บท
ตั้งค่า

ใครคือพ่อของเด็ก??

ข้าวฟ่าง..

ฉันรู้ว่าตัวเองเผลอหลุดปากพูดถึงลูกต่อหน้าเตอร์เพราะตอนนี้ฉันห่วงน้องแป้งมาก คุณครูโทรมาบอกว่าน้องแป้งแอบกินขนมกับเพื่อนโดยที่ไม่รู้ว่าขนมที่กินมันมีส่วนผสมของกุ้งแล้วน้องแป้งแกแพ้กุ้งและอาการของแกจะรุนแรงมากฉันถึงเป็นห่วงแม้ว่าตอนนี้แกจะพ้นขีดอันตรายแล้วเพราะคุณครูพามาส่งโรงพยาบาลได้ทัน

"ฉันถามว่าลูกที่เธอพูดถึงเมื่อกี๊คือลูกใคร...ลูกเธอหรือเปล่า" เขาจ้องหน้าฉันเพื่อเค้นเอาคำตอบมาถึงตอนนี้ฉันคงปฏิเสธไม่ได้ฉันยอมรับไปตรงๆ

"ใช่ลูกของฉันเอง"

"เธอมีลูกแล้ว?? "

"แล้วมันแปลกตรงไหน"

"ก็ไม่แปลกหรอกแต่ฉันไม่คิดว่าเธอจะมีลูกเร็วขนาดนี้ ที่หายไปสามสี่ปีคือแอบไปมีลูกมีผัวว่างั้น"

"อื้มใช่"

"ฉันอยากเห็นหน้าลูกเธอจริงๆ "

"ไม่ต้องหรอกลูกของฉันไม่ชอบคนแปลกหน้านายกลับไปได้ละ อ้อขอบใจนะที่ขับรถมาให้"

"ฉันยังไม่กลับฉันอยากดูหน้าลูกเธอแล้วก็อยากเห็นหน้าพ่อของลูกเธอด้วย"

"เขาไม่อยู่ให้นายเจอหรอกเขาไปทำงานต่างประเทศน่ะ"

"อ่อ นึกว่าโดนผัวทิ้ง" ฉันไม่อยากจะเสวนากับเขาสักเท่าไหร่เลยไม่ได้หันไปคุยกับเขาต่อ

ติ๊ง.. พอลิฟต์เปิดออกฉันก็เจอกับน้องข้าวปั้นที่ยืนอยู่กับคุณครูตรงหน้าห้องฉุกเฉินที่น้องข้าวแป้งอยู่ข้างในพอลูกเห็นหน้าฉันแกก็รีบวิ่งมาหาทันที

"แม่ค๊าบบบบ แม่ ฮือออออ ฮืออออ"

"ข้าวปั้น หนูร้องไห้ทำไมครับ" ฉันรีบย่อตัวนั่งลงเพื่อพูดกับลูกพร้อมกับคอยเช็ดน้ำตาให้แกที่ไหลพรากๆ ไม่หยุด

"น้อง ฮึก ฮึก น้องไม่สบายน้องอยู่ข้างในน้องตัวแดงหมดเลย น้องบอกหายใจไม่ออก น้องอ๊วกด้วยค๊าบ ฮือออ ผมสงสารน้อง ฮือออ" ฉันรีบอุ้มลูกขึ้นมากอดแนบอกเพื่อปลอบโยนแกคงจะสงสารน้องสาวมากก็เลยร้องไห้หนักขนาดนี้

"น้องปลอดภัยแล้วนะครับลูก น้องไม่เป็นอะไรแล้วน๊าาา" ฉันลูบหลังพร้อมกับบอกลูกว่าน้องสาวของแกปลอดภัยแล้ว

"จริงนะครับแม่ ฮืออออ"

"จริงสิครับ" ฉันยิ้มให้กับลูก

"ลุงคนนี้ใครเหรอครับแม่" จู่ๆ ลูกชายของฉันก็เอ่ยถามขึ้นมาพร้อมกับชี้นิ้วไปที่คนด้านหลังที่เดินตามฉันออกมาจากลิฟต์

"เอ่อ คือลุงเค้าเป็นเพื่อนแม่น่ะครับลูก"

"เพื่อนแม่เหรอ สวัสดีครับคุณลุง" พอฉันบอกว่าเตอร์เป็นเพื่อนน้องข้าวปั้นก็รีบยกมือไหว้ทันที

ฉันหันไปมองหน้าเตอร์ที่เอาแต่จ้องหน้าลูกของฉันไม่หยุด นี่อย่าบอกนะว่าเขาสงสัยเรื่องลูก คิดได้แบบนั้นฉันก็รีบพาลูกเดินมานั่งข้างๆ คุณครูแล้วคอยบังสายตาเพื่อไม่ให้เขามองลูกนานเกินไปฉันกลัวว่าเขาจะสงสัยเพราะน้องข้าวปั้นคล้ายเขามาก

"นี่พ่อของน้องแฝดใช่ไหมคะ"

"เอ่อออ"

"ไม่ใช่ค่ะคุณครู คือผู้ชายคนนี้เป็นเพื่อนของฟ่างเองค่ะ"

"อ้าวหรอคะขอโทษด้วยนะคะพอดีเห็นว่าน้องแฝดหน้าคล้ายคุณคนนี้ก็เลยคิดว่าเป็นพ่อของน้องแฝด เอ่อยังไงก็กราบขอโทษด้วยนะคะคุณ" คุณครูรีบกราบขอโทษเตอร์ทันทีซึ่งเขาก็รับไหว้แต่สายตาก็ยังคงจ้องมาที่น้องข้าวปั้น สักพักประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออกมาพร้อมกับลูกสาวของฉันที่ยังนอนหลับไม่ได้สติอยู่บนเตียงที่มีพยาบาลเข็นออกมาเพื่อไปยังห้องพักพิเศษที่ฉันติดต่อไว้ก่อนจะขึ้นมา

"เธอ..มีลูกแฝดงั้นเหรอ" เตอร์ละสายตาจากน้องข้าวปั้นมามองน้องข้าวแป้งแล้วหันมาถามฉัน

"อืม"

ฮันเตอร์...

ผมยังคงจ้องหน้าเด็กแฝดสองคนสลับกันไปมาอย่างพินิจพิจารณา ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่าที่คิดว่าเด็กทั้งสองคนมีส่วนคล้ายผมอยุ่มากไม่ว่าจะเป็นสีผม คิ้ว ตา คาง จมูก ปาก

"น้องปลอดภัยดีแล้วนะคะคุณแม่คุณพ่อ" พยาบาลที่เดินตามออกมาหันมาพูดกับข้าวฟ่างแล้วก็ผม

"คือผมไม่ใช่พ่อของเด็กครับคุณคงเข้าใจผิด"

"อ้าวเหรอคะ งั้นดิฉันขอโทษด้วยนะคะ พอดีเห็นคุณหน้าคล้ายน้องก็เลยคิดว่าเป็นพ่อของน้อง" ผมฟังพยาบาลพูดแต่ตาผมมองไปยังอดีตเมียที่ตอนนี้เอาแต่หลบสายตาผมเหมือนเธอกลัวอะไรบางอย่าง

ผมเดินตามข้าวฟ่างที่อุ้มลูกชายของเธอมาถึงห้องพักฟื้นระหว่างทางเด็กผู้ชายก็เอาแต่มองหน้าผมซึ่งผมก็มองตอบแล้วแกก็ยิ้มให้ผมผมก็ยิ้มตอบแกไป มันเป็นครั้งแรกเลยนะที่ผมยิ้มให้เด็กเพราะปกติผมเกลียดเด็กโดยเฉพาะเด็กตัวเล็กๆ ที่ผมเคยเห็นเคยเจอบนห้างที่เอาแต่ร้องไห้ดีดดิ้นอยู่บนพื้นเพราะโดนพ่อแม่ขัดใจมันเลยทำให้ผมฝังใจว่าผมเกลียดเด็กไม่ชอบเด็กแต่กับเด็กน้อยคนนี้ผมไม่มีความรู้สึกแบบนั้นเลยสักนิดมันมีแต่ความเอ็นดูยิ่งเห็นตาแดงๆ ของแกที่เพิ่งผ่านการร้องไห้มามันทำให้ผมอดสงสารแกไม่ได้

ผมยืนมองดูข้าวฟ่างคุยกับคุณหมอเจ้าของไข้มันเลยทำให้ผมรู้สาเหตุว่าทำไมเด็กผู้หญิงตัวน้อยถึงต้องมานอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล

"ต่อไปควรต้องดูแลน้องให้ดีมากกว่านี้นะคะคุณแม่ระวังอย่าให้น้องทานกุ้งอีกเพราะตอนนี้ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้อาการของน้องตอนที่คุณครูพามาส่งอาการน้องไม่สู้ดีเลยโชคดีที่รักษาได้ทัน"

"ค่ะ ค่ะ ต่อไปฟ่างจะระวังและดูแลแกให้ดีกว่านี้ ขอบคุณนะคะที่ช่วยแกไว้ถ้าไม่งั้นแกคงแย่แน่ๆ "

แพ้กุ้ง?? อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้นเพราะผมเองก็แพ้กุ้งเหมือนกัน ถ้าผมจะสงสัยในตัวเด็กทั้งสองนี้ผมจะผิดไหมถ้าผมสงสัยว่าเด็กทั้งสองคนเป็นลูกของผม คือผมไม่ได้มโนหรือคิดไปเองนะ มันมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ผมคิดแบบนั้น หนึ่งคือคุณครูของเด็กที่คิดว่าผมเป็นพ่อ แล้วยังจะมาพยาบาลอีกที่ทักเมื่อครู่นี้แล้วไหนจะมาแพ้กุ้งเหมือนผมอีก ผมรอให้ทุกคนออกไปจนหมดจนเหลือแค่ผมข้าวฟ่างกับเด็กสองคนที่คนนึงกำลังหลับส่วนอีกคนกำลังนั่งระบายสีอยู่บนเตียงสำหรับญาติผู้ป่วยที่จะมานอนเฝ้าไข้

"เด็กสองคนนี้ไม่ใช่ลูกฉันใช่ไหม" พอผมพูดจบประโยคข้าวฟ่างก็รีบหันมามองหน้าผมทันทีแววตาของเธอดูตื่นตกใจกับคำถามของผม

"มะ..เอ่อ ไม่ใช่เด็กสองคนนี้จะเป็นลูกของนายได้ยังไงกันพูดไร้สาระ"

"งั้นฉันขอดูรูปพ่อของเด็กหน่อย" ผมแบมือเพื่อขอดูรูปที่ผมคิดว่าน่าจะมีในมือถือของข้าวฟ่างแต่เธอกลับยืนนิ่งไม่พูดไม่ขยับตัวทำเหมือนไม่ได้ยินที่ผมถาม

"อย่าบอกนะว่าไม่มีเพราะมันคงเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่มีรูปผัวรูปพ่อของลูกเลย"

"แล้วนายมาเกี่ยวอะไรด้วยฉันจะมีรูปหรือไม่มีรูปมันก็ไม่เกี่ยวกับนาย"

"มันอาจจะไม่เกี่ยวถ้าเด็กสองคนนี้ไม่ใช่ลูกของฉัน"

"ไม่ใช่!!! เด็กสองคนนี้ไม่ใช่ลูกของนายฉันบอกนายแล้วไงว่าพ่อของเด็กไปทำงานต่างประเทศ"

"เธอแน่ใจว่าที่เธอพูดมันเป็นเรื่องจริง?? "

"แล้วฉันจะโกหกนายเพื่ออะไร"

"เพื่ออะไรเธอน่าจะรู้คำตอบดีที่สุดนะข้าวฟ่าง" ข้าวฟ่างหน้าถอดสีทันทีเมื่อผมพูดออกไปแบบนั้น

"ในเมื่อถามเธอแล้วไม่ได้คำตอบงั้น...ฉันถามลูกเธอเองก็ได้ว่าพ่อของแกอยู่ที่ไหนไปทำงานต่างประเทศจริงหรือเปล่า"

"นี่!!! อย่าถามนะฉันขอร้อง" ข้าวฟ่างรีบเข้ามาดึงแขนผมไว้คงกลัวว่าผมจะไปถามลูกชายเธอจริงๆ

"งั้นก็บอกความจริงมา"

"พ่อของเด็กๆ ...ตายไปแล้วล่ะ"

"ตาย?? "

"อื้มใช่ตายไปแล้ว"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel