ตอน 4
คุณหญิงภัคจิรากดโทรศัพท์คุยกับใครบางคน สีหน้าแสดงถึงความพอใจ ส่งยิ้มบางในเชิงรู้กันกับสามีคู่ชีวิต
“ทางนั้นว่ายังไง”
“กำลังจะดำเนินการค่ะ”
“ว่าแต่ฝ่ายนั้นจะยอมเหรอเห็นข่าวหนาหูว่าไม่ค่อยชอบใจกับสาวๆนักนะ”
“แค่ข้อสงสัยความจริงยังไม่กระจ่างค่ะ”
ทั้งสองสามีภรรยาต่างกระหยิ่มในแผนการที่ได้ร่วมกับอีกฝ่ายความจริงท่านทั้งสองรู้เรื่องบุตรสาวมานานแล้ว แอบคิดไปว่าคงทำไปเพราะความสนุก คุณหญิงรับทราบเสมอถึงความชอบพอส่วนตัวของบุตรสาวเมื่อวัยเยาว์เธอชอบร้องเพลง เป็นผู้นำกิจกรรมตัวยง ตั้งแต่เรียนประถม มัธยมพอก้าวสู้นมหาวิทยาลัย ภัทราตะเวนประกวดร้องเพลง คว้ารางวัลเด่นๆมาเชยชมจนเต็มชั้นวางในบ้าน บิดาสั่งห้ามเดินทางสู้เส้นทางการเป็นนักร้องอาชีพเด็ดขาด หากทำเพื่อความสนุกได้ เพราะท่านวางอนาคตให้ภัทราทำงานในกระทรวงดังในรัฐบาล เพื่อเชิดหน้าชูตาแก่วงศ์ตระกูล
แต่เมื่อสามเดือนก่อนลูกน้องคนสนิทเข้ามารายงานกับท่านนายพลเกี่ยวกับภัทราแอบไปร้องเพลงยังไนต์คลับชื่อดังย่านสุขุมวิท คลับที่รวมบรรดาชายหื่นกาม มือไวใจเร็วท่านตามไปเห็นดังนั้นจริงกับตา หากแต่ไม่ได้ห้ามปรามคอยดูพฤติกรรมบุตรสาวอยู่ห่างๆหากไม่หยุดทำแบบนี้ ท่านจำต้องใช้มาตรการจับแต่งงานกับใครสักคนได้หมายตา แต่เมื่อรู้ความจริงเกี่ยวกับคู่ควงของบุตรสาว จึงให้ลูกน้องสืบประวัติเบื้องต้นไม่ต้องลึกมาก ได้รู้ว่าคือลูกชายเจ้าของบริษัท แพรทอง กิจการส่งออกผ้าไหมเลื่องชื่อ ที่ใครๆต่างรู้จักกันดีฝ่ายชายอายุสามสิบพอดิบพอดีในปีนี้
ส่วนภัทราปีนี้ยี่สิบหกแล้ว หลังจากเรียนจบปริญญาโทจากชิคาโก เตร็ดเตร่ไม่ยอมทำงาน บ่ายเบี่ยงอยู่เรื่อยร่วมปี คราวนี้จับให้มั่นคั้นให้ตายจะได้ไม่ออกไปซ่าเที่ยวร้องกินรำกิน หนำซ้ำยังไปนั่งอ่อยเหยื่อผู้ชายหื่นกามในไนต์คลับอีกด้วย ถึงรู้จักบุตรสาวพันธ์แสบมักเอาตัวรอดได้ ทว่าความสวยสะคราญหาใครเปรียบ ขืนปล่อยไว้อาจเกิดปัญหาสักวัน
ร่างอรชรเดินเข้าไปหามารดาตีสีหน้าเศร้าสร้อย
“มีอะไรกับแม่หรือคุณภัทรา”
“มีสิคะคุณแม่ตกลงจะให้ภัทราแต่งงานกับพี่ฐาจริงๆหรือคะ”
“อ้าว...นั่นแฟนเรานะไม่อยากแต่งรึ พ่อแม่อุตส่าห์ไฟเขียวไม่กีดกัด” คุณหญิงภัคจิราเชิดหน้าไม่แยแสต่อสีหน้าเศร้าหมองของบุตรสาวเกรงใจอ่อนเดี๋ยวแผนการอาจเสียได้
