บทที่1.วิวาห์พาฝัน 1/4
บทที่1.วิวาห์พาฝัน
รีสอร์ตรินลดา...ภูเก็ต
ซุ้มดอกไม้สีอ่อนถูกจัดเตรียมไว้ที่ชายหาด ด้านหน้ารีสอร์ตรินลดา เป็นความต้องการของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ บุษบันจึงถูกเกณฑ์มาเป็นลูกมือ ช่วยช่างฝีมืออีกแรงหนึ่ง เธอเอียงคอมองซุ้มดอกไม้ที่จัดสำเร็จ ด้วยดวงตาพริบพราว นี่เป็นความฝันอย่างหนึ่งของผู้หญิงอย่างเธอเช่นกัน ได้เดินรอดใต้ซุ้มดอกไม้แสนสวยกับคนรู้ใจ มีเพื่อนฝูงมาร่วมแสดงความยินดีในงานวิวาห์
“เจ้าสาวโชคดีมากเลยนะคะ ดูสิ!! สิ่งเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้เจ้าบ่าวยังใส่ใจแล้วก็เนรมิตให้” บุษบันชวนคุย หลังจากซุ้มเสร็จลงทันเวลา
คนจัดซุ้ม หันมามองพร้อมกับยิ้ม “เปล่าค่ะ นี่เจ้าสาวขอมาเอง...” หล่อนตอบ บุษบันจึงยิ้มเก้อ
“เจ้าบ่าวน่ะ...แค่แต่งหล่อก็พอมั้งคะ ดูเหมือนว่าคนที่ต้องการแต่งจะเป็นฝ่ายหญิงมากกว่า” เหมือนติดพันคนงานจัดซุ้มจึงยังเปรยต่อ บุษบันจึงได้แต่รับฟัง เวลานี้เธอยังไม่แข็งแรงพอ...เมื่อหัวใจของเธอกำลังกลัดหนอง ดังนั้นงานวิวาห์นี่จึงทำให้หญิงสาวยอกแสยงใจไม่น้อย
“ค่ะ” เธอรับคำแกนๆ ก้มลงเก็บเศษใบไม้บนพื้น พยายามไม่คิดถึงอดีตที่ทำให้เธอต้องระเห็จมาอยู่ที่นี่
“อย่างว่าแหละค่ะ คนรวยเขาก็ต้องคนรวยด้วยกัน คู่นี้เป็นคู่ที่เหมาะกันมากหากมองแค่เปลือก แต่ถ้าเจาะลึกตามข่าวเม้าท์ งานนี้ฝ่ายเจ้าสาวเสียเปรียบทุกประตูค่ะ ข้างว่าที่สามี มีแค่เปลือกหุ้ม” ไหนๆ ก็ได้เม้าท์ หล่อนเลยขยายต่ออย่างเมามัน
บุษบันฉุกใจ เรื่องราวที่กำลังถูกพาดพิงถึง มันคุ้นๆ หูพิกล เธอกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เธอภาวนาขออย่าให้เป็นอย่างที่นึกระแวง!!
แต่ดูเหมือนทุกอย่างรอบตัวจะไม่เป็นใจเท่าไหร่...เงาปีศาจนั่นตามมาหลอกหลอนเธอจนได้
“เขาเม้าท์กันให้แซ่ดว่า...บ้านไชยยะนันน่ะ เหลือแค่เปลือกเท่านั้นแหละค่ะ”
ลมหายใจของบุษบันสะดุดกึก เธอเงยหน้าขึ้นมองคนพูดตาโตๆ
“คู่แต่งงานวันนี้ คือคุณนักรบกับคุณภารตีหรือคะ?”
เสียงแหบแห้งเอ่ยถามทันทีหลังคนเล่าพูดจบ คนเล่ายิ้มแฉ่ง รีบพยักหน้าเร็วๆ ตอบ “ค่ะ นักรบ ไชยยะนัน หนุ่มไฮโซดีกรีว่าที่ดอกเตอร์ แต่...เขาเม้าท์กันนะคะ ครอบครัวนั้นกำลังล้ม เลยต้องรีบหาคนไปช่วยพยุง ก่อนที่ฟองสบู่จะแตก ความลับจะรั่ว”
ขาเม้าท์ๆ กระจาย หล่อนพูดอย่างออกรส เหมือนนั่งอยู่ใต้เตียงคนบ้านนั้น จนรู้ความลับในครอบครัวนั้นแบบละเอียดยิบ
บุษบันไม่รู้หรอกว่า ฐานการเงินของไชยยะนันเป็นอย่างไร ที่เธอ ‘รัก’ นักรบ และบูชาเขานั้น มันเกิดมาตั้งแต่แรกเป็นสาว เป็นการบูชาผู้ชายแสนดีโปรไฟล์หรูอลังการ แต่ก็ไม่เคยคิดจะเสนอหน้าให้เขารับรู้ เทพบุตรที่เธอฝันถึงต่างหากเล่า ที่โน้มกิ่งลงมาเกี้ยวพาราสีเธอเอง ก่อนเขาจะชิ่งหนีไป... เมื่อเขาพบคนที่ดีและเหมาะสมกับเขาที่สุด ทอดทิ้งคนจงรักภักดีไว้ด้านหลัง
“คนตระกูลนั้นน่ะ ใช้เงินมือเติบใครๆ ก็รู้...ตั้งแต่รุ่นพ่อ แม่ แล้วคนเป็นลูกจะจมลงได้ยังไง”
ข้อนี้เธอเห็นด้วย นักรบทำตัวฟุ้งเฟ้อ เขามักจะบ่นให้เธอฟังบ่อยๆ หากเจอใครก็ตามที่มาเหนือชั้นกว่า ชายหนุ่มจะไปขวนขวายหาสิ่งๆ นั่นมา และก็ย่อมเหนือกว่าคู่แข่งเช่นกัน เธอได้แต่มองห่างๆ เมื่อมันเป็นการใช้จ่ายแบบไร้สาระ ข้าวของเหล่านั้นจะถูกทิ้ง หลังหมดความสำคัญ
“ไม่ต้องเดาเลย ก้นหม้อข้าวไม่ทันดำแน่...อีกไม่นานก็คงต้องแยกย้าย...” หล่อนทำตัวเป็นหมอดู เดาอนาคตคู่แต่งงานนั่นเสียอีก
หญิงสาวผ่อนลมหายใจ ‘เขา’ จะเป็นอย่างไรก็ช่างเถอะ เมื่อเวลานี้บุษบันพยายามตัดผู้ชายคนนั้นออกไปจากใจ เมื่อเขาเผยธาตุแท้ให้เธอเห็นในวันที่บอกเลิกกับเธอ
‘บุษ...เราเลิกกันเถอะ’
เป็นการบอกเลิกแบบไม่ทันให้เธอตั้งตัว เมื่อมันไม่เคยมีวี่แวว แถมความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับนับรบก็ไม่ใคร่ชัดเจนเท่าใดนัก
‘คะ’ เธอกะพริบเปลือกตาปริบๆ ตอนที่เงยหน้ามองเขาชัดๆ มือที่กำลังปอกเปลือกกระเทียมสั่นระริก