บท
ตั้งค่า

บทที่1.1 อบเชย

ดีแลนพาอบเชยเดินลัดเลาะผ่านนักเที่ยวกลางคืน ที่กำลังสนุกกับเสียงเพลงที่มีสาวสวยเต้นนำ ระหว่างที่เขาและเธอเดินฝ่ากลุ่มคนออกมาด้านนอก มีสายตาของนักเที่ยวหลายคนที่เป็นเพศชายมองตาม คนหน้าดุที่เดินนำต้องถลึงตาใส่ เมื่อดีแลนรู้ดี ไอ้พวกเวรนั่น กำลังมองอะไรอยู่ ชายหนุ่มเกือบสติแตก ดีทว่า... เดินออกมาพ้นสถานที่แห่งนั้นเสียก่อน

สูทสีน้ำเงินเข้มผ้าไหมอย่างดีถูกโยนใส่หน้าอบเชย ตามด้วยคำสั่งแสนกระด้าง ที่อบเชยจำใจต้องทำตาม

“ใส่ซะ หากเธอไม่อยากถูกข่มขืน”

อบเชยแย้งในใจ เธออยู่กับดีแลนสองคน ใครล่ะจะมาข่มขืนเธอ เพราะคนตรงหน้าคงไม่ทำแน่ๆ เขาเกลียดเธอ...ข้อนี้อบเชยจำขึ้นใจ แต่...ใครจะกล้าฝืนความต้องการของเขาได้ล่ะ ดีแลนเป็นบุตรชายของผู้มีพระคุณของเธอ มารดาของเขาเป็นอดีตนายจ้างของแม่ ความเมตตาที่คนบ้านหวังมอบให้ อบเชยหรือจะกล้าเนรคุณ มือสั่นระริกหยิบสูทผ้าเนื้อเนียนขึ้นมาสวมคลุมกายช้าๆ ยืนก้มหน้าน้ำตาคลอเบ้า รู้สึกสังเวชตัวเอง แม้คนตรงหน้าจะไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย

ดีแลนข่มใจให้สงบ เขาใช้เวลามากกว่าสิบนาที ชายหนุ่มล้วงบุหรี่ออกมาจากซอกกระเป๋า และนี่เป็นครั้งแรกที่อบเชยได้เห็น คนตรงหน้าสูบบุหรี่

หญิงสาวชำเรืองมอง ผู้ชายตรงหน้าที่มีท่าทีเงียบขรึม เขาพ่นควันบุหรี่ให้ลอยไปในอากาศ ท่าทางพลุ่งพล่านเมื่อสักครู่ใหญ่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

แต่...เธอกับใจสั่น เพราะท่าทางสุดเซ็กซี่ของเขาอีกนั่นแหละ

อบเชยอยากยกมือตบศีรษะตนเองแรงๆ เธอหลงใหล และแอบชอบดีแลนมาตั้งแต่ตนเองเริ่มเป็นสาว เขาเป็นผู้ชายในฝันของใครๆ หลายคน และใครๆ เหล่านั้น มีเธอรวมอยู่ด้วย แต่ก็ได้แค่ฝัน...เพราะดีแลนไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็นทายาทหวัง ตระกูลดังที่ร่ำรวยจนเปรียบไม่ได้ เมื่อเทียบกับตนเอง เห้อ!! แม้จะบ้านเธอกับคนตรงหน้าจะอยู่ใกล้กัน ในขณะที่บ้านของดีแลนไม่ต่างอะไรกับปราสาท...บ้านของเธอก็คงคล้ายๆ เล้าหมู ที่ดินของเธอยังได้รับความกรุณาของคนตระกูลนั้น เธอกับแม่ ได้รับความอนุเคราะห์จากคนตระกูลหวัง ให้ปลูกสร้างและอาศัยอยู่ได้ แต่ต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้พวกเขาด้วย

ยามค่ำคืน เด็กสาวทำได้แค่เงยหน้ามองพระจันทร์ และฝันลมๆ แร้งๆ ตามประสาสาวช่างเพ้อ

ฝันว่าวันหนึ่ง เจ้าชายบนปราสาทหลังนั้น จะทอดสายตามาที่ตนเองบ้าง และมันก็เป็นแค่ความฝัน

เพราะยิ่งนานวัน...ระยะห่างของเธอกับดีแลน ก็ยิ่งห่างกันไปทุกทีๆ

เธอได้แต่แอบมอง ได้เห็นเขาเพียงผ่านๆ กำแพงสูงชันนั่นไม่ใช่อุปสรรคหรอก แต่ความจริงต่างหากล่ะ ที่ทำให้เธอต้องเจียมตน เขาคือเจ้าชาย และเธอคือเศษฝุ่นที่ปลิวอยู่รอบกายเขา สัมผัสได้ แต่เป็นเจ้าของไม่ได้

“อะไรดลใจให้เธอมาทำงานที่นี่หะ ยัยเชย!”

เสียงแหบห้าวของดีแลนดึงเธอออกมาจากความคิดวกวน

อบเชยเงยหน้ามอง เธอกะพริบเปลือกตาปริบๆ จ้องมองดีแลนเหมือนกำลังละเมอ

มือแข็งแรงเอื้อมมาจับบ่า และหากอบเชยมีสติ เธอจะเห็นว่า...ดีแลนสะดุ้ง! เขาชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะแผดเสียงดังลั่น

“ฉันถามไม่ได้ยินหรือไงยัยเด็กบ้า!!”

“เชยได้ยินแล้วค่ะ พูดเบาๆ ก็ได้ คุณดีตะโกนจนเชยหูจะแตก” หญิงสาวบ่นอุบ ก้มหน้าหลบตาเขาเหมือนเดิม เมื่อสายตาของดีแลนเหมือนมีเปลวไฟแลบออกมา และไฟนั่นแทบจะเผาเธอจนมอดไหม้

ดีแลนปล่อยมือ เขาชำเรืองมองอบเชย และยังยืนหันข้างให้เธอเสียด้วย เสียงถอนลมหายใจแรงๆ ดังจนอบเชยแอบย่นจมูกใส่

“ตอบฉันมาสิยัยเชย”

อบเชยอยากยกมือปิดหู เธอไม่อยากได้ยินคำนี้ มีดีแลนคนเดียวนั่นแหละ ที่เรียกชื่อเธอด้วยคำที่อบเชยไม่อยากได้ยิน ‘เชย’ ใช่สิ เธอไม่ได้สวยมีเสน่ห์เหมือนผู้หญิงที่อยู่รอบตัวเขานี่ แต่เธอก็ไม่ได้เฉิ่มเชยจนน่ารังเกียจเหมือนกัน และนั่น อบเชยได้แต่แย้งในใจ เธอไม่กล้าพูดออกมาหรอก เธอกลัวคนตรงหน้าโมโหมากกว่าเดิม เพราะไม่ว่าเธอจะทำอะไร ดูเหมือนดีแลนจะไม่พอใจไปหมด...แค่เธอขยับเขาก็โมโหจนหนวดกระตุก หญิงสาวถอนใจแรงๆ ก่อนตอบ

“เชยมาหาตัง’ เรียนต่อค่ะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel