บท
ตั้งค่า

บทที่ 14 มีเด็กผู้ชายเข้าบ้าน

ถึงแม้ในหัวของปัณณ์จะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ยังไงเขาก็เป็นเด็ก และเขาก็หายไปนานขนาดนี้แล้ว เขาคิดว่าณิชาต้องเป็นห่วงเขามากแน่ๆเลย เขาเลยสละความสงสัยพวกนั้นออกให้หมด แล้ววิ่งไปที่ประตู แล้วทุบประตูด้วยความโกรธ

วงกบประตูก็ส่งเสียงดัง และเสียงของเด็กก็ดังขึ้น

“เปิดประตู พวกคุณปล่อยผมไปเดี๋ยวนี้นะ ผมว่าแล้วว่าพวกคุณต้องไม่ใช่คนดี”

“ปีศาจ ถ้าเก่งจริงก็มาตัวต่อตัวกับผมสิ สั่งให้คนขังผมไว้ คุณเป็นผู้ชายอะไรกัน ”

“หม่ามี๊ ฮือ หนูคิดถึงจังเลย......”

ตรงข้ามประตู ตอนนี้ลุงชัยกำลังจะพูดปลอบ แต่เขาก็หยุดลง

ที่แท้คุณหนูคิดถึงแม่ของเขาอีกแล้ว ก็ว่าทำไมวันนี้อารณ์ไม่ดีมาก

แต่น่าเสียดาย ในคฤหาสน์สนธิไชย เรื่องแม่ของคุณหนูก็เป็นปริศนา

……

อพาร์ตเมนท์ชั้นห้าในชุมชนเล็กๆ

ครอบครัวหนึ่งนั่งกินข้าวด้วยกัน กับข้าวสามอย่าง เรียบๆ ง่ายๆ

อรัลมองดูกับข้าวพวกนั้น หอมๆ มันๆ เผ็ดร้อนเย้ายวน แต่เขากลับนั่งขมวดคิ้วอย่างสงบ

เขาชอบกินแบบรสชาติไม่จัดจ้าน......

“ทำไมไม่กิน?” สิดาเห็นอรัลไม่ขยับตะเกียบแล้วพูดขึ้นว่า “ไหนบอกว่าหิวไง หรือจะว่ายายทำได้ไม่อร่อย”

อรัลเม้มปาก แล้วคีบเต้าหู้หม่าล่ามาหนึ่งชิ้น

รสเผ็ดจนแผ่ไปทั่วปาก…

“เผ็ดจัง...”

เขาฝืนกลืนเต้าหู้ชิ้นนั้นลงไป แก้มของเด็กน้อยแดงมาก ณิชาเลยเทน้ำอุ่นให้อรัลหนึ่งแก้ว แล้วก็ขำเบาๆ

“นี่เผ็ดเหรอ? เมื่อก่อนหนูชอบพูดว่าที่ยายทำไม่เข้มข้นเท่าร้านอาหารจีนร้านนั้น...”

ท่าทางการดื่มน้ำของอรัลหยุดชะงัก

เด็กผู้ชายที่ชื่อปัณณ์กินเผ็ดเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ?

“เป็นเพราะวันนี้ฝีมือคนยายดีมากต่างหาก”

สิดาโดนชมเลยไม่โกรธ แล้วเธอก็คีบกับข้าวให้กับอรัล “ถ้าชอบก็กินเยอะๆ อีกหน่อยตอนที่ยายไม่เล่นไพ่ ก็จะทำให้หนูเยอะๆเลยนะ...”

อรัลทำหน้าลำบากใจแล้วรีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มและเขินอาย “ของคุณครับคุณยาย”

“หูย ทำไมวันนี้น้องปัณณ์ของพวกเราขี้เกรงใจจัง?”

อรัลยิ้มอย่างเขินอายกว่าเดิม

“พอแล้ว รีบกินข้าวเถอะ ถ้ารู้สึกว่าเผ็ดเกินไปก็ซดซุป”

“อือ”

อาหารมื้อหนึ่งท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนไม่กี่คน

อรัลพยายามจะไม่ให้ตัวเองมีพิรุธ แต่หลังจากลุกจากโต๊ะ เขาก็ดื่มน้ำเย็นชามเล็กๆ แล้วบ้วนปากทันที เพื่อไม่ให้รู้สึกไม่สบายท้อง

เขานั่งมองณิชากับสิดาเก็บจานข้าว ถึงแม้ว่าบ้านหลังนี้จะดูเล็ก เทียบไม่ได้กับห้องอาบน้ำของคฤหาสน์สนธิไชย แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น เป็นความอบอุ่นที่คฤหาสน์สนธิไชยไม่มี

คุณพ่อไม่เคยปลอบเขาแบบที่ณิชาทำเลย…

อรัลยิ่งโลภมากขึ้นกว่าเดิม

ตอนกลางคืนณิชาต้องนอนกับปัณณ์แน่ๆ

นอนซุกอยู่ใต้ผ้าห่ม อรัลเพิ่งอาบน้ำเสร็จแล้วใส่ชุดนอนของปัณณ์ ไซส์กำลังพอดี แต่ร่างกายของเขาแข็งทื่อและตรงเหมือนดินสอ เมื่อก่อนเขานอนคนเดียวตลอด รู้สึกไม่ค่อยชินเท่าไหร่ แล้วใจก็เต้นแรงมาก หวังว่าจะไม่มีพิรุธ

ณิชานวดหัวของเด็กน้อยจนเคยชิน “วันนี้อยากฟังนิทานเรื่องอะไร?”

“จะเล่านิทานเหรอ?” อรัลออกมาจากผ้าห่ม ตากลมโตของเขากะพริบไปมา

“หรือว่าคืนนี้หนูไม่อยากฟัง?”

“อยากฟังครับ” อรัลกลัวว่าเธอจะเข้าใจผิด ก็เลยรีบพูดออกมา “แค่หม่ามี๊เป็นคนเล่า ผมก็ชอบฟังหมดเลย”

หัวใจของณิชาอบอุ่น นี่เป็นลูกชายที่เป็นที่พึ่งพาอาศัยของเธอ

ชอบทำให้เขาตื้นตันเสมอ

“งั้นก็เอาเรื่องเจ้าหนูในเมืองกับเจ้าหนูบ้านนอกต่อจากเมื่อวานละกันเนอะ?”

“ดีครับ”อรัลพยักหน้าเบาๆ แล้วค่อยๆซุกไปที่อกของณิชา แก้มอมชมพู ฟังเสียงนุ่มนวลของณิชาแล้วมีความสุขเหมือนลอยอยู่ในขวดน้ำผึ้ง

ตอนที่กำลังจะนอน อรัลใช้มือเล็กๆไปดึงเสื้อของณิชา “หม่ามี๊จะออกแบบวิลล่าแบบของบ้านสนธิไชยไหม?”

ถึงแม้ว่าในอนาคตเขากลับไปบ้านสนธิไชยแล้วก็ยังจะสามารถเจอเธออีก

“น่าจะไม่แล้วแหละ” ณิชาห่มผ้าให้ลูกชายแล้วตอบเสียงนุ่มนวล

อรัลลืมความคิดที่จะนอนแล้วทำตาโต: “ทำไมครับ เขาจะให้แม่เป็นคนทำไม่ใช่เหรอ?”

ณิชาไม่อยากพูดเรื่องงานกับลูกชาย แต่อรัลก็ถามไม่หยุด เธอก็ทำได้แค่อธิบาย “เพราะแม่ทำให้พ่อของเจ้าชายน้อยขุ่นเคือง เมื่อพระราชาโกรธขึ้นมา ทุกอย่างก็ย่ำแย่…”

ดวงตาของอรัลฉายแววเศร้าโศกและความโกรธ พ่อของเขาเปลี่ยนนักออกแบบของเขาอย่างเอาแต่ใจ?

เขาไม่ยอมให้น้าณิชาต้องทนทุกข์เด็ดขาด

เช้าวันถัดมา ณิชาลุกขึ้นมาทำกับข้าวให้ทุกคนตั้งแต่เช้า

หลังจากที่ณิชาลุกออกจากเตียงอรัลก็ตื่น ตอนเขาอยู่คฤหาสน์สนธิไชยเขาก็ไม่ตื่นสาย

มือถือของณิชาที่อยู่บนหัวเตียงดังขึ้นพอดี

อรัลลุกขึ้นหยิบมือถือตั้งใจจะบอกณิชา

แต่คำพูดที่สามารถโพล่งออกมาได้กลับกลืนลงไปในลำคอทันทีที่เห็นเบอร์ผู้โทร

เบอร์นี้ เขาคุ้นเคยกับมันมากๆ...

คือลุงชัย

ทางอีกด้าน ปัณณ์นั่งอยู่ในห้องน้ำ ใช้โทรศัพท์ที่ขโมยจากลุงชัยได้มาโทรหาณิชา

ช่วยไม่ได้ เพราะเมื่อคืนเขาเก็บโทรศัพท์เด็กไว้ในกระเป๋าของณิชา

ทำได้แค่ยืมใช้โทรศัพท์ของลุงชัย

ทั้งดำทั้งโง่ แต่ดีที่ยังมีโทรศัพท์เป็นอยู่

ฟังเสียงรอสายไปหลายรอบ แต่ก็ไม่มีใครรับสาย ปัณณ์เม้มปาก

ตอนที่เขากำลังจะสิ้นหวัง โทรศัพท์...

มีคนรับโทรศัพท์ทันที

ดวงตาที่ชัดเจนของปัณณ์เป็นประกายเล็กน้อยและก็อธิบายงึมงำ “หม่ามี๊ ผมไม่ได้ตั้งใจจะไม่กลับบ้าน แต่เมื่อคืนผมถูกลักพาตัว...”

“ขอโทษด้วย ผมไม่ใช่คุณณิชา ตอนนี้เธออยู่ที่ห้องครัว ไม่สามารถมารับโทรศัพท์ของคุณได้” อรัลพูดออกมา และลองพยายามถามดู “คุณ…คือลูกของคุณณิชา ปัณณ์ใช่ไหม?”

เสียงจากปลายสายทำให้ปัณณ์งุนงง เขาลื่นล้มลงมาจากโถส้วม เขาไม่อยากจะเชื่อเลย เขามองหน้าจอโทรศัพท์อีกครั้ง

นี่เป็นเบอร์ส่วนตัวของณิชาจริงๆนี่หน่า

ใบหน้าของเขาตึงขึ้นทันที ปัณณ์ใช้มือพัดหน้าตนเอง ตาของเขาก็แดงก่ำ “คุณเป็นใคร ทำไมมาอยู่บ้านฉันได้?”

เขาไม่ได้กลับบ้านหนึ่งคืน ณิชาไม่ตามหาเขา แถมที่บ้านยังมีผู้ชายเพิ่มมาอีกหนึ่งคน

ณิชาไม่เอาเขาแล้วเหรอ?

“ฉันชื่ออรัล สนธิไชย” น้ำเสียงของอรัลหนักแน่น “แม่นายเป็นคนพาฉันกลับมา”

ปัณณ์ทั้งโกรธทั้งน้อยใจแล้วเดินไปมาในห้องน้ำ “ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ รีบออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้! ฉันไม่อนุญาตให้นายเข้าใกล้หม่ามี๊ของฉัน!”

“ยกโทษให้ฉันที่ทำตามไม่ได้”

“นาย---”

“คุณณิชาเรียกฉันไปทานข้าวเช้าแล้ว บ๊าย”

พูดประโยคสุดท้ายจบ อรัลก็ตัดสายทิ้ง

ดวงตาของปัณณ์แดงก่ำ เหมือนคนน่าสงสารที่ถูกทอดทิ้ง เขากัดปากแล้วโทรซ้ำอย่างไม่พอใจ

“ขอโทษค่ะ ไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลายทางที่ท่านเรียกได้ในขณะนี้” เสียผู้หญิงในสายพูดเตือนปัณณ์ หมายเลขนี้ถูกอรัลบล็อคแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel