บทที่1.วิวาห์พาฝัน 4/4
บุษบันถอนใจ เธอเดินเลี่ยงหลบ เมื่อมองเห็นคุณรินลดาโบกมือเรียกอีกครั้ง ถาดใส่เครื่องดื่มของเธอพร่องลงไปเยอะ...เมื่อแต่ละคนที่มาร่วมงาน ต่างร่วมเฉลิมฉลองกันแบบไม่อั้น เมื่อเจ้าของงานใจป้ำเปย์ไม่ยั้งเหมือนกัน
“เดี๋ยว” เสียงห้าวร้องเรียกเธอ บุษบันหันไปยิ้มให้ เธอยื่นถาดไปตรงหน้าเขา ก่อนจะสะดุดลมหายใจตัวเอง เพราะดวงตาคู่คมนั่น ตรึงเธอจนกลายเป็นหุ่นยนต์ไปชั่วขณะ
ตั้งแต่เกิดจนโตเป็นสาว บุษบันไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนที่มีดวงตาดูลึกลับและแปลความหมายไม่ออก เหมือนคนตรงหน้าสักนิด
ผู้ชายตัวใหญ่ ไหล่กว้าง ตัวสูงเหมือนนักกีฬา เขาสวมสูทผ่าหน้าแบบไร้กระดุม ใต้เสื้อสูทมีเสื้อยืดแนบเนื้อสีขาว เผยให้เห็นลอนกล้ามพอๆ กับนายแบบดังบางคนที่ถ่ายรูปแนวเซ็กซี่ ปลายคางของชายหนุ่มมีไรเคราจางๆ จมูกของเขาโด่งคม รับกับดวงตาคมกริบ เธอกลืนน้ำลายฝืดๆ รีบดึงสติของตนเองกลับมา กะพริบเปลือกตาปริบๆ เมื่อเขากลับยืนเฉย ไม่ได้หยิบเครื่องดื่มในถาดที่มีไว้บริการ
“เออ...”
“เธอต้องการอะไรบุษบัน ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่?”
คำถามของเขาทำให้บุษบันตกใจ เธอผงะถอยหลัง แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น เมื่อช้อนสายขึ้นมองเขาตรงๆ
“แล้วทำไมบุษจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ล่ะคะ?” เธอย้อนถามเขา หากเขารู้จักเธอ แล้วทำไมเขาถึงถามเธอแบบนั้น
นรสิงห์หรี่เปลือกตาลง เขาประเมินผู้หญิงตรงหน้าต่ำไป หล่อนดูไม่ยี่หระ แม้จะยืนอยู่ในงานสำคัญของ ‘แฟนเก่า’
“ถ้าเธอไม่ก่อปัญหาก็แล้วไปเถอะ!! เธอจะอยู่ที่ไหนก็สิทธิ์ของเธอบุษบัน แต่...หากความวุ่นวายนั้น สาเหตุมาจากเธอละก็...เธอกับฉันคงได้เจอกันอีกแน่” ชายหนุ่มเปรยเสียงเย็น เขาปรายตามองหญิงสาวด้วยแววตาเย็นเฉียบ
หญิงสาวไหวไหล่ให้กับคำขู่ที่แสนน่ารังเกียจนั่น เขาคิดว่าเธอจะทำอะไรเหรอ...ถึงเธอจะถูกทิ้ง!! แต่บุษบันก็ไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น เธอปลงได้กับความจอมปลอมที่นักรบโยนใส่ บางครั้งเธอยังนึกเวทนาภารตีด้วยซ้ำ ผู้ชายคนนั้นจะเสแสร้งและปลอกลอกหล่อนไปอีกเท่าใด กับการจมไม่ลงของเขาเอง
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว...บุษขอตัวนะคะ”
หญิงสาวค้อมตัวลง เธอเดินจากไป พร้อมกับความระแวง เมื่อนรสิงห์ไม่คิดว่า บุษบันจะมาอย่างมิตร
“บุษรู้จักคุณสิงห์ด้วยหรือจ้ะ?” รินลดาส่งยิ้มให้ชายหนุ่มด้านหลังลูกน้องสาวสวย เธอถามหญิงสาวตรงหน้าเพราะอยากรู้จริงๆ
“ใครคะ? อ้อ...ผู้ชายคนนั้น... บุษไม่รู้จักหรอกค่ะ เพิ่งจะเคยเห็นหน้าเธอก็วันนี้เอง”
หญิงสาวส่งต่อถาดเครื่องดื่มให้กับพนักงานที่รับช่วงต่อ เธอตอบแก้ความกังขาของนายจ้าง
“เห็นคุยกันตั้งนาน คุณรินก็คิดว่าบุษรู้จักเธอเสียอีก”
เจ้าของรีสอร์ตเปรยลอยๆ “บุษอีกทีนะ คืนนี้คุณรินมีงานด่วน ต้องบินไปกรุงเทพฯ ดังนั้น อยากให้บุษช่วยประสานงานแทนคุณรินที”
สาวใหญ่กล่าวเซ็งๆ แทนที่จะได้อยู่ดูบรรยากาศยามค่ำ ของงานวิวาห์สุดหรู เธอกลับมีงานต้องบินด่วนเสียอย่างนั้นเอง
“จะดีเหรอคะคุณริน” หญิงสาวยิ้มแหยๆ เธอพยายามที่สุดที่จะอยู่ให้ห่างงานนี้ แต่ทำไมโชคชะตาเล่นตลกเสียเหลือเกิน ยิ่งวิ่งหนี กลับยิ่งขยับเข้าไปพัวพัน
“คุณรินไว้ใจบุษนะ เอาน่า... นึกว่าเป็นการทดลองคุมงานครั้งแรกของบุษด้วย” รินลดายิ้มให้กำลังใจ เธอไม่รู้ว่าบุษบันมีความหลังกับคนเหล่านั้น
“ชุดที่จะใส่อยู่ในห้องคุณรินนะ ไซส์บุษกับคุณรินน่าจะใกล้เคียงกัน คุณรินอนุญาต... อย่าให้เสียชื่อล่ะ”
นายสาวกล่าวให้กำลังใจ ก่อนจะเดินไปอีกทาง เธอหมุนตัวมาโบกมือให้บุษบัน...
“เห้อ...” เสียงถอนหายใจแรงๆ หลังนายจ้างสาว กระโดดขึ้นรถยนต์ส่วนตัวเพื่อจะไปยังสนามบิน
ชุดเดรสสีโอรสถูกวางไว้บนที่นอน บุษบันถอนใจเฮือกใหญ่ๆ เธอไม่อยากทำหน้าที่นี้เลย เพราะมันเสี่ยงมากที่จะต้องเผชิญหน้ากับนักรบและภารตีตรงๆ สำหรับตัวนักรบเอง ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาจบลงตั้งแต่วันนั้น ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนความต้องการของเขาได้