Episode 03 พราวรดา
"หยุดนะ!"
ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ฉันกล้าบ้าบิ่นเสนอหน้าออกไปกลางวงล้อม แถมยังเอาตัวเองไปยืนเป็นกำบังให้ยัยบี๋จนน้ำในถังที่ถูกรุ่นน้องมอฯต้นสาดใส่จนเปียกไปทั้งร่างไม่ต่างจากหมอนั่นเมื่อวานนี้เลย
ซ่า!~
ฉันหลับตาลงโดยทันทีตามสัญชาตญาณเมื่อน้ำกระทบกับใบหน้า เสียงผู้คนรอบข้างทั้งตกใจทั้งวิจารณ์ไปต่างๆนานา เมื่อลืมตาขึ้นก็เห็นพี่เธียยืนกอดอกทำหน้านิ่งมองฉันอยู่ ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ
"เธอ..." เขายิ้มมุมปาก ใบหน้าคมคายที่เคยเรียบเฉยค่อยๆผุดรอยยิ้มตรงมุมปาก มองดูสภาพของฉันที่เหมือนลูกหมาตกน้ำไม่ต่างจากเขาเมื่อวานเลยแม้แต่น้อย "เป็นใครล่ะถึงมารับโทษแทน"
หมอนี่มันนิสัยเสียสุดๆเลย
"หยุดบ้าสักทีเถอะ! คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของโรงเรียนนี้แล้วจะเป็นเจ้าของชีวิตคนอื่นด้วยหรือไง!" ฉันโมโหเขาจนต้องตะคอกใส่หน้าอย่างเหลืออด แต่เขากลับดูไม่สะทกสะท้านกับส่งที่ฉันพูดเลยสักนิดเดียว แถมเขายังยิ้มบางๆเหมือนพอใจกับการที่ได้เห็นฉันโกรธอีกด้วย
"หึ" เขาหัวเราะในลำคอ ก่อนจะขยับตัวขึ้นไปนั่งบนโต๊ะตัวเดิม "ฉันแค่อยากแก้แค้นคนที่ทำฉันเมื่อวาน เธอเป็นคนทำเหรอถึงมายุ่ง จำหน้าไม่ได้ด้วยดิวะ"
ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะจำไม่ได้ คนเพิ่งเจอกันเมื่อวานเอง ขนาดฉันยังจำเขาได้ดีเลยเขาแค่ต้องการจะหาเรื่องคนอื่นต่างหาก
"อ้าว เด็กใหม่" พี่เชน รุ่นพี่ที่เจอกันเมื่อวานและคงจะเป็นเพื่อนสนิทของพี่เธียด้วยทำสีหน้าตกใจเล็กน้อยตอนที่หันมาเห็นฉัน ตอนแรกเขาไม่ได้สนใจเหตุการณ์รอบข้างเลยด้วยซ้ำราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่พวกเขาเห็นเป็นปกติอย่างนั้นแหละ
"..." คนชื่อเธียหันไปมองเพื่อนของเขาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง สลับกับหันมามองฉันแล้วจึงเค้นรอยยิ้มร้ายกาจออกมา
"หนูนี่แหละทำ ไม่ใช่คนนี้" ฉันพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่ดังพอประมาณแต่ก็ไม่ได้ตะคอกเหมือนก่อนหน้าเพราะตอนนี้สายตาของทุกคนกำลังพุ่งเป้ามาทางฉัน แถมยังรู้สึกว่าสายตาของคนพวกนั้นมันแปลกๆอีกต่างหาก
รวมไปถึงผู้หญิงที่นั่งคุกเข่าอยู่ กำลังมองฉันด้วยสีหน้าไม่พอใจเอามากๆ คงจะโกรธเพราะคิดว่าฉันคือต้นเหตุล่ะมั้ง
"แปลว่าเมื่อวานโกหกเหรอ" ไอ้บ้ารุ่นพี่นั่นทำหน้าเหมือนคนกำลังมึนงงแต่ฉันดูออกว่าเขาแกล้งทำเพราะมันดูไม่จริงใจเอาเสียเลย ขณะที่พูดปากของเขาก็ยังแฝงไปด้วยรอยยิ้มเช่นเดิม
"ในเมื่อได้แก้แค้นแล้วก็จบ เอาเสื้อหนูมาคืนด้วย" ฉันไม่ตอบคำถามของเขาแต่รีบทวงคืนของของพี่ชายตัวเองคืนทันที ตอนนี้อยากจะออกไปจากสถานการณ์บ้าๆนี้ให้เร็วที่สุด
เพราะคนรอบข้างมองฉันอย่างกับตัวประหลาด แถมเสื้อผ้าที่เปียกทำให้ชุดนักเรียนสีขาวมันมองทะลุไปจนเห็นเสื้อที่ใส่ทับไว้ด้านใน
"ง่ายไปมั้ง" เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาแต่ร้ายกาจค่อยๆเปลี่ยนจากยิ้มกวนเป็นนิ่งอีกครั้ง ก่อนจะหันไปสั่งพวกนักเรียนที่ยืนมุงและยัยบี๋ที่ตอนนี้ยังนั่งทำตัวไม่ถูกอยู่บนพื้น "ไปให้หมด ฉันมีเรื่องต้องเคลียกับเด็กใหม่"
คำพูดของเขาให้ความรู้สึกหลายอย่างตีกันไปหมด ทั้งน่ากลัว สับสนและน่าโมโห
"หนูไม่มีอะไรต้องเคลียกับพี่ค่ะ ขอโทษด้วยที่ทำให้เข้าใจผิด ตอนนี้แค่อยากได้เสื้อคืน" ขณะที่คนอื่นเริ่มทยอยเดินออกไปจนเกือบหมดก็เห็นดรีมกับธัญญ่ายังยืนมองอยู่ห่างๆ ถึงจะเพิ่งคบกันแต่ก็รู้สึกได้ว่าสองคนนั้นเป็นห่วงฉันน่าดูหรือเพราะสถานการณ์ของฉันมันน่าเป็นห่วงก็ไม่รู้
เพราะยัยเพื่อนสองคนนั้นยืนห่างไกลขนาดนั้น ฉันเองก็ไม่รู้ด้วยว่าไอ้พี่เธียมันเป็นคนยังไงแต่อย่างหนึ่งที่ฉันรู้ตอนนี้คือเขามีอิทธิพลพอที่จะทำให้ทุกคนยอมถอยไปจากสถานการณ์นี้ด้วยคำพูดง่ายๆไม่กี่คำ ทั้งที่เขาเป็นเพียงนักเรียนชั้นมอหก
ขนาดครูประจำชั้นด่านักเรียนพวกนี้ยังแทบจะไม่ฟัง แต่เขา...ทำได้
"หึ..." พี่เธียหัวเราะในลำคอก่อนจะเอี้ยวตัวไปหยิบเสื้อที่คุ้นตาจากด้านหลัง มันคล้ายกับตัวเมื่อวานแต่ไม่ใช่ เพราะฉันแอบจำลายบนเสื้อได้เป็นอย่างดีเนื่องจากเมื่อคืนหาความรู้เรื่องนี้เกือบทั้งคืน ด้วยราคาที่สูงลิบลิ่วเลยค้นดูจนได้เรื่องว่าเสื้อแบบนี้ถูกผลิตขึ้นไม่กี่ตัวและทุกตัวจะเป็นลายเดียวกันหมดแต่มีสองโทนสี มีลายเฉพาะตัวที่มีความหมายว่าความเงียบ ที่จริงรายละเอียดมันมากกว่านี้แต่ฉันไม่ค่อยเข้าใจเลยจำไม่ไก้เพราะอ่านดูผ่านๆ
ส่วนเสื้อตัวที่ไอ้พี่เธียถืออยู่มันมีลายสีฟ้า แต่ตัวที่ฉันหยิบของพี่เฟรมมาเป็นลายสีส้ม
"ฉันขอโทษนะที่อ้างชื่อเธอ เพราะไม่รู้ว่าจะมีชื่อนี้อยู่จริงๆ แล้วก็ไม่คิดว่ารุ่นพี่คนนั้นเขาจะบ้าบอแบบนั้น" ก่อนที่บี๋จะเดินจากไปฉันรีบหันไปบอกเธอด้วยความรู้สึกผิด ก่อนหน้านี้ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่เธียได้ทำอะไรลงไปบ้างแต่สีหน้าของบี๋ดูไม่ดีเอาเสียเลย
"อืม ไม่เป็นไรหรอก ก็เธอไม่ได้ตั้งใจนี่"เธอพูดโดยที่ไม่หันมามองฉันเลยแม้แต่น้อย ยัยนั่นคงเกลียดฉันเอามากๆ พุดไปก็คงไม่มีใครเชื่อว่ามันบังเอิญจริงๆถ้ารู้ว่าจะมีคนชื่อนี้อยู่จริงฉันคงไม่พูดมันออกไปให้ใครเดือดร้อนหรอก
"เสื้อตัวนั้นไม่ใช่ของหนู ของหนูลายตรงนั้นเป็นสีส้ม" พอคนอื่นพากันเดินหนีไปหมดแล้วฉันจึงหันมาบอกเขาอีกครั้ง นี่เขากำลังเล่นบ้าอะไรอยู่นะ
"สีส้ม?" คำถามสั้นๆนั้นเอ่ยมาจากปากของพี่เชนแล้วยังเป็นที่สนใจของรุ่นพี่อีกคนที่นั่งด้วยกันอีกด้วย
"ใช่ ของหนูสีส้ม"
"อย่าบอกนะว่าเธอ..." ไม่ทันที่พี่เชนจะพูดจบพี่เธียก็แทรกขึ้นมาเสียก่อนแถมยังหันไปมองพี่เชนด้วยสีหน้าแปลกๆจนอีกฝ่ายต้องรีบหุบปากอย่างหงอยๆ
เขามีอำนาจสั่งคนด้วยสายตาได้อีกเหรอ ทายาทมาเฟียหรือเปล่า!
"มั่วแล้วมั้ง ก็ตัวนี้ที่เธอให้ฉันเมื่อวาน"เขายังคงยืนยันว่าเสื้อตัวนั้นเป็นของฉัน นั่นทำให้ฉันเริ่มลังเล หรือว่าฉันจำผิดจริงๆ เขาคงไม่มีเหตุผลอะไรต้องโกหกหรอกมั้งเสื้อตัวนี้ถ้าเขาอยากได้ก็คงไม่ใช่เรื่องยากถ้าคิดจะซื้อมาใส่ บ้านรวยขนาดนั้น ขนาดพี่เฟรมยังเก็บเงินซื้อมันได้เลยทั้งที่ฐานะบ้านเราก็ไม่ได้รวยมาก
ฉันยืนคิดอยู่ครู่หนึ่งเพราะความสับสนถึงพยักหน้ารับแล้วยื่นมือไปขอเสื้อตัวนั้นมา แต่อะไรที่คิดว่าง่ายมันคงไม่ใช่สำหรับพี่เธีย
"สรุปเธอชื่ออะไร"
เห็นท่าทีของพี่เชนกำลังจะเอ่ยปากพูดออกมาแต่สุดท้ายก็เงียบเพราะถูกรุ่นพี่อีกคนเตะเข้าที่หน้าแข้งจนเขาต้องนิ่วหน้าแล้วมองฉันด้วยความเห็นใจ ครั้งนี้คงโกหกไม่ได้อีกแล้ว ถ้าเกิดโกหกแล้วไปทำให้ใครเดือดร้อนอีกคงแย่
"พราว" ฉันตอบแล้วขยับมือเป็นเชิงว่าฉันต้องการได้ของตัวเองคืนเต็มทน
เขากระตุกยิ้มมุมปากแล้วโยนเสื้อตัวนั้นมาใส่อกฉันอย่างไม่ใยดี ให้ดีๆไม่ได้หรือไงกันวะ พอได้ของตัวเองแล้วฉันจึงเอ่ยขอบคุณตามมารยาททั้งที่ในความเป็นจริงไม่จำเป็นต้องพูดมันเลยด้วยซ้ำแต่ไม่รู้ว่าทำไมต้องเผลอพูดมันออกไปด้วย
เขาไม่ได้ตอบอะไรเลยแม้แต่คำเดียว ทำเพียงแค่จ้องหน้านิ่งๆเหมือนรอดูว่าฉันจะทำยังไงต่อ ไม่ต้องเอ่ยลาฉันก็รีบเผ่นมาจากตรงนั้นทันทีแต่หูก็ยังไปได้ยินอะไรบางอย่าง ทว่าก็ไม่ได้มั่นใจนักว่าคนด้านหลังพูดมันออกมา
'พราว...พราวรดา'