ตอนที่ 7 งอน
ในที่สุดก็ถึงหกโมงเย็นสักที
หลังจากที่นั่งเรียนแบบแทบอ้วกอยู่หลายชั่วโมง นนท์รทีก็รีบเก็บไอแพด พร้อมกวาดอุปกรณ์ทุกอย่างที่อยู่บนโต๊ะลงประเป๋าอย่างว่องไว
“เฮ้ยไอ้นนท์! จะรีบไปไหนวะ?”
เสียงทักทายจากเพื่อนผู้หญิงที่นั่งถัดไปไม่กี่โต๊ะดังขึ้น ทำให้นนท์รทีหันไปมองแล้วก็ยิ้มกริ่มออกมา “ไปเอาใจพี่คนสวย”
คำว่า ‘พี่คนสวย’ ทำให้เพื่อนที่ชื่อแพรทำหน้าเหมือนอยากอาเจียน
“ติดหญิงแล้วลืมเพื่อนเลยนะมึง”
“ไม่ต้องมาว่าเลยไอ้แพร เมื่อกลางวันก็ไปกินข้าวด้วยแล้วยังจะเอาอะไรอีก”
ยิ่งว่านนท์รทีก็ยิ่งทำหน้าเหนื่อยใจ มีการถอนหายใจตบท้าย แพรก็ทำหน้ามุ่ย ก่อนจะหันไปซบอกเพื่อนผู้ชายอีกคนที่อยู่ข้างๆ
“ซัน มึงดูเพื่อนมึงพูดกับกูดิ ทั้งที่รู้ว่ากูพึ่งโดนผู้ชายเทมา มันยังจะทำใจจืดใจดำทิ้งกันได้ลงคอ ไม่รู้ว่าเป็นเพื่อนกันจริงไหม”
“เลิกดราม่าใส่กูได้แล้ว” นนท์รทีทำหน้าเหนื่อยใจหนักกว่าเก่า
เพราะยัยแพร เพื่อนสนิทของเขาพึ่งโดนแฟนบอกเลิกมาเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน เรียกว่าแผลยังสดใหม่มาก มันเลยอยู่คนเดียวไม่ค่อยได้ ตอนกลางวันต้องหาคนไปกินข้าวด้วย ตอนเย็นหลังเลิกเรียนก็ต้องหาคนไปเที่ยวด้วย วันหยุดก็ยังต้องให้เพื่อนๆ ผลัดกันไปเฝ้า
จะมีก็แต่เขานี่แหละที่ไม่ค่อยว่างไปดูแลแพร เพราะมัวแต่อยู่กับไอรดา
แต่แพรก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก เธอมีเพื่อนหลายคน ที่เป็นห่วงมากที่สุดก็ดูจะเป็นซันที่นั่งอยู่ข้างๆ ทำหน้ารังเกียจนิดๆ ตอนแพรเอนตัวมาซบ
“เอามันไปหน่อยไป๊ รำคาญฉิบหาย” ซันผลักหัวแพรออกไปห่างๆ เกี่ยงให้นนท์รทีรับภาระต่อ
“ไม่เอาอะ” นนท์รทีก็ส่ายหน้ารัวอีก แพรถึงได้ยิ่งหน้าบูด
“นี่พวกมึง โยนกูไปมาเป็นขยะเปียกเลยนะ ทำไมไม่เห็นใจกันบ้างวะ แค่จะชวนไปโยนโบว์ลิ่งด้วยแค่นั้นเอง”
“เชิญไปกับไอ้ซันเถอะ กูไม่ว่าง แค่นี้ล่ะ เดี๋ยวไปสายแล้วพี่ไอจะงอน”
ว่าพลางนนท์รทีก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเป็นไม่กี่ครั้งในรอบวัน ทีแรกว่าจะส่งข้อความหาไอรดา บอกเธอว่าเขาจะไปรับที่ทำงาน
แต่พอเห็นข้อความที่เธอส่งมาตั้งแต่เมื่อตอนกลางวัน พร้อมกับรูปอาหารหน้าตาน่ากินหลายอย่าง เขาก็เริ่มรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ขึ้นมาชอบกล
ด้วยความรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี นนท์รทีเลยลองส่งข้อความเป็นสติกเกอร์ไปหนึ่งตัว ดูว่าไอรดาจะตอบรับยังไง
เธอ...ไม่อ่าน
“เวรล่ะ”
นนท์รทีอุทานออกมาเบาๆ ก่อนจะรีบหันไปบอกลาเพื่อนๆ “ไปก่อนนะ”
“ทำไมรีบงั้นอะ?” แพรยังมีกะใจจะถามต่อ ให้นนท์รทีทำหน้าเหมือนอยากร้องไห้ “โดนผู้หญิงงอนใส่ เป็นมึงจะไม่รีบไปง้อหรือไง”
“เอ่อ...ไม่อะ กูเป็นผู้หญิงเหมือนกัน แต่ถ้าโดนผู้ชายงอนก็คงจะรีบไปง้ออยู่”
“มันก็เหมือนกันไหมวะ” ซันว่า ก่อนจะส่ายหน้าให้แพรพร้อมปัดมือไล่นนท์รทีไป
“รีบๆไป กูรำคาญจะแย่ เวลาทะเลาะกับพี่คนนั้นทีไรมึงไม่มีสมาธิเรียนทุกที เสร็จแล้วเดี๋ยวก็มานั่งซดเหล้าย้อมใจระบายเป็นวรรคเป็นเวร ให้พวกกูปลอบก่อนกินอาหารหมาตอนที่มึงกลับไปดีกับพี่เขาใหม่อีกเหมือนเดิม”
ฟังซันบ่นยืดยาว นนท์รทีก็ยิ้มแหยเหมือนจะรู้สึกผิด
แค่เหมือนจะน่ะ... แต่ความจริงก็ไม่ได้รู้สึกแย่ขนาดนั้นหรอก เพราะตอนนี้มีเรื่องให้ต้องกังวลมากกว่าอยู่
ดูจากรูปที่ไอรดาส่งมา นนท์รทีจำได้ว่ามันเป็นเซตอาหารที่เขาชอบสั่งเวลาไปกินร้านใกล้ๆ ที่ทำงานของเธอ ซึ่งวันนี้เขากับแพรก็ไปนั่งกินด้วยกันมา
คงไม่ใช่ว่าพี่ไอเข้าใจอะไรผิดไปหรอกนะ...
ขึ้นรถแล้วนนท์รทีก็ขับบึ่งมาหน้าออฟฟิศอันคุ้นเคยทันที
แล้วก็ต้องยิ่งหน้าซีด เมื่อเขาจอดรถและเดินลงไปถามคนในตึก ก่อนจะได้คำตอบว่าไอรดากลับบ้านไปแล้ว โดยให้เพื่อนที่ชื่อมินตราไปส่ง
“ไอ้นนท์เอ๊ย...ซวยจริงๆ”
นนท์รทีได้แต่สบถอยู่คนเดียวในรถ ตลอดทางที่ขับมาจนถึงคอนโดก็พยายามโทรหาไอรดาตลอด แต่เธอไม่รับสาย
ไม่ต้องสงสัยจริงๆ น่ะแหละ เธองอนเขาแล้วแน่ๆ
สุดท้าย ชายหนุ่มร่างสูงก็มาหยุดยืนอยู่หน้าห้องที่คุ้นเคย ส่งเสียงขอร้องอ้อนวอนดังพอที่จะทำให้คนด้านในได้ยิน
“พี่ไอครับ เปิดประตูให้ผมทีนะครับ”
“....”
ไร้เสียงตอบรับจากคนด้านใน แม้เขาจะได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินมาหน้าประตูแล้ว แต่ดูท่าเธอคงจะไม่ยอมเปิดรับเขาง่ายๆ แน่
ถ้าทำได้นนท์รทีก็อยากจะกดรหัสเข้าห้องเลยเหมือนทุกที แต่เขารู้ดีว่าถ้าทำให้ไอรดาโกรธขึ้นมาเมื่อไหร่ เธอจะเปลี่ยนรหัสประตูทันที
ครั้งนี้...ก็เหมือนกัน
“พี่ไอครับ เปิดประตูให้ผมเถอะนะ ผมซื้อข้าวเย็นมาเต็มเลย มีแต่ของโปรดพี่....”
“ฉันไม่มีอารมณ์จะกิน”
เสียงคนด้านในตอบกลับมาแบบกระแทกกระทั้นนิดๆ ทำนนท์รทีหายใจไม่ทั่วท้องทีเดียว
“แต่ถ้าไม่กินร่างกายของพี่จะต้องโทรมขึ้นมากแน่เลย พี่ไอลองคิดดูสิครับ ตอนนี้พี่ก็ไม่ได้อายุน้อยๆ แล้ว ถ้าหากยิ่งโทรมลงไปอีก....”
“งั้นก็เชิญนายไปหานักศึกษาวัยละอ่อนเหมือนกันเถอะ ปล่อยยัยแก่หนังเหี่ยวอย่างฉันไว้คนเดียวแบบนี้แหละ”
ไม่ทันที่นนท์รทีจะพูดจบก็โดนตัดบทด้วยถ้อยคำประชดประชัน
เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ไอรดาต้องเข้าใจผิดเรื่องของเขากับแพรแน่ๆ
นึกย้อนกลับไปเมื่อกลางวัน ถ้าเขาไม่ลืมเปิดแจ้งเตือนเสียงข้อความ คงรู้ว่าไอรดาส่งข้อความมาหาตั้งนานแล้ว แล้วก็รีบตอบเธอ ไม่ปล่อยให้เธอคิดมากอยู่ตั้งหลายชั่วโมงแบบนี้
นนท์รทีรู้สึกผิดมาก เพราะเขาเป็นห่วงความรู้สึกของไอรดา...
ถ้าหากเป็นเขา เห็นเธออยู่กับชายอื่นก็คงจะหึงเหมือนกันนั่นแหละ
“พี่ไอฟังผมหน่อยนะครับ นั่นน่ะเป็นเพื่อนในกลุ่มของผมเอง วันนี้ผมไปกินข้าวกับมันเพราะว่าเพื่อนคนอื่นไม่ว่าง ไม่มีอะไรเกินเลยกว่านี้จริงๆ สาบานได้”
“ฉันไม่เชื่อว่าผู้ชายกับผู้หญิงจะเป็นเพื่อนกันได้”
“แต่ผมมีเพื่อนเป็นผู้หญิงอยู่เยอะเลยนะครับ”
“เพราะนายมันหน้าตาดีไง ลองหน้าตาเห่ยจะมีผู้หญิงที่ไหนอยากมาเป็นเพื่อนด้วยไหมล่ะ”
โดนว่ามาแบบนี้ ไม่รู้ว่านนท์รทีต้องเขินหรือรู้สึกผิดดี หลังจากที่ยิ้มแหยแบบไม่รู้จะเอาใจคนด้านในยังไง สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจพูดออกไป
“ผมขอโทษที่ทำให้พี่กังวลนะครับ คราวหลังเวลาจะไปไหน ผมจะบอกพี่ก่อน ถ้าพี่ไม่สบายใจผมก็จะไม่ไป อย่างนี้ดีไหมครับ”
“....”
ได้ยินเขาง้ออย่างนั้น ไอรดาก็เงียบไปหลายนาที
เหมือนเธอกำลังลังเลว่าจะตอบว่ายังไงดี....
“ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นหรอก เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”
ถึงคำตอบของเธอจะฟังดูเหมือนไม่มีเยื่อใยอะไรให้กัน แต่เอาเข้าจริง นนท์รทีฟังเสียงก็พอรู้ว่าคนด้านในเริ่มใจอ่อนให้เขาแล้ว แค่ทำปากเก่งไปอย่างนั้นเอง
นั่นทำให้นนท์รทีถึงกับมีรอยยิ้มออกมาเลยทีเดียว
“สถานะของผมก็คือเด็กของพี่ไอไงครับ ลืมได้ไงเนี่ย ผมเสียใจนะ”
และเพียงเขาทำตัวออดอ้อน ส่งรอยยิ้มหวานอยู่หน้าประตู อีกเดี๋ยวคนที่มองหน้าเขาผ่านช่องตาแมวก็จะยอมเปิดประตูให้แล้ว
แกร๊ก...
นั่นไง ผิดจากที่คิดที่ไหนล่ะ
เมื่อเจอหน้าไอรดา รอยยิ้มของนนท์รทีก็ไม่มีทางหุบลงได้แน่นอน
เพราะรู้ว่าเธอจะใจอ่อน ยอมให้เขาอย่างนี้ไงล่ะ