2 รู้แค่ชื่อ
ชายหนุ่มเดินไปเข้าห้องน้ำก่อนจะกลับไปยังที่นั่งของตนเองอีกครั้ง
“หายไปนานนึกว่าหนีกลับไปแล้ว”
“กูจะกลับได้ไงมึงดูพี่กูสิ คอพับไปอย่างนั้นขืนทิ้งไวตื่นมาได้โวยวายแน่”
“พี่เจฟแม่งชอบดื่มแต่ก็คออ่อนฉิบเลย”
“อือ เขาเรียกพวกไม่เจียมไง เมาทีไรเดือดร้อนกูทุกที”
ราฟาเอลบ่นอย่างไม่จริงจัง เขานั้นทั้งรักและเคารพเจโรมยิ่งกว่าใครทั้งหมด บางทีอาจจะรักมากกว่าบิดาของตนเองด้วยซ้ำเพราะคนที่อยู่กับเขาทุกช่วงเวลาก็มีแต่เจโรมมาตลอด
“แต่มึงก็พาเขามาตลอด”
“ก็เพราะกูรู้ไงว่าเมาแล้วแม่งเป็นอย่างนี้ ขืนไม่ชวนมาแล้วพี่มันเปรี้ยวปากออกไปดื่มคนเดียว คงได้ถูกหิ้วไปลอกคราบทิ้งไว้ที่ไหนแน่ๆ”
“เอ่อ ว่ะน่าคิด ว่าแต่ทำไมไปนานนักวะ”
“กูเจอสาวของมึงไง”
“เสื้อขาวเหรอ”
“เออ”
“แล้วไงได้เบอร์มาให้กูไหม” เมธัสถามอย่างมีความหวังเพราะเธอคนนั้นถูกใจเขามาก
“โทษทีว่ะ กูลืม แต่รู้ชื่อแล้ว คงหาไม่อยากหรอก”
“มึงจะบ้าเหรอไอ้ราฟ รู้แค่ชื่อแล้วแม่งคนซื้อซ้ำกันมีตั้งเท่าไหร่ กลับไปถามชื่อมาให้กูเลยนะ”
“อย่าเพิ่งโวยวายสิ พรุ่งนี้มึงก็เจอเขาเองแหละ”
“พรุ่งนี้กูไปญี่ปุ่นนะ จะเจอเขาได้ยังไง”
“มึงบินไฟล์ทไหนล่ะ” ราฟาเอลถาม
“ไฟล์ทเที่ยงคืน มีอะไรหรือเปล่า”
“เขาก็จะไปญี่ปุ่นบินไฟล์ทเย็นเหมือนกัน”
“สุดยอด ราฟมึงมันแน่ว่ะ กูขอคาราวะเลย” เมธัสก้มตัวโค้งคำนับเก้าสิบองศาให้เพื่อน
“อย่าเวอร์ให้มาก มาช่วยกูแบกพี่เจฟไปที่รถเลย”
“อ้าว จะรีบกลับทำไม”
“พรุ่งนี้จะรีบเคลียร์งาน”
“ขยันแปลกๆ พรุ่งนี้วันอาทิตย์นะ”
“วันจันทร์กูมีธุระ จะรีบเคลียร์ทุกอย่างให้เสร็จ อยากหาเวลาพักบ้าง”
“หูกูฝาดไหม คนอย่างมึงเนี่ยนะจะพัก”
“อือ กูก็เหนื่อยเป็นนะมึง”
“กูรู้ว่าเหนื่อยเป็นแต่กูไม่เคยเห็นมึงพักเลยขนาดควบสาวทั้งคืนพอเช้าแม่งไปทำงานเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น”
“ก็แข็งแรงไง”
“เออ กูไม่เถียงมึงหรอก”
ทั้งสองคนพาเจโรมมายังรถของราฟาเอลที่จอดอยู่ด้านหลังร้านอย่างทุลักทุเล
“พี่เจฟแม่งมาก ถึงคอนโดใครจะช่วยมึงเอาลงจากรถวะ”
“เดี๋ยวอีกชั่วโมงก็ตื่นเองแหละ” เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่เจโรมเมาจนคอพับแบบนี้ และราฟาเอลก็เป็นคนพาชายหนุ่มกลับคอนโดทุกครั้ง
ยังไม่ทันเที่ยงคืน สามสาวก็พากันมานั่งอยู่บนรถเพราะเหนื่อยเกินกว่าจะอยู่จนถึงเวลาปิด
“หาอะไรกินก่อนกลับดีไหม” เอริญาที่นั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับเสนอ เพราะเมื่อสักครู่พากันเต้นจนแทบหมดแรง
“อือ เอาสิ หมดแรงเหมือนกันนะ ดาล่ะจะไปกินกับพวกเราหรือจะให้ไปส่งที่บ้านก่อน” มนิษาหันมาถามคนที่นั่งอยู่เบาะหลัง
“คืนนี้เราจะไปค้างด้วย บอกป๊ากับม๊าไปแล้ว”
“ดีเลยจะได้คุยกันถึงเช้า” เอริญาพูดจบก็เหยียบคันเร่งออกจากหน้าผับหรู
ทั้งสามคนแวะทานก๋วยเตี๋ยวข้างทางก่อนจะกลับมายังคอนโดของเอริญาซึ่งพักอยู่กับมนิษาโดยคิดว่าเช่าในราคาที่แสนถูก
“นาว เรามีอะไรจะบอก” เอริญาตัดสินใจบอกกับเพื่อนเพราะคิดแล้วว่ายังไงก็ต้องบอกก่อน เพื่อให้เพื่อนตัดสินใจเองว่าจะไปเที่ยวคนเดียวหรือจะยอมเสียค่าตั๋วไปแบบฟรีๆ
“เป็นอะไร ทำไมทำหน้าเครียดจัง เรื่องคอนโดหรือเปล่า เดี๋ยวเราก็ย้ายออกแล้ว เรียนจบแล้วนี่” เธออยู่กับเพื่อนมาตั้งแต่เรียนปีสองจนถึงตอนนี้เรียนจบแล้วก็ควรจะย้ายออกเสียที
“ใครจะให้ย้ายออกกัน อยู่อย่างนี้แหละ อยู่ด้วยกันจนแก่เลย”
“ใครจะอยู่กับเพื่อนจนแก่ล่ะเอริ เรียนจบแล้ว ทำงานหาผู้หล่อๆ สักคนแล้วค่อยย้ายออกดีไหมนาว” ลดากาญจน์สาวเปรี้ยวที่สุดในกลุ่มเสนอขึ้น
“เห็นผู้ดีกว่าเพื่อนเหรอยายดา” เอริญาเอาหมอนเอื้อมมาตีคนที่นอนอยู่ริมสุด
“อย่าเพิ่งตีกัน ฟังก่อนว่าเอริจะบอกอะไร” มนิษาซึ่งนอนอยู่ตรงกลางห้าม
“เรื่องทริปล่องเรือของเขา”
“ทำไมเหรอเอริ ตั๋วมีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
“เราต้องไปญี่ปุ่นพรุ่งนี้เย็น คงไปเที่ยวกับนาวไม่ได้แล้ว”
“อ้าว แผนล่มเลย” มนิษาหน้าจ๋อยเพราะการเที่ยวครั้งนี้เธอจองทุกอย่างและวางแผนไว้หมดแล้ว อีกทั้งเงินที่จ่ายไปก็เป็นเงินที่เธอก็มาตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา เพราะอยากให้รางวัลตัวเองในวันที่เรียนจบ
“เราอยากให้นาวไปนะ” เอริญารู้ว่าเพื่อนอยากไปเที่ยวมากแค่ไหน มันเป็นการเที่ยวส่งท้ายก่อนที่จะกลับไปทำงานกับที่บ้าน
“ได้ยังไง ไปคนเดียวอันตรายนะ เลื่อนตั๋วได้ไหม รอเรากลับมาก่อนจะไปด้วย” ลดากาญจน์บอกเพราะพรุ่งนี้ตัวเองก็ต้องไปเยี่ยมญาติที่เมืองจีนเหมือนกัน
“เลื่อนไม่ได้น่ะสิ พวกเธอไม่ต้องห่วงหรอกมะนาวซะอย่างเที่ยวคนเดียวสบายมาก”
“รู้จ้ะว่าเก่งมากแต่ก็อดห่วงไม่ได้”
“พวกเธอไม่ต้องห่วง เราเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว อีกอย่างนะถ้าไม่เที่ยวตอนนี้จะให้เที่ยวตอนไหน พอเรากลับไปช่วยงานที่บ้านก็คงไม่ได้เที่ยวอีกแล้ว”
“เรื่องเที่ยวพอเข้าใจนะ แต่เรื่องกลับไปทำงานที่บ้านนี่ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ”
“อือ ไม่เปลี่ยนใจหรอก เราสงสารพ่อที่ต้องทำงานคนเดียว”
“แล้วพี่หวานล่ะ” เอริญาถามถึงพี่สาวของเพื่อนที่เคยเจออยู่ไม่กี่ครั้งเวลาที่ไปรับมนิษาที่บ้าน
“พี่หวานจบดีไซเนอร์มาจะให้มาทำงานโรงแรมได้ยังไงล่ะ”
“แต่ถ้าทำงานกับที่บ้านแล้วไม่โอเคบอกเรานะ ที่โรงแรมยังพอมีตำแหน่งว่างอยู่” ลดากาญจน์บอกเพื่อน เพราะที่บ้านของเธอนอกจากจะเปิดร้านทองแล้วยังมีธุรกิจโรงแรมอีกด้วย
“ขอบใจมากนะดา”
“เอาละ ถ้าตัดสินใจจะไปคนเดียวก็ต้องเปิดมือถือไว้ตลอด มีปัญหาอะไรก็โทรหาเราหรือเฮียดิษก็ได้”
“เราจะรายงานตัวในไลน์กลุ่มตลอดโอเคไหม”
“ดีมากจ้ะ มะนาว ชีวิตเราเป็นของเราเที่ยวให้สนุก ให้สมกับที่รอคอย ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ถ้าเจอผู้หล่อก็เปิดใจบ้าง” เอริญาพูดพลางหัวเราะ
“ไปเที่ยวนะไม่ได้ไปหาผู้ แล้วล่องเรือแบบนั้นใครๆ ก็ไปกันเป็นคู่ทั้งนั้นแหละบางคนก็ไปทั้งครอบครัว”
“ใครจะรู้ล่ะ บางทีคนเราก็อยากเที่ยวคนเดียวบ้างใช่ไหมดา” เอริญาหันมาถามความคิดเห็น
“ถ้าเจอแล้วจะรีบบอกนะ พอดีเลยห้องยังว่าง” มนิษาบอกเพื่อน
“ขอให้มันจริงเหอะ แล้วนี้ต้องพกยาคุมฉุกเฉินไปกินบนเรือไหมนะ”
“พวกเธอก็พูดเป็นเล่นไป ใครเขาจะทำแบบนั้น”
“ก็ไม่รู้เคยเห็นแต่ในละคร มีอะไรกันครั้งเดียวนี่ท้องตลอด สงสัยไม่เคยเรียนเรื่องเพศศึกษา”
“ไม่ต้องห่วง เราทานยามคุมมาสองเดือนแล้ว”
คำตอบของเพื่อนทำเอาคนฟังหน้าเหว่อไปตามๆ กัน
“ทำไมหรือว่า”
“อย่างคิดไปไกลนะเอริ ก็เดือนก่อนตอนเราไปหาหมอไง หมอเลยแนะนำว่าลองกินยาคุมดู บางทีมันจะช่วยได้”
“อ๋อ” เอริญาพยักหน้าเข้าใจเพราะเธอเองเป็นคนพาเพื่อนไปหาหมอแต่ไม่ได้เข้าไปในห้องตรวจด้วย
สามสาวนอนคุยกันจนถึงตีสามก่อนที่ลดากาญจน์จะบอกให้ทุกคนนอนเพราะพรุ่งนี้ตัวเองต้องรีบกลับบ้านตั้งแต่เช้า