EP 2 : ทักทายกลับ
กำราบรัก : ตอนที่ 2
สายตาคมกริบมองหญิงสาวหุ่นนางแบบที่กำลังเดินนวยนาดเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเขา ริมฝีปากบางเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงเพลิงกำลังยกยิ้มมุมปาก
"เจอกันอีกแล้วนะ คงไม่ต้องแนะนำตัวอะไรมาก" ฉันกล่าวทักทายชายหนุ่มที่คุ้นเคย และผู้ชายตรงหน้าก็เป็นคนที่คิดไว้จริงๆ ถึงจะเคยเจอกันไม่กี่ครั้งก็ตาม เขาจำฉันได้แน่นอน ไม่งั้นคงไม่ได้มาหยุดอยู่ตรงหน้าเขาแบบนี้แน่ รอยยิ้มหวานฉายขึ้นบนใบหน้า เป็นรอยยิ้มที่ชายหลายต่อหลายคนหลงเสน่ห์
"....." โนอาร์แสดงสีหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงความรู้สึกแต่อย่างใด
"ขอนั่งด้วยสิ เพื่อนฉันกลับไปหมดแล้ว ไม่อยากนั่งอยู่คนเดียว"
"เชิญ"
"ขอบใจ..." ฉันยิ้มกลบเกลื่อนความเฉยชาของคนตรงหน้า "ทำไมนายถึงมานั่งคนเดียวล่ะ ทุกทีเห็นตัวติดกับเจ้านายอย่างกับเงาตามตัว"
"นายอยู่กับนายหญิง"
"อ่อๆ..." นินิวพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ และพยายามหาเรื่องที่จะคุย เพราะชายหนุ่มตรงหน้าไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเสน่ห์ของเธอเลยสักนิด "นายมาเที่ยวที่นี่บ่อยเหรอ"
"มาทำงาน ไม่ได้มาเที่ยว"
"อะไรนะ" พูดจบฉันก็ลุกไปนั่งบนโซฟาตัวเดียวกับเขาทันที
"พอดีว่าไม่ค่อยได้ยินคำตอบนายเท่าไหร่เลยต้องมานั่งฟังใกล้ๆ" สายตายั่วยวนของนินิวส่งไปที่ชายหนุ่มมาดเข้มอย่างเปิดเผย ตัวเขาและตัวเธออยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ จนได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆจากตัวของชายหนุ่ม พอมองอย่างพินิจพิจารณาใบหน้าคมคายสไตล์ยุโรปนิดไทยหน่อยๆ ก็หล่อกระชากใจไม่เบา ไม่แปลกที่เก้งกวางจะสนใจเขาเป็นพิเศษ
"กลับไปนั่งที่ตัวเองซะ" เขาปรายตามองเธอเพียงนิดก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเข้ม
"กลัวอดใจไม่ไหวเหรอ" นิ้วเรียวยาวลูบไร้ไปตามอกแกร่งพร้อมกับใช้สายตาอย่างท้าทาย ไม่ได้กลัวเขาเลยสักนิด เมื่อเห็นว่าเขายังนิ่งก็ยิ่งนึกสนุก
พรึบ
นินิวเขยิบขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งอย่าถือวิสาสะ แขนเรียวยาวคล้องคอเขาจนรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์
"หึหึ! เฮ้อ... แค่นี้ก็ไปไม่เป็นแล้วสิน่ะ" ฉันหัวเราะในลำคอเบาๆเมื่อเห็นบอดีการ์ดหนุ่มตัวแข็งทื่ออย่างกับท่อนไม้
"เครื่องดื่มที่เฮียต้องการได้แล้วครับ" เสียงของเด็กเสิร์ฟดังขึ้นขัดจังหวะพอดี
"อยากนั่งด้วยกันก็ต้องดื่มด้วยกันสักหน่อย" ธันวาปรายตามองแก้วเหล้าสีอำพันที่พึ่งมาเสิร์ฟ ก่อนจะหันมามองหญิงสาวที่ยังนั่งอยู่บนตักเขา
"ไม่ละ แค่อยากมาทักทายเฉยๆ ฉันดื่มมาเยอะแล้ว”
“เครื่องดื่มที่เธอดื่มมันจะไปสนุกอะไรล่ะ อยากสนุกนักไม่ใช่เหรอไง”
"ฉัน...จะกลับพอดี" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก สายตาคมกริบคู่นั้นแปรเปลี่ยนอย่างกับเสือร้าย รอยยิ้มที่เขาส่งมาไม่ได้หวังดีกับเธอแน่ บุคลิกท่าทางของเขาต่างจากก่อนนี้อย่างสิ้นเชิง
"ขอบใจสำหรับความหวังดี แต่ฉันไม่ต้องการ" นินิวรีบดันตัวเองออกจากหน้าตักแกร่งทันที เพราะคำพูดและน้ำเสียงของเขาทำให้เธอเสียวสันหลังแปลกๆ
ปึก!
"อ๊ะ" ฉันร้องเสียงหลงเมื่อถูกมือหนารั้งตัวไว้ให้นั่งลงบนตักเขาตามเดิม
"ปล่อย!" นินิวพยายามดันตัวเองออกแต่เขาใช้ท่อนแขนแกร่งเพียงข้างเดียวเหนี่ยวเอวเธอไว้แน่น ใจดวงน้อยเริ่มเต้นระรัว ความรู้สึกเริ่มบอกว่ามันเริ่มไม่สนุกแล้ว
"ฉันเป็นพวกชอบทักทายกลับซะด้วยสิ"
"....." ดวงตากลมโตมองใบหน้าคมคายกับแก้วเหล้าสีอำพันที่วางอยู่ตรงหน้าสลับกันไปมา "อย่าคิดทำอะไรฉัน ไม่งั้นฉันจะบอกไอรีนให้จัดการนาย"
"หึ! เธอเป็นคนเดินขึ้นมาหาฉันเองหรือเปล่า ช่วยทำหน้าให้เหมือนตอนเดินเข้ามาหน่อยสิ ไม่งั้นเพื่อนเธอจะไม่ได้รูปสวยๆนะ" เขาปรายตามองกลุ่มเพื่อนสาวของเธอที่อยู่ด้านล่าง กำลังพยายามถ่ายรูปขึ้นมาด้านบน เขารู้ดีว่าเพื่อนเธอไม่ได้กลับ แต่เธอจงใจจะขึ้นมาหาเขาเอง
"นายรู้?" คิ้วทั้งสองข้างขมวดเป็นปม บรรดาผู้ชายที่เคยเล่นด้วยแค่เห็นเสน่ห์ยั่วยวนของฉันก็ไม่มีใครสนใจสิ่งรอบข้างแล้ว ผิดกับธันวาที่ดูเหมือนเขาจะระวังตัวเองตลอด
"การที่ฉันเป็นบอดีการ์ดให้นาย มีศัตรูรอบตัว คิดว่ามุกตื้นๆที่เธอเล่นอยู่จะทำให้ฉันตกหลุมพรางเธอหรือไง" ริมฝีปากหนายกยิ้มมุมปาก
"ถ้านายรู้ก็ปล่อยฉันลงไปสิ”
"บอกแล้วว่าฉันเป็นพวกชอบทักทายกลับ" ธันวามองแก้วเหล้าที่วางตรงหน้าหญิงสาวเป็นการบ่งบอกว่าให้เธอดื่มมัน
"ไอ้มุกที่มอมเหล้าผู้หญิงก็มุกตื้นๆเหมือนกัน ฉันเจอมาหมดแล้ว อย่าคิดว่าฉันรู้ไม่ทัน"
"ฉลาดดี แต่ก็ไม่ทั้งหมด" รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ฉายขึ้นบนใบหน้าคมคายเมื่อรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ระวังตัวดีในระดับหนึ่ง
"หมายความว่าไง?"
