บทที่ 11 ฝาแฝดสลับตัวกัน
ใต้ตึก ณิชาพาปัณณ์เดินจากไป
ปัณณ์ถอดแว่นดำออก แววตาเขาเต็มไปด้วยความโกรธ แล้วพูดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า “ผู้ชายคนนี้ใจร้ายเกินไป หม่ามี๊จะไปรู้สึกกับเขาไม่ได้เด็ดขาดนะ”
ณิชา “เดิมทีแม่ก็ไม่รู้สึกดีอะไรกับเขาอยู่แล้ว”
“ถ้าพวกหม่ามี๊อยู่ด้วยกัน เขาต้องทำไม่ดีกับผมแน่ๆ เลย เพื่อความปลอดภัยของหนู หม่ามี๊ต้องอยู่ให้ห่างๆ เขาไว้ เข้าใจไหมครับ?”ปัณณ์เปลี่ยนกลยุทธ์อีกแล้ว แล้วก็เกาะไปที่เขาเล็ก ๆ ของเธอ และเริ่มอ้อนเธอ
ณิชา “...”
อาจจะเป็นเพราะปัณณ์ไม่มีพ่อทั้งแต่เด็ก ก็เลยอ่อนไหวง่ายมาโดยตลอด
รวมถึงรำคาญผู้ชายทุกคนที่เข้าใกล้ณิชา
ไม่ว่าจะผู้ใหญ่หรือว่าเด็ก
อยู่ๆ ก็ต้องมาประจันหน้ากับฐานภพ ในใจเขาเป็นกังวล ว่าถ้าเธออยู่กับฐานภพเธอจะต้องละเลยเขาแน่ๆ
“เขามีเมียน้อยไม่มีความรับผิดชอบ ไม่เหมือนปัณณ์ที่เป็นเด็กดี ฉลาด ใจกว้าง ทำได้ทุกอย่าง ด่าจนเมียน้อยต้องหลบไปเลย ปัณณ์จะเป็นเด็กดี ต่อไปก็จะดูแลแม่เหมือนกัน ไม่เอาเขาแล้วได้ไหม?”
หัวใจของณิชาอ่อนระทวยไปหมด เธอก้มศีรษะลงและจูบที่หน้าผากของเด็กน้อย
“แม่ไม่มีทางอยู่กับเขา แม่แคร์แค่หนู พอใจไหม?”
ปัณณ์พอใจเป็นอย่างมาก รีบปล่อยวางอารมณที่ไม่ดีพวกนั้น แล้วชี้ไปที่แก้ม “หนูอนุญาตให้หอมตรงนี้”
“แม่ทาลิป เดี๋ยวกลางคืนล้างเครื่องสำอางแล้วค่อยหอมนะ?”
ปัณณ์รีบชม “หนูชอบแบบที่หม่ามี๊ไม่ทาอะไรมากกว่า ดูสดชื่นและมีเสน่ห์มาก”
ณิชามีความรู้สึกแบบที่อธิบายไม่ถูก
“ไปเรียนพูดแบบนี้มาจากไหน?”
“ในเน็ตครับ” ปัณณ์ตอบคำถามแบบเท่ๆ
ณิชา “......”
ต่อไปต้องเลิกให้ลูกชายใช้เน็ตแล้ว วันๆดูแต่อะไรก็ไม่รู้ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนโดนหยอก!
ที่สำคัญคือลูกชายอายุยังไม่ถึงสี่ขวบ แม้แต่ตัวอักษรยังจำไม่หมด
อรัลเดินตามสองแม่ลูกอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ตอนที่เห็นณิชาก้มหน้าจูบที่หน้าผากของปัณณ์ แล้วก็เห็นปัณณ์ทำท่าอ้อนขอกอดณิชาด้วย ในใจของเขาเต็มไปด้วยความอิจฉา
ถ้าสมมุติว่า เขามีหม่ามี๊เหมือนกัน...
อาจจะอ้อนแบบนี้ในอ้อมกอดของหม่ามี๊?
แต่น่าเสียดายที่คุณพ่อไม่ยอมบอกว่าแม่คือใคร และห้ามไม่ให้เขาถามด้วย
ทันใดนั้น ตอนที่เขาเหม่อลอย ณิชาที่อยู่ไม่ไกลก็หันกลับมา...
ตัวของอรัลยืนแข็งทื่อ เขาประหม่าจนรีบหลบไปซ่อนอยู่หลังเคาน์เตอร์เครื่องประดับ
ใจเต้นตึกตัก...
เขาไม่รู้เหมือนว่าว่าทำไมต้องหลบ?
อาจเป็นเพราะว่าพฤติกรรมการสะกดรอยตามและการแอบดูของเขา มันเหมือนกับขโมยที่พยายามหาการปลอบโยนจากความสุขของผู้อื่น แม้จะเล็กน้อยก็ตาม
ณิชาไปที่เคาน์เตอร์เก็บของซึ่งอยู่ตรงข้ามเพื่อรับโมเดลรถแข่งที่ฝากไว้
แต่ไม่รู้ว่าทำไม กุญแจรถเหมือนจะใช้ไม่ได้แล้ว
ณิชาไม่รู้จะทำยังไงเลยให้พนักงานช่วยจัดการให้
ปัณณ์ฟังณิชาบ่นอย่างเงียบๆ ยืนรอเธอกลับมาอยู่ตรงหน้าประตู มือทั้งสองข้างของเขาอุ้มกระเป๋าถือของณิชาเอาไว้
รอไปสักพักก็ไม่เห็นณิชาออกมา ปัณณ์อยากเข้าห้องน้ำพอดี แต่ก็กลัวว่าถ้าไปไกลอาจจะคลาดกับณิชาได้
หัวเล็กๆ สำรวจไปรอบๆ มองหาพื้นที่สีเขียวบนถนนฝั่งตรงข้าม
ต้นไม้เต็มไปหมด
ถ้าเขาไปฉี่ที่นั่นล่ะก็...
ปัณณ์กระแอมกระไอ ตัวน้อยๆทำท่าเหมือนลิง แล้วเดินผ่านฝูงชนอย่างรวดเร็ว มองย้อนกลับไปที่ประตูเป็นครั้งคราว และในที่สุด ตอนที่เขากำลังจะเข้าไปในพุ่มไม้อย่างตื่นเต้น...
เอี๊ยด
เสียงเบรคกะทันหันก็ดังขึ้น
รถบูกัตติ เวย์รอนจอดอยู่ข้าง ๆ ปัณณ์
ประตูรถเปิดออก ลุงชัยมองไปที่ปัณณ์แล้วก็ถอนหายใจยาวๆ “ขอบคุณพระเจ้ามากๆ ดีนะที่คุณหนูไม่เป็นอะไร เอกบอกว่าคุณหนูหายตัวไป ลุงตกใจมากๆ...”
ปัณณ์มองไปที่ลุงชัยและบอดี้การ์ดที่ดูแข็งแกร่งในรถอย่างระมัดระวัง “พวกคุณจะทำอะไร ?”
“พาคุณหนูกลับบ้านไงครับ” ลุงชัยรู้ว่าคุณหนูโกรธคุณผู้ชาย เขาจึงพูดอย่างอ่อนโยนว่า “คุณหนูอย่าโทษคุณพ่อเลยนะ จริงๆแล้วเขาปากแข็งแต่ใจดีนะ”
คุณพ่อ?
หรือว่าผู้ชายที่ชื่อฐานภพ?
แต่ปัณณ์ไม่เคยเจอพวกเขามาก่อน ไม่แน่อาจจะเป็นพวกจับเด็กไปขาย
เดี๋ยวนี้คนพวกนี้ขับรถหรูขนาดนี้เลยเหรอ แถมยังกล้าจับคนตอนกลางวันแบบนี้อีก?
“พวกคุณอย่าเข้ามานะ ถ้าเข้ามาผมจะตะโกนเรียกคนแล้วนะ...” ยังพูดไม่จบ ลุงชัยก็ลากปัณณ์ขึ้นรถแล้ว
ตอนที่คุณหนูโวยวาย นี่ดื้อมากๆ เลยนะ
ช่างมันเถอะ พาคนกลับไปก่อนค่อยว่ากันอีกที
รถแล่นออกไป และหายไปตรงมุม เหลือเพียงควันดำและกระเป๋าถือผู้หญิงสีอ่อนที่ตกอยู่ที่พื้น
อรัลที่ซ่อนตัวอยู่ก็เดินออกมาจากที่มืด
รถคันที่พาปัณณ์ออกไปเขารู้จัก เป็นรถของคฤหาสน์สนธิไชย
ลุงชัยน่าคิดว่าปัณณ์เป็นเขาก็เลยพากลับไปที่คฤหาสน์สนธิไชย?
อรัลมองรอบๆ อย่างระมัดระวัง แล้วก็รีบเดินไป ก่อนจะเก็บกระเป๋าที่ตกอยู่ขึ้นมา
ในรูจมูกของเขายังคงได้กลิ่นน้ำนมของปัณณ์ ผสมกับกลิ่นหอมหวานของณิชา กลิ่นหอมจางๆ ของการ์ดิเนียไม่เพียงทำให้อรัลหลงใหล แต่ยังทำให้เขาจมดิ่งไปด้วย
อรัลถือกระเป๋ากลับไปที่ห้างสรรพสินค้า เขาตั้งใจจะคืนให้กับณิชา...
“ลูกรัก หม่ามี๊ของโทษนะ เมื่อกี้เกิดเรื่องนิดหน่อย หม่ามี๊เลยมาช้า” ณิชาวิ่งกลับไปที่ประตูและดึงมือเล็กๆ ของอรัลไว้
สายตาของอรัลจมอยู่กับมือที่ถูกณิชาจูงไว้ แล้วก็มีความคิดบางอย่างขึ้น...
“ไม่เป็นไรครับ หนูก็ไม่ได้รอนานเท่าไหร่” เขาตอบกลับอย่างมีมารยาท
เสียงพูดของเขาเพิ่งจบลง แววตาของณิชาก็เปลี่ยนไป เธอขมวดคิ้วหนักมาก ดวงตาแวววาวคู่นั้นหยุดตัวเองชงัก “นี่หนู...”
อรัลรู้สึกประหม่าและเครียดมาก
หรือว่าณิชาจะรู้ตัวตนของเขาแล้ว?
ลุงชัยยังแยกเขากับปัณณ์ไม่ออกเลย แต่ณิชาแยกออก?
อรัลใจร้อนรน เหมือนกำลังประชันหน้ากับศัตรูอยู่