7. ตบแล้วก็จูบ NC18+

“หยุดๆ เดี๋ยวมันก็เลอะไปมากกว่านี้หรอก มานี่ เดี๋ยวผมจะช่วยถอดให้ คุณอยู่นิ่งๆเลย” ศิลาพูดออกไปแล้วถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจกับเธอ ก่อนจะมองที่สายเดี่ยวของเธอ แล้วเขาก็ดึงมันลงมา ก่อนจะเมินสายตาไปทางอื่นอย่างให้เกียรติเธอ

“อื้อ…เร็วๆถอดสิ ชักช้าอะไรเนี่ย” เรวดีพูดไปก็เอามือดึงรั้งชุดที่มันมาติดตรงหน้าอกของเธอลงไป แล้วเธอก็ดึงเอาชุดชั้นในเกาะอกของเธอลงไปด้วยจนมันถึงเอวเธอก็ดึงเอาชั้นในออกตามไป แล้วก็ใช้ขายันชุดออกไปอย่าตัดรำคาญ

ศิลาที่ดึงชุดเธออยู่นั้นก็ถูกมือของเธอนั้นดึงก่อนจะถูกเธอนั้นเอาขายันจนเขานั้นหันหน้ามามองเธออย่างอดไม่ได้ ก่อนจะทำตาโตเบิกกว้างเมื่อเจอกับหน้าอกหน้าใจของเธอเต็มๆ แถมตอนนี้เธอก็กำลังจะถอดชั้นในออกมาอีก ทำให้เขานั้นรีบคล้าผ้าห่มมาปกปิดร่างกายที่เปลือยเปล่าของเธออย่างรวดเร็ว

“อื้อ…สบายจริงๆเลย โล่งสักที มามะมาให้นอนกอดหน่อยสิคะ พรึบ! ” เรวดีพูดไปก็นอนหลับตาพริ้มอย่างสบายๆ ต่างจากคนที่นั่งอยู่อย่างศิลาที่ถึงกับมองเธออย่างเครียดๆ จะถูกเธอนั้นดึงตัวไปกอดอย่างไม่ทันตั้งตัว

“เห้ยคุณ ปล่อยผม คุณจะมานอนกอดผมแบบนี้ไม่ได้นะคุณเรย์ คุณเข้าใจที่ผมพูดไหมเนี่ย” ศิลาพูดออกไปแล้วเขาก็แกะมือของเธอออก โชคดีที่มีผ้าห่มกั้นระหว่างเธอและเขา ไม่งั้นเขาคงได้สัมผัสตัวเธอแบบแนบแน่นไปแล้ว

“อื้อ เงียบๆสิคะพี่วิท เรย์จะนอนแล้ว อื้อ” เรวดีพูดไปก็โอบกอดศิลาแน่นแบบไม่ยอมปล่อยเขา แถมเธอยังเอาขาไปเกี่ยวรัดเขาอีก

“ให้ตายเถอะ ทำไมเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยวะเนี่ย” ศิลาพูดออกไปอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะอยู่นิ่งๆให้เธอนอนกอดไปแบบนั้น เพราะเธอเมาไม่ฟังอะไรแบบนี้คงไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ รอให้เธอนั้นนอนหลับไปก่อนจะดีกว่า แล้วเขาค่อยลุกออกไป ศิลาคิดไปอย่างใจเย็น แล้วเขาก็นอนนิ่งให้เธอกอดแบบนั้นต่อไป

เรวดีก็นอนกอดศิลาจนเธอนั้นนอนหลับไป ส่วนศิลาที่โดนเธอกอดนั้นก็เผลอหลับไปเช่นกัน แล้วทั้งสองก็นอนโอบกอดกันกลมอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว จนกระทั่งมันล่วงเลยไปเช้าของอีกวัน ทั้งสองก็ยังคงนอนกอดกันอยู่บนเตียงพร้อมกับสภาพห้องที่เสื้อผ้าของทั้งสองนั้นเรี่ยราดอยู่เต็มพื้นห้อง

เช้าวันใหม่…

พันทิวาที่ตื่นมาแต่เช้าก็สั่งแม่บ้านให้เตรียมอาหารให้กับเรวดีด้วย เพราะเมื่อคืนหมอสาวได้ดื่มจนเมาและนอนค้างที่นี่ ถ้าได้ทานอาหารอ่อนๆก็คงจะดีไม่น้อย และเธอยังสั่งให้แม่บ้านคั้นน้ำส้มสดๆเตรียมไว้ให้เรวดีด้วยเพื่อและสามีของเธอเพื่อจะได้ช่วยให้สร่างเมาจากการดื่มหนักๆจากเมื่อคืน

“อาหารเสร็จแล้วเหรอคุณ” เพชรรัตเอ่ยถามออกไปขณะที่เขานั้นลงจากบันไดมา แล้วเจอภรยาสาวกำลังเดินมาพอดี

“เสร็จแล้วค่ะ ฉันว่าจะขึ้นไปตามคุณกับศิลาแล้วก็น้องเรย์ลงมาทานอาหารพอดีเลยค่ะ” พันทิวาพูดบอกไปเพราตอนนี้อาหารเตรียมเสร็จหมดแล้ว ส่วนเด็กๆก็ไปเล่นที่ชายหาดกับพี่เลี้ยงแล้ว

“อ่อ งั้นเดี๋ยวผมไปตามศิลาเองคุณไปตามน้องเรย์เขาก็แล้วกัน” เพชรรัตพูดบอกไปก็เดินกลับขึ้นไปชั้นบนทันที เพราะเขารู้จากภรรยาของเขาเมื่อเช้าว่าเมือคืนเขากับเรวดีนั้นเมาจนเละเทะเลย

พันทิวามองตามสามีที่เดินขึ้นบันไดกลับขึ้นไปแล้วเธอก็เดินตรงไปยังห้องนอนรับแขกของบ้านทันที เพราะเมื่อคืนเธอให้ศิลานั้นพาเรวดีไปส่งที่นั่น ไม่รู้ว่าป่านนี้เธอจะตื่นหรือยัง แต่นี่ก็แปดโมงกว่าแล้วเธอก็น่าจะตื่นแล้วนะ พันทิวาจึงเดินไปแล้วเคาะประตูห้องเรียกทันที

“ก๊อกๆ น้องเรย์คะ ตื่นหรือยัง ก๊อกๆ น้องเรย์คะ” พันทิวาเคาะประตูเรียกซ้ำๆ ก่อนจะเอามือมาจับลูกบิดแล้วเธอก็หมุนมันเบาๆ แล้วมันก็ไม่ได้ล็อคทำให้เธอนั้นแอบถือวิสาสะเข้าไปในห้องนอนรับแขก เพื่อไปปลุกเรวดีให้มาทานอาหารเช้า

พอพันทิวาเดินเข้ามาแล้วเธอก็เอามือปิดปากของตัวเองอย่างอึ้งๆกับภาพที่เห็นตรงหน้า เพราะเรวดีกำลังนอนโอบกอดศิลาอยู่อย่างแนบชิด แถมทั้งสองคนก็ไม่ได้ใส่เสื้อด้วยกันทั้งคู่ แล้วเสื้อผ้าก็ตกเกลื่อนกราดเต็มพื้นห้อง จนเธอนั้นไม่กล้าที่จะปลุกทั้งสองเลย เธอก็ค่อยๆถอยออกมาอย่างเงียบๆ

“คุณ ศิลามันไม่ได้อยู่ที่ห้อง แถมเตียงมันยังเรียบตึงเหมือนไม่ได้นอนเลยด้วยซ้ำ แล้วนี่น้องเรย์ตื่นแล้วใช่ไหม” เพชรรัตเดินมาก็เอ่ยพูดออกไปก่อนจะเห็นภรรยาเขาเดินถอยหลัง เขาก็มองอย่างสงสัยก่อนจะเดินเข้าไปหาแล้วถามย้ำออกไป

“อย่าเสียงดังสิคะคุณ น้องเรย์กับศิลายังไม่ตื่นค่ะ” พันทิวาหันมาทำมือจุ๊ปากใส่สามีของเธอ ก่อนจะทำหน้ารนรานออกไป เพราะเธอไม่รู้จะพูดเรื่องของทั้งสองคนนี้ยังไงดี

“นี่คุณกำลังจะบอกผมว่าศิลามันอยู่ในห้องกับน้องเรย์งั้นเหรอ…” เพชรรัตพูดไปก็ทำหน้าทำตาตื่นตระหนอกออกไป ก่อจะเดินแทรกตัวเข้าไปในห้องแล้วเขาก็เห็นน้องชายของเขากำลังนอนโอบกอดเรวดีอยู่อย่างไม่ต้องเดาเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น

“เวรแล้วไง…” เพชรรัตพูดออกไปอย่างอึ้งๆ เพราะเขาจะสบถแบบนั้นเลยถ้าเรวดีเป็นสาวโสด แต่นี่เธอมีแฟนแล้วแถมกำลังจะแต่งงานกันอีก แล้วนี่เธอมานอนกับน้องชายของเขาได้ยังไงกัน เพชรรัตคิดไปก็อึ้งจนพูดไม่ออก

“ออกมาก่อนค่ะ ฉันว่าเราไม่ควรจะอยู่ในนี้ มาค่ะ” พันทิวาพูดไปเบาๆก็จับมือของสามีแล้วเดินจับมือเขาออกมาด้านนอก ก่อนจะกดล็อคห้องแล้วปิดประตูเบาๆ เพราะเขากลัวว่าลูกๆของเขากลับมาแล้วจะซนเปิดเข้าไปเจอทั้งสองเข้า

“คุณ มันเป็นแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย สองคนนี้เขาไปนอนด้วยกันได้ยังไง” เพชรรัตพูดออกไปด้วยเสียงไม่อยากจะเชื่อว่าภาพที่เขาเห็นนั้นมันเป็นความจริง

“ฉันก็ไม่รู้ค่ะ ฉันก็พึ่งเห็นเขาสองคนพร้อมๆกับคุณนี่แหละค่ะ เมื่อคืนน้องเรย์เขาเมามากฉันก็เลยให้ศิลาเขามาส่งน้องเรย์ที่ห้อง ฉันไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ทำยังไงดีคะ น้องเรย์เขามีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ” พันทิวาพูดออกไปด้วยสีหน้ารู้สึกผิด เพราะเธอเป็นคนบอกให้ศิลาพาเรวดีไปส่ง และตอนนี้ทั้งสองก็เหมือนจะกินกันไปแล้วด้วย ทำให้เธอนั้นไม่รู้จะทำยังไงเลยเพราะเรวดีนั้นก็มีแฟนแล้วแถมกำลังจะแต่งงานด้วย

“ใช่น่ะสิ คุณไม่น่าปล่อยเนื้อเข้าปากเสือเลย รู้ทั้งรู้ว่าศิลาน่ะมันเจ้าชู้ขนาดไหนคุณก็ยังไว้ใจให้มันเอาคนเมาไม่รู้เรื่องไปส่งที่ห้องอีก เฮ้อ…..คุณเงียบๆไว้ก่อน เหมือนมันไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วกัน รอดูท่าทีของสองคนนั้นก่อน” เพชรรัตพูดต่อว่าเมียเขาออกไปอย่างอดไม่ได้ เพราะน้องชายเขาน่ะเป็นประเภทฟาดเรียบอยู่ด้วย

“ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้นิคะคุณ เฮ้อ….” พันทิวาพูดไปแล้วถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจพร้อมกับมองหน้าสามีไปอย่างไม่รู้จะทำยังไง เพราะเธอเองก็ไม่ได้อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลย คิดไปแล้วก็รู้สึกผิดกับเรวดีจริงๆที่เธอปล่อยให้ศิลาไปส่งเธอแบบนั้น ถ้าเธอไปส่งเองหมอสาวก้คงไม่ตกเป็นเหยื่อของน้องสามีของเธอแน่

ด้านเรวดีและศิลานั้นก็นอนกอดกันอยู่ในห้องนั้นก็ไม่รู้เลยว่ามีบุคคลที่สามเข้ามาเห็นพวกเขา จนเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงชิชาก็เริ่มงัวเงียตื่นขึ้นมา แล้วเธอก็เห็นใบหน้าของผู้ชายคนหนึ่งอยู่ๆใกล้ๆหน้าของเธอ แล้วอยู่ๆเขาก็ขยับตัวจนจมูกโด่งๆของเขานั้นหันมาหาเธอจนมันใกล้ชิดกับหน้าของเธอมาก ทำให้เธอยังสัมผัสได้ถึงลมหายใจอ่อนๆของเขา

“กรี๊ด…” เรวดีร้องกรี๊ดออกมาอย่างเสียงดังก่อนจะเอามือผลักตัวของศิลาออกอย่างแรง แล้วเธอก็ลุกขึ้นอย่างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเขาไม่ได้เสื้อเธอจึงรีบก้มมามองตัวเองแล้วตกใจขึ้นไปเมื่อเธอเองก็เปลือยเปล่าไม่มีเสื้อผ้าเลยสักชิ้น ทำให้เรวดีนั้นรีบเอาผ้าห่มมาปกปิดหน้าอกของเธอไว้อย่างรนๆ

“จะโวยวายทำไมเนี่ยคุณมันหนวกหู อื้อ… ตื่นมาก็แหกปากเลยเกร็งใจคนหลับคนนอนบ้างสิคุณ” ศิลาพูดบ่นออกไปอย่างงัวเงียก่อนจะลุกไปนั่งแล้วเขาก็ลืมตามองเธอด้วยสายตาเคืองขุ่น เพราะเมื่อคืนเธอเล่นโอบกอดเข้าไปยอมปล่อยจนเขานั้นเผลอหลับไปกับเธอจนเช้าแบบนี้

“เพี๊ยะ! ข่มเหงฉันไม่พอยังจะกล้ามาว่าฉันอีก ไอ้คนเฮงซวย ไอ้คนฉวยโอกาส…ออกไปเลยนะ ออกไป…” เรวดีพูดออกไปก็น้ำตาคลอเบ้าเมื่อเธอต้องมาเสียความบริสุทธิ์ให้กับผู้ชายแปลกหน้าคนนี้ แทนที่จะเป็นวิทวัสสามีในอนาคตของเธอ ถ้าเขารู้ว่าเธอนอกกายเขาไปกับผู้ชายคนอื่นเขาจะต้องเสียใจมากแน่ๆ

“โอ๊ยคุณมาตบผมทำไมเนี่ย ผมไม่ได้ข่มเหงอะไรคุณสักหน่อย คุณเข้าใจผิดแล้วคุณเรย์ เราสองคนไม่ได้มีอะไรกันสักหน่อย ผมไม่น่ามืดเอาผู้หญิงขี้เมาอย่างคุณหรอก” ศิลาพูดออกไปอย่างจริงจัง เพราะเขาเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่ทำอะไรผู้หญิงที่เมาเละอย่างเธอหรอก ขนาดเธอนอนแก้ผ้านอนกอดเขาทั้งคืนเขาก็ยังไม่คิดจะทำอะไรเธอในทางไม่ดีแบบนั้นเลย ทั้งที่เธอนั้นก็ทำให้เขานั้นตื่นตัวไม่น้อยเลย

“ไม่จริง…ถ้าเราสองคนไม่มีอะไรกันแล้วทำไมฉันต้องมาอยู่ในสภาพนี้กับคุณด้วย ฉันไม่ใช่เด็กอนุบาลที่จะเชื่อคำพูดลอยๆของคุณนะคุณศิลา ไอ้คนฉวยโอกาส ตุ๊บ ตุ๊บ คุณก็รู้ว่าฉันกำลังจะแต่งงานกับแฟนฉันอยู่แล้ว ทำไม ทำไมคุณต้องทำแบบนี้กับฉันด้วย ตุ๊บ ตุ๊บ…เพี๊ยะ!...” เรวดีพูดออกไปก็มองเขาด้วยสายตาแข็งกร้าว เพราะตื่นมาเจอเขานอนกับด้วยสภาพเปลือยเปล่าทั้งคู่อย่างนี้จะให้เธอคิดอะไรได้ เธอก็เอามือทุบตีหน้าอกของเขาอย่างเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วมือของเธอก็ฟาดลงไปเต็มๆที่ใบหน้าหล่อๆของเขา

“โอ๊ยคุณ!... หยุดนะผมเจ็บ…ผมบอกแล้วไงว่าเมื่อคืนเราสองคนไม่ได้มีอะไรกัน ถ้าคุณยังไม่หยุดโวยวายแบบนี้ ผมจะทำจริงๆแล้วนะ” ศิลาเอามือของเขาจับมือเธออย่างห้ามปรามพร้อมกับดันตัวเธอนอนลงไปบนเตียง แล้วเขาก็จับมือเธอไว้เหนือหัวทั้งสองข้าง พร้อมกับพูดขู่ออกไปแล้วมองสบตากับเธอด้วยสายตาจริงจัง

“อื้อ…ปล่อยฉันนะ ฉันไม่ยอมให้คนฉวยโอกาสอย่างคุณทำอะไรฉันอีกแน่ ปล่อยสิ…อื้อ…” เรวดีร้องออกไปแล้วพยายามสะบัดมือของเธอให้หลุดจากการครอบคลุมของเขา

“คำก็ฉวยโอกาส สองคำก็ฉวยโอกาส งั้นผมก็ทำให้คุณดูเลยก็แล้วกันว่าฉวยโอกาสจริงๆมันเป็นยังไง จุ๊บ…อื้อ….” ศิลาพูดออกไปแบบโมโห เมื่อเธอนั้นพูดไม่ฟังจนเขานั้นก้มลงไปจูบปากเธออย่างเร่าร้อน ก่อนจะเอามือจับข้อมือของเธอไว้ด้านข้างหัวไว้มั่น ในเมื่อเธอว่าเขานั้นฉวยโอกาสเขาก็จะทำให้เธอได้เห็น เพราะเขาจะไม่ยอมถูกตบฟรีๆเป็นครั้งที่สามแน่ๆ

“อื้อ…อือ…อื้อ….” เรวดีครางในลำคอออกมาขณะที่ถูกศิลานั้นบดจูบมาอย่างร้อนแรง เธอก็พยายามสะบัดหน้าหนีการจูบของเขาแล้วเธอก็พยายามใช้เท้ายันตัวเขาออก แต่มันก็ทำให้ผ้าห่มที่ปกปิดร่างกายของเธอนั้นค่อยๆเลื่อนออกไปด้วย ทำให้เธอนั้นไม่มีอะไรมาปกปิดร่างกายอีกต่อไป

ศิลาที่คิดจะจูบลงโทษอย่างแกล้งๆเธอนั้นก็ถอนจูบออกมาแล้วมองหน้าสวยๆของเธอ ก่อนจะมองไปที่หน้าอกหน้าใจของเรวดีที่มันชูชันอย่างน่าโลมเลีย ในเมื่อเธอคิดว่าเขานั้นฉวยโอกาสแล้วมีอะไรกับเธอแบบนี้ งั้นเขาก็ฉวยโอกาสเอาคืนที่เธอตบหน้าเขาไปก่อนหน้านี้หน่อยก็แล้วกัน ถือว่าเป็นรางวัลการปลอบใจเขาที่ถูกเธอตบฟรี

“ขอผมเอาคืนที่คุณตบผมเมื่อกี้หน่อยเถอะ อ่าส์…งับ…อื้ม…จ๊วบ…จ๊วบ…อ่าส์…หัวนมแข็งสู้ลิ้นจัง อ่าส์….แผล็บ…แผล็บ….อืม….จ๊วบ….” ศิลาอดใจไม่ไหวก็เอ่ยพูดออกไปพร้อมกับก้มลงไปหยอกเย้ากับยอดถันของเรวดีอย่างหื่นกระหาย เขาก็ใช้ลิ้นเลียวนที่ฐานสีน้ำตาลอ่อน ก่อนจะดูดยอดถันเม็ดโตของเธอที่แข็งชูชันแล้วเขาก็ใช้ลิ้นดันเล่นกับมันอย่างชอบใจ

“อ้ะ อย่านะ ปล่อยฉันเถอะ ฉันขอร้อง อือๆ…ออกไปนะคุณศิลา อย่า อ้ะ อ้ะ….” เรวดีร้องไห้ออกมาแล้วก็ดิ้นตัวขัดขืนเขาอย่างไม่ยอมให้เขานั้นเล่นสนุกกับหน้าอกของเธอ ถึงแม้ว่ามันจะเสียวแค่ไหนก็ตาม เพราะเธอจะไม่ยอมทำผิดซ้ำสองกับเขาอีก