคุณแม่ทำสีหน้าเคร่งเครียดจึงยื่นมือไปรับซองจดหมายสีชมพูมาจากมือของท่านแทน ฉันมองหน้าคุณแม่ของฉันอีกครั้งก่อนจะเปิดซองจดหมายดูเนื้อหาข้างใน
พรึบ
ทันทีที่ฉันเปิดซองจดหมายออกก็พบกับกระดาษสีชมพูที่ถูกตกแต่งให้เป็นรูปหัวใจเต็มดวง เนื้อหาในจดหมายเชื้อเชิญให้ไปร่วมงานมงคลสมรสของ
“งานมงคลสมรสระหว่างนางขณิฐา ลิ้มเกียรติและนายมงคล ณรงค์เดช”ฉันอ่านออกเสียงดังน้ำเสียงสั่นเครือแววตาสั่นไหวริมฝีปากสั่นระริก หัวใจเจ็บจี๊ดใบหน้าชาไปทั้งหน้า ฉันค่อยๆละสายตาจากกระดาษรูปหัวใจในมือขึ้นไปมองหน้าผู้เป็นแม่ของฉัน
“นี่มันอะไรกันคะ? ”ฉันพยายามทำน้ำเสียงให้แผ่วเบาที่สุดอย่างคนที่กำลังพยายามระงับอารมณ์กรุ่นโกรธของตัวเองไม่ให้มันระเบิดออกมา
“หนูถามว่ามันอะไรกันคะ!!!”ฉันตะโกนเสียงดังลั่นบ้านพร้อมกับลุกขึ้นยืนด้วยความไม่พอใจที่คนที่ฉันถามเขา แต่เขากลับไม่ยอมตอบคำถามของฉัน
“แม่กำลังจะแต่งงาน…แม่อยากให้ลูกไปงานแต่งของแม่…กับติณห์เขาน่ะ”
“หึ…ให้หนูไปเหรอ…”
“ได้…หนูจะไป…”
“แต่ไม่ได้ไปแสดงความยินดีหรอกนะ…”
“แต่หนูจะไปพังงาน!!”
“ยัยเอย!!”แม่ของฉันตวาดเสียงดังกลับใส่หน้าของฉันแววตาของท่านสั่นไหว
“แม่คิดได้ยังไง…พ่อเพิ่งจะเสียได้ยังไม่ถึงปี…”
“แม่ก็จะแต่งงานใหม่…”
“แถมสามี…ไม่สิ…”
“ผัวของแม่ยังเป็นรุ่นราวคราวลูกอีกตั้งหาก!!”
“หยุดนะยัยเอย!!”แม่ของฉันตะโกนเสียงดังให้ฉันหยุดพูดจาน่าเกลียด
“หนูไม่หยุด…”
“ถ้าแม่ยังยืนยันที่จะแต่งงานกับผู้ชายรุ่นลูกคนนั้น…”
“หนูก็จะไม่อยู่ที่นี้…”
“มีมันต้องไม่มีหนู…และถ้ามีหนู…ต้องไม่มีมัน!!”ฉันประกาศก้าวเสียงดังฟังชัดแววตาของฉันสั่นไหวเนื้อตัวสั่นเทาไปด้วยความโกรธ
พรึบ
“คุณหนูคะ…ใจเย็นๆนะคะ..”ป้าแพรเดินมาเกาะไหล่ฉันพร้อมกับเอามือลูบมาที่แขนของฉันเพื่อให้ฉันใจเย็นลง
“หนูใจเย็นไม่ได้แล้วค่ะ…หนูจะไม่อยู่ที่นี้!!”
“คุณแม่อย่าคิดว่าหนูไม่รู้นะคะ…ว่าคุณแม่แอบมีชู้ทำให้คุณพ่อหัวใจวายตาย”
เพลี๊ย
"คุณหนู!!”
ใบหน้าของฉันหันไปตามแรงตบของฝาคุณแม่ฉันที่ฉันยังพูดไม่ทันจบก็โดนคุณแม่ตบหน้าของฉันซะก่อน
พรึบ
ฉันเอามือไปกุมแก้มตัวเองข้างที่โดนคุณแม่ของฉันตบและค่อยๆหันหน้ากลับมาเผชิญหน้ากับท่านต่อน้ำตาของฉันไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง ตั้งแต่เกิดมาคุณแม่ไม่เคยตบฉันเลยสักครั้งเดียว
“แกอย่าพูดจาพล่อยๆอีก”แม่ของฉันกดเสียงต่ำแววตาดุดันอย่างไม่พอใจที่ฉันรู้เรื่องของท่านกับชายชู้ของท่าน
“หึ…หนูแค่พูดความจริง”
“ยัยเอย!!”
“หยุดเถอนะคะ..คุณผู้หญิงแค่นี้แก้มของคุณหนูก็บวมช้ำมาพออยู่แล้ว..”ป้าแพรไปยืนตรงกลางระหว่างฉันกับแม่ของฉันพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้แม่ของฉันน้ำเสียงของท่านสั่นเครือ
“ป้าแพรคะ”ฉันร้องเสียงหลงที่ป้าแพรร้องไห้เพราะสงสารฉัน แต่กลับกันคุณแม่ของฉันท่านกลับไม่สะทกสะท้านอะไรเลยสักนิดเดียว
“แค่นี้มันยังน้อยไป…”
“หนูจะไม่อยู่ที่บ้านหลังนี้อีกแล้ว!”
“ถ้าแกอยากไปแกก็ไปเลย…ไปแล้วไม่ต้องกลับมา!”
“เหอะ…หนูไปแน่…และหนูก็เป็นเด็กใจแตก…มีผัวหลายคนเล่นชู้กับผู้ชายมากหน้าหลายตาแบบที่แม่ทำ…”
“ยัยเอย!!”แม่ของฉันตวาดแผดเสียงดังสนั่นบ่งบอกได้ว่าท่านกำลังไม่พอใจฉันเป็นอย่างมาก
“ถ้าแกจะไปแกก็ไปแต่ตัว”
“ห้ามเอาของที่นี้ออกไปแม้แต่ชิ้นเดียว…”
“เพราะแกมา…แกก็มาแต่ตัว…”
“นังลูกเนรคุณ!!”ฉันมองหน้าคุณแม่ผู้มีพระคุณของฉันทั้งน้ำตา มันปวดจี๊ดและปวดร้าวไปทั้งหัวใจที่แม่เห็นคนอื่นดีกว่าฉันที่เป็นลูกแท้ๆของท่าน ฉันจะไม่กลับมาเหยียบบ้านหลังนี้อีก!
สวัสดีฉันชื่อ ขวัญเอย อายุปีนี้ก็22ปีเต็มแล้ว เมื่อก่อนชีวิตของฉันเป็นที่น่าอิจฉาสุดๆคุณหนูผู้สวยเริ่ดเชิดที่เพียบพร้อมไปทั้งฐานะและหน้าตา แต่แล้วทุกอย่างสำหรับฉันก็แปรเปลี่ยนไปเมื่อคุณพ่อของฉันล้มป่วยด้วยโรคหัวใจท่านนอนรักษาตัวอยู่นานและก็จากโลกนี้ไปเมื่อปีที่แล้ว โดยสาเหตุก็เพราะคุณแม่ของฉันแอบมีชู้ทำให้คุณพ่อเสียใจและหัวใจล้มเหลวเสียชีวิตกระทันหัน ตอนแรกฉันนึกว่าคุณแม่จะเลิกกับชายชู้แต่แล้วท่านก็ไม่เลิกกลับจะแต่งงานกับมันและเอามันมาผลาญเงินคุณพ่อฉัน ฉันรับไม่ได้ฉันเกลียดผู้ชายคนนั้น!!!!ที่มาพรากคุณพ่อไปจากฉันและยังจะมาแย่งคุณแม่ไปจากฉันอีก!!