"หึ" ธันวาเอื้อมมือมาหยิบแก้วเหล้าที่วางอยู่ตรงหน้าเธอและกระดกรวดเดียวจนหมด ทุกการกระทำของเขาสร้างความงุนงงให้กับนินิวไม่น้อย
แต่แล้ว...ร่างกายของเธอก็เริ่มรู้สึกร้อนวูบวาบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น เธอไม่ได้กินเหล้าแก้วนั้นเลยด้วยซ้ำ ไม่ได้ดื่มมั่วกับใคร
"เหมือนเธอจะร้อน ดื่มอะไรเย็นๆดับร้อนหน่อยไหมล่ะ ฉันจะสั่งให้ใหม่"
"ฉะ ฉันจะกลับแล้ว" ไม่รอให้เขาอนุญาตฉันก็ลุกขึ้นทันที มือบางกำหมัดแน่นพยายามข่มอารมณ์พลุ่งพล่านของตัวเอง ฉันไม่รู้ว่าเวลาโดนยาปลุกเซ็กส์มันคือความรู้สึกแบบไหน แต่เท่าที่รู้ตอนนี้คือความต้องการของตัวเองมันเริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ ราวกับโดนของพวกนั้นแต่ทุกอย่างก็ต้องหยุดคิดเพราะร่างกายเริ่มปะทุขึ้น
เขาไม่ยื้อตัวเธอเหมือนตอนแรก ขาเรียวยาวรีบเดินออกจากพื้นที่ตรงนั้นโดยเร็ว ท่ามกลางสายตาของกลุ่มชายฉกรรจ์ที่สวมชุดสูทสีดำคล้ายกับชายหนุ่ม
"จะปล่อยไปแบบนั้นเหรอเฮีย"
"กูแค่เล่นไปตามน้ำ ไม่ได้ต้องการ….หวังว่าจะหายซ่า" ธันวาตอบกลับลูกน้องที่เดินเข้ามาถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง สายตาคมกริบมองหลังของหญิงสาวที่เดินห่างออกไปอย่างไร้ความรู้สึกใดๆ ก่อนจะวางขวดยาสีใสลักษณะคล้ายกับพิมเสนน้ำลงบนโต๊ะและกระตุกยิ้มมุมปาก
เสียงเพลงที่ดังกระหึ่มยิ่งขับกล่อมประสาทมากกว่าเก่า ดวงตากลมโตมองผู้คนที่กำลังโยกย้ายตามจังหวะเพลงพร่ามัวไปหมด
"เฮ้ๆ เสน่ห์แกก็ใช่ย่อยนะ ได้นัวเนียกับผู้ชายขนาดนั้นคงหลงเสน่ห์แกแย่แน่เลย" ฝนพูดขึ้นเมื่อเห็นนินิวเดินเข้ามาที่โต๊ะ
"แกพาฉันกลับหน่อย ตอนนี้! เดี๋ยวนี้!"
"เดี๋ยวนะ แกไปโดนอะไรมา ทำไมหน้าแกซีดแบบนี้แล้วแอร์ในผับก็หนาวทำไมเหงื่อออกเยอะขนาดนั้น" แพรวาเห็นความผิดปกติของเพื่อนสาว
"อะ ออกจากที่นี่ก่อน" ฉันหยิบแบงก์สีเทามาวางไว้บนโต๊ะจำนวนหนึ่งและรีบเดินออกมาทันที เพื่อนทั้งสองคนที่เห็นอาการไม่ดีก็รีบเดินประกบตัวฉันทันที
ทั้งสามคนเดินออกมาถึงลานจอดรถด้วยท่าทางลนลาน
“รถแกละ”
“เอาไว้นี่แหละ พาฉันกลับ ฉันจะไม่ไหวอยู่แล้ว” ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยเหงื่อ ฉันรีบเข้าไปนั่งเบาะหลังและใช้เล็กจิกกับเบาะไว้แน่น “ร้อน ร้อนจนอยากถอดเสื้อผ้า อื้อออ…ร้อนนน”
“แกโดนยาปลุกเซ็กส์เหรอเนี่ย แต่ฉันไม่เห็นแกดื่มเลยนะ”
“ไม่รู้ๆ แกช่วยขับเร็วๆหน่อยได้ไหม” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงสั่น และตอนนี้ใจกลางความสาวเริ่มรู้สึกถึงความเปียกแฉะอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน