ช้าวหอมสื่อใจ1
พี่ชายที่แสนดีพาน้องสาวจอมเถียงแวะซื้ออุปกรณ์ในการเลี้ยงสุนัข ก่อนกลับบ้านจึงแวะซื้อวัตถุดิบทำอาหารมื้อเย็นนี้
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ปานตะวันรู้สึกว่ามันผ่านไปเร็วมาก เธอไม่มีเวลาแม้แต่จะคิดถึงความเศร้าที่ต้องอยู่คนเดียว เขาทำให้เธอยิ้ม เธอหัวเราะ เขาดูอบอุ่น สามารถช่วยเหลือในหลายๆเรื่องได้ ปานตะวันรู้สึกปลอดภัยเมื่อมีพี่ชายคนนี้อยู่ใกล้ๆ แต่...นี่คือวันแรกที่เขาและเธอได้เจอกันหลังจากที่ไม่ได้พบกันเกือบแปดปี
วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ปานตะวันต้องผ่านมันไปให้ได้ เพื่อรอวันที่พ่อกลับมา ดูแลตัวเองและเป็นผู้ใหญ่อย่างที่พ่อต้องการให้ได้
ภาพลูกสุนัขที่กำลังแย่งกันกินอาหารเพื่อเอาตัวรอด ภาพหลวงตาที่เลี้ยงดูบรรดาสัตว์ในวัด ทำให้เธอหันมองกลับมาย้อนดูตัวเอง วันนี้เธอมีทุกอย่างรอบตัวที่เพียบพร้อม ขาดก็แต่พ่อที่ต้องไปอยู่ไกลจากเธอ ความเข้มแข็งเริ่มก่อตัวขึ้นในหัวใจของคนอ่อนแอทีละนิดๆ มันเป็นเพราะเขาใช่ไหมเธอถึงดูมีความสุขในวันนี้ ปานตะวันถามตัวเอง
ตอนที่3
ข้าวหอมสื่อใจ
“ เราจะเริ่มจากเมนูอะไรกันดีวันนี้ ” พี่ชายจอมโปรยเสน่ห์ เริ่มต้นมองวัตถุดิบที่ซื้อมาวางเกลื่อนกลาดบนโต๊ะกลางห้องครัวที่ถูกออกแบบมาสำหรับทำอาหารได้ทั้งไทยและฝรั่ง
“ น้ำพริกกะปิ ชะอมทอด ต้มจืดเต้าหู้หมูสับ อะไรอีกดีนะ... ช่วยน้องคิดหน่อย ” ปานตะวันขอความคิดเห็นผู้ช่วยมือใหม่
“ น้อยนะ พี่ตัวใหญ่ แต่คิดไม่ออกเลยว่าจะกินอะไรดี ” กานต์ยืนเท้าเอวทำหน้าทำตาจนปานตะวันอดคิดไม่ได้ว่า ผู้ชายที่เขารู้จักตั้งแต่เด็กๆตอนนี้ยังเป็นผู้ชายจริงอยู่ไหม
“ถ้าอย่างนั้น...ตะวันว่า ต้องจับเจ้าข้าวหอม ทำผัดกระเพราแล้วมั้งคะ” ปานตะวันลอยหน้าลอยตาตอบเลียนแบบคนข้างๆที่ยืนจ้องเธอด้วยตาหวานเยิ้ม
“ใจร้าย...สวยแต่ใจร้าย จับตีก้นเลยดีไหม” ไม่ใช่แค่พูดแต่กานต์ขยับตัวเองเข้ามาใกล้ จนปานตะวันต้องเขยิบตัวเองหนี เพราะเริ่มรู้สึกกลัวพี่ชายคนนี้เสียแล้ว
หยอกล้อกันไปทำกับข้าวกันไป ไม่นานกับข้าวก็ถูกจัดวางบนโต๊ะอย่างสวยงาม ทั้งพ่อครัวและแม่ครัวตัวเหม็นไปด้วยกลิ่นกับข้าวพอๆกัน มองสารรูปของกันและกันต่างก็อมยิ้ม
“สวัสดีค่ะคุณอา กับข้าวเพิ่งเสร็จพอดี กำลังร้อนๆเลยค่ะ” ชนินทร์มาถึงพอดีกับเวลาที่กับข้าวถูกจัดวางไว้พร้อมท่า
“ฝีมือใครนี่ เจ้ากานต์หรือหนูตะวัน...” ชนินทร์ส่งสายตาอ่อนโยนให้กับหลานสาวคนสวย ที่สีหน้าและแววตาบอกถึงความภูมิใจที่เป็นผู้สรรค์สร้างอาหารบนโต๊ะไม้สักขนาดใหญ่ ที่ถูกตั้งไว้กลางห้องอาหาร
บ้านหลังนี้มีขนาดใหญ่ไปจริงๆ สำหรับการที่ปานตะวันต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียว แต่ชนินทร์ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะพิมานตัดสินใจไปแล้ว เขาทำได้เพียงดูแลปานตะวัน ช่วยอบรมให้เธอโตขึ้นและดูแลตัวเองให้ได้
“เจ้ากานต์ช่วยอะไรน้องเขาบ้างไหม หรือคอยพูดกวนน้องเขาอย่างเดียว” ท่าทางขี้เล่นของลูกชายทำให้ผู้เป็นพ่อ ไม่ค่อยจะเชื่อใจเท่าไหร่