บทที่ 17 ผู้กำกับสาว
“ถ้าไม่อยากเจ็บตัวมากกว่านี้ อยู่เฉยๆ ห้ามก่อกวนหรือทำลายของในห้องนี้อีก”
นิ้วชี้เรียวยาวชี้ไปที่ใบหน้าบึ้งโกรธของหญิงสาว เธอไม่กลัวคำขู่ของเขาแต่ข้อมือมีรอยช้ำแดงเจ็บร้าวถึงกระดูกข้างใน เธอต่อต้านเขาด้วยวิธีทำลายของไม่ได้เธอจะหาวิธีอื่นที่ทำให้เขารีบปล่อยเธอออกไปจากห้องนี้
ดวงตากลมโตจ้องหน้าชายหนุ่ม ไม่มีคำตอบโต้กลับมาเช่นทุกครั้ง ไซฟาลยิ้มหยันในดวงตาและริมฝีปากบางสีชมพู
“ฉันจะทำหน้าที่แทนเธอจนกว่างานเธอจะเสร็จแล้วฉันจะปล่อยตัวเธอไปหาเพื่อนๆ ระหว่างนี้อย่าสร้างปัญหาให้ฉันโกรธ เพราะนั่นมันไม่ปลอดภัยสำหรับตัวเธอ จำไว้”
น้ำเสียงและดวงตาที่จ้องมายังนวลหน้าเกลี้ยงเกลาแข็งกร้าว เคราเขียวช่วยให้ใบหน้าสะอาดน่ามองแต่ ณ เวลานี้แพรดาวไม่รู้สึกถึงความเข้มของดวงตา ใบหน้าเข้มของชายหนุ่ม ไม่รู้สึกหลงใหลเหมือนหญิงสาวคนอื่นๆ ที่เห็นชายหนุ่มรูปงามตรงหน้าต้องจ้องจนแทบลืมหายใจ เธออยากกระโดดเข้าไปชกหน้าเขามากกว่า
บานประตูปิดลง เสียงล็อคกุญแจภายนอก ครู่หนึ่งเสียงฝีเท้าคนด้านนอกเดินห่างออกไป แพรดาวพ่นลมหายใจ ปล่อยความอัดอั้นภายในออกมา มือข้างที่ถูกชายหนุ่มกระทำคลายความเจ็บลงไปมากแต่ใจนี่สิไม่หายเจ็บ
กาซี่เดินเข้ามาในห้องทำงานซึ่งเป็นห้องทำงานส่วนตัวของเขา จัดอยู่ทางด้านซ้ายมือของตัวคฤหาสน์ กาซี่เป็นหลานเช่นเดียวกับไซฟาลแต่กาซี่พอใจกับการได้อยู่ร่วมบ้านกับลุงมากกว่าขอแยกตัวอยู่ลำพังเช่นเดียวกับไซฟาล
ไม่ว่าหลานชายคนเล็กหรือหลานชายคนโตต้องการอะไร ลุงกับป้าสะใภ้พร้อมจัดหาให้ทุกอย่าง อิบราฮิมเคยเปรยกับกาซี่ว่า
“กาซี่ ปลูกบ้านเหมือนไซก็ได้นะ ลุงจะจัดการให้”
“ผมอยากอยู่กับคุณลุงครับ”
ชายหนุ่มตอบพร้อมรอยยิ้มที่ทำให้ผู้สูงวัยแช่มชื่นหัวใจ ความรักที่หลานๆ มีให้กับคนเริ่มแก่อย่างเขาเป็นดั่งพลังช่วยให้ทำงานแบบลืมเหนื่อยแต่เขาก็วางให้หลานๆ รับช่วงต่อหลายอย่าง
ซาร่าก็ไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของหลานๆ หล่อนไม่สามารถมีลูกได้หลังจากตั้งท้องแล้วแท้งถึง 2 ครั้ง หมอช่วยให้ความฝันของมหาเศรษฐีเป็นจริงไม่ได้ซึ่งซาร่ากับอิบราฮิมยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขา
กาซี่ทรุดนั่งบนเก้าอี้นวมหนังสีน้ำตาลตัวใหญ่ ทอดสายตาจับนิ่งที่โต๊ะทำงานซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเก้าอี้รับแขกตัวนี้ เขาไม่พร้อมทำงานไม่ว่าจะเป็นงานเอกสารหรือต้องใช้ความคิดในขณะนี้ สิ่งที่เขาต้องใช้ความคิดอย่างหนักคือจะทำอย่างไรให้พี่ชายยอมปล่อยตัวแขกพิเศษของอิบราฮิม
ประพนธ์ขอพบกาซี่ในห้องรับแขกของบ้าน หลังทานอาหารมื้อค่ำเรียบร้อยแล้ว กาซี่จึงฉวยโอกาสนี้สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับงานของประพนธ์และทีมงาน รวมทั้งถามถึงแพรดาว นิสัยของเธอ และทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ ประพนธ์ยินดีตอบเท่าที่รู้จักแพรดาว
“คุณอย่าสงสัยว่าผมถามเกี่ยวกับเพื่อนคุณทำไม ที่ผมถามเพราะต้องการช่วยเพื่อนคุณ พี่ชายของผมไม่เหมือนคนอื่น เข้าใจไม่ยากถ้าคนๆ นั้นรู้ใจเขา แต่จะไม่เข้าใจเลย ถ้าคนๆ นั้นต้องการทดสอบหรือลองดีกับเขา คุณประพนธ์เข้านะครับ”
คำพูดของกาซี่ ประพนธ์เข้าใจเพียงครึ่งเดียวแต่พยักหน้าเพื่อให้กาซี่คลายหัวคิ้วขมวดมุ่นนั่น แค่เขาเข้ามาขอความช่วยเหลือก็เกรงใจอยู่แล้ว กาซี่ไม่เรื่องมาก พูดจาดี หน้าตาละม้ายไซฟาลแต่ผิดกันตรงไซฟาลดูเข้มแข็งกว่า
“คุณกาซี่รู้จักยายแพรจากผม คิดว่าคุณไซฟาลยังโกรธแพรดาวอยู่หรือเปล่าครับ”
“ยังโกรธ เท่าที่คุณเล่าถึงคุณแพรดาว เพื่อนร่วมงานคุณคนนี้ไม่ยอมใคร นิสัยเดียวกับพี่ชายผมแต่พี่ผมนอกจากไม่ยอมใครแล้วยังไม่ให้ใครระเมิดคำสั่งของเขา เพื่อนคุณคงต้องอยู่ในบ้านพี่ผมจนกว่าพวกคุณจะทำงานเสร็จ”
“ไม่ได้นะครับ ยายแพรต้องกำกับงานนี้”
“พี่ไซจะทำหน้าที่แทน เขาบอกพวกคุณแล้วไม่ใช่หรือครับ”
“ครับ แต่..”
ประพนธ์พูดไม่ออก เขาอยากบอกกาซี่ตรงนี้ว่า ไซฟาลไม่สามารถทำงานแทนแพรดาวได้เพราะผู้กำกับสาวทำงานไม่เหมือนใคร งานของเธอมีมุมมองออกมาให้คนดูคาดไม่ถึงและรู้ไม่เท่าทัน เธอใช้มุมแปลกหรือมุมสุดหวงในพื้นที่ออกมาเผยให้เห็น ครั้งนี้แพรดาวก้าวล้ำเส้นที่ไซฟาลขีดไว้เพื่อนำมุมลึกลับออกมาเปิด เธอไม่ใส่ใจกับคำค้านของเพื่อนร่วมงาน และไม่กลัวจะถูกเจ้าของสถานที่ตำหนิ เพื่องานแล้ว แพรดาวบ้าได้ทุกรูปแบบ แต่ความบ้าของเธอถูกไซฟาลจับจุดได้เธอจึงถูกขังอย่างไม่มีกำหนดปลดปล่อย
“ผมรู้ ว่าคุณจะพูดอะไร ผมจะช่วยพูดกับพี่ชายผมให้ก็แล้วกัน” กาซี่ยิ้มบาง
“ขอบคุณมากครับ”
ประพนธ์เดินออกไป สีหน้าของเขาไม่ดีนัก กาซี่เข้าใจความรู้สึกของชายหนุ่มดีว่าเป็นอย่างไรและถ้าพวกเขาบินกลับประเทศได้ในเวลานี้ พวกเขาคงบินกลับไปแล้ว
หลานชายคนเล็กของบ้านถอนใจยาว สมองที่เคยปลอดโปร่งกับงานและทุกเรื่องกลับคิดเรื่องนี้ไม่ออก หาทางช่วยผู้กำกับสาวไม่ได้ เสียงเคาะประตูดังเบาๆ กาซี่หันไปมอง
“เข้ามา” เขาเอ่ยอนุญาตตามความเคยชิน ประตูห้องเปิดเข้ามาด้านใน คนเคาะส่งยิ้มก่อนจะก้าวเข้ามา
“คุณลิลลี่ มีอะไรหรือครับ” เจ้าของห้องถาม สายตาคมกวาดไปทั่วใบหน้าสวยหวาน
“จะมาถามคุณว่าต้องการกาแฟมั้ยคะ” หญิงสาวเดินเข้ามายืนกลางห้อง
“ก็ดีครับ”
“ถ้าอย่างนั้นรอสักครู่นะคะ” ลิลลี่เดินยิ้มออกไป
“ต้องการอะไรจากเรา”
กาซี่พึมพำกับตัวเอง เขารู้จักลิลลี่มากพอที่จะจับจุดอ่อนของหล่อนได้ไม่ยาก ตัวหล่อนเองคงไม่รู้ว่าเขารู้จักหล่อนดี ทุกครั้งที่หล่อนเข้ามาเอาใจเขา สิ่งที่หล่อนต้องการแลกเปลี่ยนคือเรื่องของไซฟาลหรือไม่ก็หญิงสาวที่เข้ามาพัวพันกับไซฟาล ครั้งนี้ลิลลี่ต้องการรู้เรื่องของใคร
ชายหนุ่มเมินมองแจกันบนโต๊ะไม้รับแขกตรงหน้าเมื่อประตูห้องถูกเคาะอีกครั้ง ลิลลี่ผลักประตูก้าวเข้ามาพร้อมถาดสีเงินใบเล็กในมือ แก้วเซรามิกเนื้อดีสีขาว แต้มด้วยดอกไม้สีฟ้าดอกเล็กพร้อมจานรองแก้ว วางบนถาด หล่อนวางจานรองแก้วลงบนโต๊ะตามด้วยแก้วกาแฟ กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นกระจายไปรอบๆ ชวนให้ผู้ที่นั่งบนเก้าอี้ก้มลงมอง