บทที่ 4 บทรักอันเร่าร้อนของชายปริศนา

หลับไปนานแค่ไหนไม่รู้

รู้แค่เพียงว่าเริ่มมีความรู้สึกแปลก ๆ จู่โจม

มันวูบวาบที่ตรงกลางหว่างขา ในท้องน้อยเต้นตุบ ในความพร่าลางมันเร่าร้อนแปลก ๆ ลืมตาขึ้นมองพบว่าสองขาถูกดันให้แหวกอ้า และมีผู้ชายเปลือยเปล่าคนหนึ่งที่มีรอยสักที่ไหล่ลามมาถึงต้นแขนข้างขวากำลังก้มหน้าก้มตาอยู่ตรงนั้น สองเรียวขาของเธอพาดอยู่บนไหล่หนา เสียงบางอย่างเล็ดลอดออกมาเป็นครั้งคราว

มันเป็นเสียงตอนที่เขาดูดเขาเลียแรง ๆ

และสิ่งที่เขาดูดเลียมันก็คือจุดซ่อนเร้นของเธอนั่นแหละ

มิถุนาทะลึ่งพรวดอย่างตกใจ ใครคนนั้นละปากชั่วคราวจากการดูดกินขึ้น ตาเฉี่ยวดุภายใต้คิ้วเข้มดูฉ่ำพร่า ใบหน้าหล่อเหลามีรอยเปรอะเปื้อนมันวาวจากน้ำเมือกสีใสที่มันไหลจากตรงนั้นของเธอ

ดวงตาเธอเบิกกว้าง แม้เคยพบเจอกันแค่ครั้งเดียว แต่เธอยังจำดวงตาเฉี่ยวดุใบหน้าคมสันนั้นได้ขึ้นใจ

เป็นเขา ผู้ชายในคืนนั้น

“ คุณมาที่นี่ได้ยังไง !? ” เธอตะโกนถามออกไปด้วยความตกใจ จะสะบัดสะโพกหนีแต่ถูกสองแขนแข็งแรงล็อกไว้แน่น

แล้วเขาก็ก้มลงไปอีกครั้ง คราวนี้รสดูดเลียถูกเร่งให้แรงเร็ว เม็ดนุ่มอันเป็นต้นตอแห่งความกระสันถูกดูดดุบเป็นจังหวะ ไรหนวดเคราบนริมฝีปากและคางได้รูปเสียดสีบนกลีบเนื้ออูมและต้นขาอ่อน ทั้งหมดทั้งมวลล้วนแล้วแต่สร้างความกระสันรัญจวนแบบที่ทำให้สติเตลิดไปไกล

เขาดูดแรงขึ้น เธอหมดแรงต่อต้าน หลับตาทิ้งสะโพกลงบนเตียงอย่างยอมแพ้ต่อแรงราคะแล้วอ้าปากครางครวญระบายความกระสันเสียว ก่อนเสียงครางจะเงียบหายเพราะมีอะไรบางอย่างมาอุดเต็มปากของเธอ

ดวงตาที่หลับพริ้มเบิกโพลง เห็นเพียงบั้นท้ายตึงแน่นลอยเด่นอยู่เบื้องหน้ากับท่อนขากำยำที่มีไรขนดก ถุงเนื้อนุ่มนิ่มขยับขึ้นลงตามจังหวะที่เอ็นเนื้อขยับเข้าออกในปากของเธอ ในขณะที่ปากของเขายังทำหน้าที่ดูดเลียจุดซ่อนเร้นตรงนั้นอย่างไม่มีบกพร่อง เพิ่มเติมคือสอดสองนิ้วเลื่อนไหลเข้าออกที่รูร่องฉ่ำน้ำพร้อมกับดูดดุบที่เม็ดน้อยกลางกลีบนั้นไปด้วย

เธอเสียวจนหัวหมุนคว้าง จะครางก็ครางไม่ได้ เลยเปลี่ยนเป็นดูดไอ้สิ่งที่ยัดปากเอาไว้แรง ๆ เพื่อเป็นการเอาคืน

ได้ผล เจ้าของมันคำรามลึกอยู่ในลำคอ ก่อนจะเพิ่มแรงดูดแรงขยับนิ้วในร่องน้อยนั้นให้แรงขึ้น เธอเสียวจนต้องสะบัดหน้าหนีคายสิ่งนั้นออกเพื่อสูดปากครางครวญ

อย่างไม่ทันตั้งตัว เขาละปากและนิ้วออกจากตัวเธอ ก่อนจะขยับตัวอย่างรวดเร็ว พักเดียวเธอก็ขึ้นไปนอนหงายอล่างฉ่างอยู่บนกายกำยำนั้นแล้ว เขาใช้สองแขนสอดใต้หัวเข่าของเธอก่อนดึงให้แหวกอ้าก่อนจะจรดจ่อสอดแทรกท่อนเนื้อกลางกายเข้าสู่รูน้อยฉ่ำน้ำแล้วดันพรวดเข้าไปทีเดียวจนมิดด้าม

จากนั้นเขาก็ขยับกายเข้าออกสุดความยาวแบบไม่ให้เธอได้หายใจหายคอ หนักแน่นเน้น ๆ

มิถุนาลืมตามองขึ้นก็พบว่าบนผนังนั้นเป็นกระจกรอบด้าน รวมทั้งบนเพดานเหนือศีรษะด้วย นั่นทำให้เธอมองเห็นตัวเองและเขาอย่างเต็มตา

เรือนร่างสมส่วนผิวขาวนวลละเอียดของเธอแผ่หลาอยู่บนเรือนกายยิ่งใหญ่ของเขา เธอสูงร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรซึ่งนับว่าสูงกว่ามาตรฐานหญิงไทยแต่กลับดูตัวเล็กไปเลยเมื่อนอนซ้อนอยู่บนตัวเขาที่ทั้งสูงใหญ่ แขนขายาว ไหล่กว้างกำยำ กล้ามแน่นไปหมดทั้งตัว ผิวคร้ามเข้มประสาชายไทย คิดว่าผู้ชายคนนี้ต้องสูงร้อยแปดสิบห้าเป็นอย่างต่ำ อาจจะถึงร้อยเก้าสิบด้วยซ้ำไป

หัวใจเต้นระทึกเมื่อเห็นภาพเธอกับเขาสะท้อนกระจ่างชัดจากกระจกบนเพดาน

มือใหญ่ข้างหนึ่งกอบกุมอยู่บนทรวงอวบแล้วบีบเคล้นอย่างไม่คณามือ บีบจนเส้นเลือดหลังมือและท่อนแขนปูดโปน บีบจนเนื้อนมอวบล้นปลิ้นออกตามง่ามมือ สลับกับบีบบี้ยอดทรวงสีชมพูอ่อนเลื่อนคลึงซ้ายขวาสองเต้าให้เท่าเทียม

อีกมือเขาเลื่อนลงต่ำแล้วรูดบี้ที่เม็ดนุ่มบวมเป่งกลางกลีบ ใช้นิ้วโป้งสากกดลงตรงนั้นแล้วเขี่ยซ้ายขวาไปมา ขณะเดียวกันก็ยังโจนจ้วงแทงลึกเข้าออกจากเบื้องล่างทำลายรูน้อยแดงฉ่ำไม่หยุดหย่อน

เธอจ้องความยิ่งใหญ่มันวาวเลื่อนลึกเข้าออก จ้องมือใหญ่ที่เคลื่อนไหวโลมเล้า จ้องทุกการครอบครองของเขาที่มีต่อเธอ

เขาเงยหน้าขึ้นมอง สายตาคมดุประสานกับดวงตาของเธอผ่านเงาสะท้อนของกระจกอยู่อย่างนั้น

จังหวะกระทั้นกระแทกเริ่มหนักหน่วง เร็วขึ้น แรงขึ้น โดยที่เขายังจ้องเธอไม่ลดละ สองมือเธอเลื่อนไปขยุ้มจิกผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่น เสียงจังหวะรักดังชัดสะท้านห้องก่อนในศีรษะของเธอจะขาวโพลน เธอหวีดร้องพร้อมหลับตาแน่น

มิถุนาผวาเยือกลืมตาตื่น เหงื่อกาฬผุดแตกเต็มหน้าผาก ชุ่มเปียกไปทั่วกาย

เธอฝันไปเหรอเนี่ย ฝันบ้าฝันบออะไรชัดเจนขนาดนี้วะ ?!

เธอมองสองมือที่ขยุ้มผ้าปูที่นอนเอาไว้จริงก่อนปล่อยมืออย่างตกใจ รีบเงยหน้าสำรวจเพดานและรอบห้อง พบว่ามันก็ยังเป็นสีขาวหม่น ไม่ได้มีกระจกรอบด้านแบบในฝันสักนิด

แต่สิ่งที่รู้สึกได้คือความชุ่มเปียกระหว่างซอกขา

เธอเลื่อนมือลงใต้ผ้าห่ม สัมผัสเนินเนื้อตัวเองผ่านกางเกงนอน พบว่ามันเปียกชุ่มจนทะลุออกมา ความเปียกที่ไม่ใช่เหงื่อแต่เป็นน้ำใคร่เมือกลื่นที่เกิดจากฝันเมื่อครู่

บ้าจริง !

เธอลุกพรวดขึ้นนั่ง มองนาฬิกาพบว่าเป็นเวลาตีห้าครึ่ง เพราะเหงื่อท่วมตัวจึงตัดสินใจลุกพรวดเข้าห้องน้ำจัดการธุระส่วนตัวแล้วเปลื้องผ้าเปิดฝักบัวให้น้ำอุ่นรินรดตั้งแต่หัวจรดเท้า หมายให้สายน้ำชะล้างเรื่องบ้า ๆ ให้ออกจากหัวไป แต่ก็ไม่

สายน้ำอาจใช้ชำระล้างหลายสิ่งอย่างได้ แต่ไม่ได้หมายรวมถึงความทรงจำ