“คือพี่ฐาก็ดีนะคะแต่ภัทรายังไม่พร้อมถึงขั้นแต่งงานค่ะ” มีอะไรบางอย่างจากฐากูรรู้สึกยังไม่สมดุลเคมีดีพอ จึงต้องการเวลาสักนิดเพื่อศึกษาผู้ชายคนนี้ก่อนตัดสินใจแต่งงานเป็นคู่ผัวตัวเมียกัน
“แม่อยากอุ้มหลาน”
“ถ้าพ่อกับแม่โกรธภัทราที่ภัทราแอบไปร้องเพลงไนต์คลับของนายเบญ ลงโทษภัทราวิธีอื่นสิคะภัทรายอมทุกอย่างจะให้ไปทำงานที่กระทรวงย่อมได้”
ท่าทีสาวแสบแสนซนอ่อนข้อลงมาก หากต้องโดนข่มให้แต่งงาน นั่นหมายถึงอิสรภาพทางความคิด การใช้ชีวิต ทุกสิ่งทุกอย่างไม่อาจย้อนกลับได้ จึงตั้งคำถามกับตัวเองรู้สึกอย่างไรกันแน่กับฐากูร ชอบ ปลื้ม รักหรือยังไง ที่แน่ๆ ความรู้สึกระหว่างเธอกับฐากูรยังไม่ได้ก้าวไกลเรียกว่ารัก
“พรุ่งนี้เตรียมตัวต้อนรับผู้ใหญ่ฝ่ายตาฐาแม่พูดได้แค่นี้”
“แม่กับพ่อใจร้ายไม่รักลูกสาวตัวน้อยๆคนนี้แล้วใช่มั้ย”
“เพราะรักถึงได้ทำอย่างนี้ไงล่ะแม่ตัวดี”
“รักแล้วต้องส่งลูกสาวไปอยู่กับคนอื่นด้วยหรือ” แม่สาวร้อยเล่ห์เริ่มตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ
“ให้คนอื่นดูแลไงพ่อแม่ดูแลไม่ไหวแล้ว”
“แม่ใจร้ายที่สุด”
“งั้นสิ”
มารดายอมรับโดยดุษฎีเมื่อโดนต่อว่าจากบุตรสาวหัวแก้วหัวเพชร ภัทราสิ้นฤทธิ์เดชด้วยประกาศิตจากท่านนายพลนายพลฝึกให้ลูกสาวเพียงคนเดียวเข้มแข็งมั่นคงเด็ดเดี่ยวไม่ผิดคำพูด แต่เอาเข้าจริงภัทราทั้งกะล่อนแสบซน ออกนอกกรอบของท่านนายพลตลอดยกเว้น ความใจเด็ด เข้มแข็ง ภัทราสอบผ่าน
ที่คฤหาสน์เจ้าสัวฐิติศักดิ์ ชลันทร เสียงรถยนต์ของฐากูรแล่นเข้ามาในบริเวณคฤหาสน์กว้างใหญ่ ทว่าคนขับกลับอารมณ์ไม่บรรเจิดเลยสักนิด เขาจอดรถเงียบสงบอยู่หน้าตึกนั่งเงียบอยู่ภายในรถ คุณรมณีร้อนใจรอท่าบุตรชายสุดสวาทไม่ไหวรีบก้าวมายืนอยู่ข้างรถ ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มเมื่อได้รับข่าวดีจากท่านนายพลรหัต
“อาฐาของม้า” แค่เห็นบุตรชายก้าวพ้นประตูรถ คุณรมณีรีบลนลานเข้าไปคว้าตัวฐากูรเข้าไปสวมกอด แววตาคุณรมณีระรื่น ฉาบทาไปด้วยความปรีเปรมยกมือลูบหน้าลูบตาหล่อเหลาของบุตรชายไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองฐานกูรจะลุกขึ้นมาแต่งงาน
“อะไรครับม้า”
“ม้าดีใจไหนมานี่ซิเล่าให้ม้าฟังหน่อยเกิดไรขึ้น”
“อะไรครับ”
“อ้าว...เรื่องหนูภัทราไง”
“ผมไม่เข้าใจเหมือนกันครับ ทำไมท่านนายพลถึงเร่งเร้าให้ผมไปขอภัทรานัก”
“ว่าแต่เรา เอ่อ...เราไปทำให้หนูภัทราป่องหลานม้าหรือเปล่าล่ะ”
ถึงจะป่องก่อนแต่งถือว่าลูกชายมีน้ำยาสามารถทำให้ผู้หญิงท้องได้ ปลื้มค่ะคุณรมณีถามตรงเกินไป อย่างฐากูร สุภาพบุรุษสุดจะสุภาพ นี่หรือจะทำให้ผู้หญิงป่อกลางได้ แตะผู้หญิงให้เสียขวัญเสียใจเขายังไม่เคย
เมื่อสามเดือนก่อนบุตรชายพาหญิงสาวหน้าตางดงามดั่งนางฟ้านางสวรรค์ ทรวดทรงองค์เอวอรชรอ้อนแอ้น นัยน์ตาพราวพร่างสดใส ดุจน้ำค้างกลางหาวมองทีไรให้รู้สึกสดชื่นรื่นสราญ แรกๆนึกว่าบุตรชายแค่พาเพื่อนมาเที่ยวที่บ้าน หากเมื่อแนะนำฐานะต่อบิดาและมารดา “ภัทราคือแฟน” คุณรมณีถึงกับอดกลั้นความดีอกดีใจไว้ไม่ไหว
แสดงอาการเห่อคนรักของบุตรชายแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ปีนี้ฐากูรอายุสามสิบ ตามจริงบุตรชายเพียงคนเดียว ของเจ้าสัวฐิติศักดิ์ ควรจะออกเหย้าออกเรือนได้เสียที ยิ่งข่าวไม่ค่อยดีหนาหูคุณรมณี ต้องการให้บุตรชายมีแฟนเป็นผู้หญิงให้เร็ววันเพื่อลบคำครหาของชาวสมาคมแม่บ้านที่ชอบแส่เรื่องชาวบ้าน ฐากูรห่างจากน้องสาวคนเล็กถึงสิบปีคุณรมณี มีลูกยากเพราะไข่ฝ่อเมื่อมีฐากูรแล้วกว่าสิบปีท่านจึงท้องอีกฉะนั้นฐากูร จึงคือความหวังสูงสุดแห่งตระกูล
“ม้าผมยังไม่อยากแต่ง”
“ไม่รักอาหนูภัทรารึ”
“ไม่เชิง”
“ถ้าอย่างนั้นอยู่กันไปเดี๋ยวก็รักเองล่ะ”
หากลงเอยอย่างมารดาว่าคงดีไม่น้อย จิตใจเขาสิไม่อาจเปลี่ยนความคิดและค่าความนิยมในตัวเองที่เดินผิดทาง เพราะสังคมแวดล้อมได้ แม้ได้ตัดสินใจจีบภัทราในรอบสิบห้าปีเขาไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อน เมื่อความกดดันจากครอบครัวต้องการให้เขาหาผู้หญิงแต่งงานสักคน เขาจึงเฟ้นหาและเลือกสรรอย่างดี เพื่อผู้หญิงคนนั้นจะได้เหมาะกับการแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้ตระกูลชลันทรซึ่งมีกิจการมากมายรอให้เขาสานต่อ ทั้งครอบครัวต้องการให้เขาสืบทายาท มีลูกมีหลานเยอะแยะมากมายเพื่อช่วยเหลือแบ่งเบากิจการอันมากมายจนบริหารไม่ไหว