บทที่ 1 ข้อแลกเปลี่ยน
“อะไรนะ พี่นีจะให้แพรไปซัสส์แทนพี่เจตต์ โนเลยค่ะ คิดใหม่ได้เลยค่ะ”
แพรดาวโยนแฟ้มสีดำลงบนโต๊ะทำงานสุนีย์ เจ้าของบริษัทสุนีย์ทราเวลล์ โดยไม่รู้สึกว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นมันเกินไป อย่างน้อยก็น่าจะเกรงใจเจ้านายบ้าง สุนีย์ไม่ใช่เพื่อนเล่นของเธอและสุนีย์มีศักดิ์เป็นพี่สาวถ้านับญาติจากทางแม่
แต่เพราะความเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองสูง จึงทำให้เธอกลายเป็นคนสำคัญที่สุนีย์ไม่กล้าบังคับเรื่องงานมากนัก งานที่แพรดาวรับผิดชอบ ไม่เคยผิดพลาดขั้นร้ายแรง จะมีบ้างก็เล็กน้อยซึ่งสามารถแก้ไขได้
ผู้กำกับหญิงคนแรกของบริษัท เรียนรู้งานจากสมเจตต์พี่ใหญ่ในบริษัทได้ดีเยี่ยม บางครั้งสมเจตต์ยกงานที่รับผิดชอบให้แพรดาวทำหน้าตาเฉย เรื่องนี้สุนีย์รับรู้และเห็นความสามารถของแพรดาว ไม่ว่าน้องสาวจะต้องการอะไร หล่อนยอมให้และทำตามเสมอเพราะรู้ว่าสิ่งที่น้องสาวทำให้กับบริษัทนั้น ไม่เสียหายและไม่เสียงานอย่างแน่นอน แต่ครั้งนี้ หล่อนจำเป็นต้องบังคับน้องสาวเพราะงานใหญ่ที่สมเจตต์รับไว้ กำลังมีปัญหา คนที่แก้ไขได้ ต้องเป็นเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น
“พี่คิดดีแล้ว คิดหลายตลบด้วย แกต้องไปแทนพี่เจตต์เพราะพี่เจตต์ต้องแก้งาน เป็นงานสำคัญ”
เจ้าของบริษัทเสียงเข้มกับลูกน้องสาว ถ้าหล่อนยอมแพรดาว งานที่ประเทศซัสส์ต้องเป็นอันล้มเลิก การขออนุญาตจากอิบราฮิมต้องยุติ หล่อนต้องเสียคำพูดและเสียโอกาสดี ๆ นี้ไปและไม่รู้เมื่อไหร่อิบราฮิมจะเปิดคฤหาสน์อันโอ่อ่าหรูหราให้กับนิตยสารของหล่อน รวมทั้งเปิดพื้นทะเลทรายติดชายเขาซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ให้รายการของหล่อนเข้าไปถ่ายทำได้อีก หล่อนยอมเสียโอกาสนี้ไปไม่ได้แม้จะขัดใจกับแพรดาวก็ตาม
“ให้แพรไปแก้แทนก็ได้ แพรรู้ว่าจะต้องแก้แบบไหน” แพรดาวแย้งคำพูดของเจ้านาย
“ไม่ได้ ยังไงแกต้องไปต่างประเทศแทนพี่เจตต์ เดินทางพรุ่งนี้ พี่เตรียมตั๋วเครื่องบินกับเอกสารทุกอย่างให้ทีมงานของแกไว้แล้ว พี่ให้ทุกคนมารับไปหมดแล้วเหลือแกคนสุดท้าย”
“ไม่ไป ยังไงก็ไม่ไป แพรไม่ชอบ” เธอค้านเสียงแข็ง
“ไม่ชอบอะไร สถานที่ คน หรือว่างานที่พี่ให้ทำ”
สุนีย์เสียงแข็งเช่นกัน ไม่มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า ที่แต่งเติมเครื่องสำอางไว้เรียบเนียนสมวัยสามสิบต้น ๆ แพรดาวจ้องหน้านายสาวแล้วเมินหนีสายตาที่จ้องเธออยู่ก่อนแล้ว
“คน” เธอตอบสั้น ๆ สุนีย์ถึงกับยิ้ม หล่อนรู้นิสัยของแพรดาวดี เธอไม่ชอบผู้ชายในแถบประเทศนั้น ยิ่งแต่งตัวด้วยผ้าคลุมรุ่มร่าม โพกผ้าไม่เห็นเส้นผม ไว้หนวดเครายาวยิ่งไม่เป็นที่ถูกใจ
“ไม่ชอบก็ไม่ต้องมอง แค่นี้ก็จบ” สุนีย์ไม่ยอมเช่นกัน
“แต่แพร..”
“ยายแพร นี่เป็นคำสั่ง งานต้องเป็นงาน เก็บเรื่องส่วนตัวไว้คนละที่ ถ้าแกไม่ทำงานนี้ก็ไม่ต้องมาคุยกันอีก”
ถึงคราวต้องเอาจริงสุนีย์ก็ทำได้ไม่แพ้นักแสดงมืออาชีพ หล่อนปั้นหน้าราบเรียบ ไม่แคร์กับคนนั่งอยู่เบื้องหน้า ไม่มองและไม่ใส่ใจสีหน้าของหญิงสาว แพรดาวกอดอกจ้องหน้าพี่สาวครู่หนึ่งจึงเอ่ยขึ้น
“ก็ได้ แพรไปก็ได้ แต่มีข้อแม้ ถ้าพี่ให้แพรได้ แพรก็จะไป แต่ถ้าไม่ให้ งานนี้ล้ม”
“แกจะต่อรองอะไรกับพี่” ญาติผู้พี่จ้องตาคนพูด
“ก็ไม่มีอะไรมาก แค่พี่พิมพ์งานรวมเล่มสารคดีเพื่อชีวิตให้แพร แค่นี้ทุกอย่างไปได้สวยค่ะ” หญิงสาวทำหน้าไม่รับรู้กับคำสั่งของพี่สาว
“กล้าต่อรองนะยะ” สุนีย์ค้อนเล็ก ๆ ให้น้องสาว
“ก็.นะ คนมันเก่ง ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกันบ้าง พี่มีเวลาคิดแค่นาทีเดียวนะ แพรให้เวลาได้นานที่สุดแค่นี้เท่านั้น” เธอลุกขึ้นยืนทันทีที่ยื่นคำขาดกับเจ้านายจบลง สุนีย์ส่ายหน้า เอนหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วถอนใจอย่างรู้ทันความเจ้าเล่ห์ของน้องสาว
“ได้ ถ้าแกทำงานให้พี่สำเร็จเรียบร้อยด้วยดี พี่จะพิมพ์งานให้แก”
“จริงหรือพี่” หญิงสาวตบมือลงบนแฟ้มเสียงดัง รอยยิ้มกระจายเต็มดวงหน้ามนใสสะอาดของเธอ สุนีย์พยักหน้าพร้อมรอยยิ้มขำ ๆ กับท่าทางดีใจจนเก็บไว้ไม่อยู่ของแพรดาว
“งั้นโอ.เค.เลยค่ะ พรุ่งนี้ยินดีและเต็มใจเดินทางไปซัสส์ค่ะ เจ้านาย”
แพรดาวยกมือขึ้นให้สัญญากับสุนีย์ เจ้านายสาวยิ้มแล้วส่ายหน้าอีกครั้ง ถึงเวลาที่หล่อนต้องทำความฝันของแพรดาวให้เป็นความจริงเสียแล้ว
หญิงสาวคิดหนักหลังจากรับคำสั่งจากเจ้านายสาว เธอไม่อยากไปประเทศอะไรก็ตามที่อยู่แถบตะวันออกกลาง เธอนั่งมองตั๋วเครื่องบินที่สุนีย์ยื่นให้ก่อนหน้านี้ไม่ถึงชั่วโมง ชื่อเธอ คือคนเดินทาง สุนีย์วางแผนไว้ตั้งแต่แรก ไม่ใช่เพียงแค่เปลี่ยนตัวกับสมเจตต์กะทันหัน
“ร้ายนักนะพี่นี รู้ว่าเราไม่ชอบยิ่งให้ไป เออ จะทำให้เสียงานไปเลย”
เธอพูดกับตั๋วเครื่องบินแต่ครู่เดียวก็ถอนใจเฮือก เอื้อมมือไปยกหูโทรศัพท์ขึ้นมากดเลขติดต่อภายในไปที่โต๊ะสมเจตต์ หนุ่มรุ่นพี่รับสายรวดเร็วทันใจ
“ครับ”
“พี่เจตต์ ว่างรึเปล่า แพรจะไปหา”
“ถ้าคุยนานไม่ได้แต่แป๊บเดียวได้” เขาตอบกลับมา
“งั้นรอเดี๋ยว” แพรดาววางสายแล้วเดินลิ่วออกจากห้อง ไม่ถึงนาทีประตูห้องทำงานของสมเจตต์ก็เปิดออก ร่างสูงโปร่งก้าวฉับ ๆ เข้าไป
“บอกรายละเอียดเกี่ยวกับเมืองซัสส์มาให้หมด รวมทั้งแปลนงานด้วย เล่นมัดมือชกกันอย่างนี้ พี่นีจ่ายเท่าไหร่ล่ะ”
เธอนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานโดยไม่รอให้เจ้าของอนุญาต ชายหนุ่มยิ้มบาง รู้เรื่องจากสุนีย์เมื่อไม่กี่นาทีนี้และพร้อมรับมือกับหญิงห้าวทุกเวลา เขาเลื่อนแฟ้มสีดำมาตรงหน้าเธอ
“ข้อมูลทั้งหมดอยู่ในนี้ ไปอ่านเอง ส่วนข้อมูลสั้น ๆ มีแค่ เมืองซัสส์เป็นประเทศเล็ก ๆไม่ค่อยมีคนรู้จักเท่าไหร่แต่น่าสนใจมาก บรรยากาศมีให้แกไปเก็บเพียบ ยังไงก็เอาชอตเด็ดมาฝากพี่บ้างล่ะ”
“เด็ดแน่ ถ้าไปแล้วไม่มีอะไรให้แพรทำ แพรจะถ่ายทะเลทรายมาให้ดูทั้งม้วน” เธอประชดเสียงหนักและเบ้ปากใส่ชายหนุ่ม