บทที่ 9
นางชำเลืองมองท่านตา แต่สายตาที่ท่านตามองมาทำให้นางรู้ว่าทุกคนรักนางจริง เป็นนางที่เมื่อก่อนทอดทิ้งความรักของพวกเขาไป แม้แต่ท่านลุงและป้าสะใภ้ก็ไม่มีใครที่ส่งสายตาตำหนินางเลยสักคน
หลังจากพูดคุย ทานอาหารกันเรียบร้อยแล้ว นางยังมีพี่ชายอีกห้าคน บ้านท่านตาช่างอาภัพหลานสาวยิ่งนัก นางจึงไม่มีพี่สาวน้องสาวให้คอยพูดเล่นได้เลย
เมื่อถึงเวลางานแขกจากตระกูลต่างๆ เริ่มทยอยเข้ามา ป้าสะใภ้ทั้งสองจัดงานออกมาได้อย่างไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องเลย พี่ชายทั้งสองของนางก็คอยช่วยลูกของท่านลุงใหญ่ลุงรองรับแขก มีเพียงนางที่เกาะติดท่านยายไม่ห่าง
"หลานสาวของฮูหยินผู้เฒ่าช่างงามสมคำร่ำลือ ไม่รู้ว่าตระกูลใดจะโชคดีได้วาสนานี้ไปครอง" ซูเหมยฮวามีเพียงรอยยิ้มน้อยๆ บนใบหน้าเท่านั้น
"คุณหนูซูมิใช่ต้องตาท่านแม่ทัพเซี่ยอยู่หรือเจ้าคะ"
เสียงพูดคุยเรื่องของนาง ไม่ได้ทำให้นางเสียอาการเลย นางยังคงยิ้มน้อยๆ ฮูหยินทั้งหลายจึงไม่รู้ว่านางคิดเช่นไร
"หลานสาวของข้าคนนี้ เป็นไข่มุกในมือ นางจะแต่งบุรุษเข้าจวนเท่านั้น" ท่านยายของนางช่างร้ายกาจสมกับเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพใหญ่
"เป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะท่านยาย"ซูเหมยฮวาหันไปยิ้มจนตาหยีให้ท่านยายของนาง
หลังจากงานเลี้ยงวันนั้นเรื่องบุตรีของเสนาบดีซูจะคิดจะแต่งเขยเข้าบ้านก็ดังไปทั่วทั้งเมืองหลวง บัณฑิตใจกล้าไร้คนหนุนหลังก็เข้าหาพี่รองของนาง
ส่วนทหารในกองทัพก็เริ่มเอาอกเอาใจพี่ใหญ่ของนาง แม้แต่พี่ชายทั้งห้าตระกูลเฟิ่งยังมีคนเข้ามาสอบถามไม่ขาด หากได้จวนอดีตท่านแม่ทัพใหญ่กับจวนเสนาบดีซูหนุนหลังต่อให้เป็นเขยแต่งเข้าพวกตนก็ยอม อีกทั้งความงามของซูเหมยฮวาชายใดจะกล้าปฏิเสธกัน
ภายในงานเลี้ยงนางนึกไม่ถึงว่าจะได้พบเซี่ยซีฮั่น แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะหลบไปพ้นเสียแล้ว
"ฮวาเออร์" เขาไม่ได้เรียกนางเช่นนี้นานเพียงใดแล้ว หากเขาไม่เข้ามาทำดีกับนางมีหรือคนที่ไม่ค่อยออกจากจวนไปไหนเช่นนางจะได้พบเขา
เมื่อก่อนเขาจะมาหาพี่ใหญ่เป็นประจำทำให้นางได้มีโอกาสพูดคุยจนแปรเปลี่ยนเป็นรักขึ้นมา แต่เมื่อใดกันที่เขาเปลี่ยนไป จนนางต้องเป็นฝ่ายออกไปดักรออยู่เสมอ
เขาไปเจอกับหลันเฟยหย่าจนรักนางได้อย่างไร นางก็ตอบได้แค่เพียงไม่รู้
"คารวะท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ" ซูเหมยฮวาทักเสร็จนางก็กำลังจะปลีกตัวจากไป
"ฮวาเออร์ พี่ขอคุยกับเจ้าสักประเดี๋ยว"
นางถึงกับคิ้วกระตุก ตอนนี้นางอยากจะหันไปหัวเราะใส่หน้าเขา มาเรียกตนเองว่าพี่เช่นนั้นหรือ ต่อหน้าหลันเฟยหย่า เป็นเขาที่บอกไม่ได้เป็นอะไรกับนาง พอนางตีตัวออกห่างกับจะดึงนางกลับเข้าไป
แปะ แปะ เสียงตบมือทำให้นางกับเซี่ยซีฮั่นหันไปมอง
"เปิ่นหวางมาขัดจังหวะพวกเจ้าพลอดรักกันหรือไม่" สายตาหยอกล้อนี่คืออะไร
"ถวายบังคมฉินอ๋องพ่ะย่ะค่ะ/เพคะ" ถึงจะไม่พอใจแต่ก็มิอาจละเลยการทำความเคารพได้ มิเช่นนั้นจะเป็นการหมิ่นเบื้องสูง
"ไม่ต้องมากพิธี เชิญพวกเจ้าต่อกันได้เลย" สีหน้าคล้ายยิ้มไม่ยิ้มของฉินอ๋องทำให้ซูเหมยฮวามองเขาด้วยสายตาเย็นชา
"พระองค์กล่าวผิดแล้วเพคะ ขออภัยที่หม่อมฉันเสียมารยาท ขอตัวก่อนเพคะ" ซูเหมยฮวาไม่สนใจบุรุษทั้งสองนางเดินจากไปทันที
"พระองค์ทรงเข้าใจผิดแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตรัสเช่นนี้ ฮวาเออร์จะเสียหายได้" เซี่ยซีฮั่นหันไปสบตากับฉินอ๋อง
"ไม่คิดเลยว่าท่านแม่ทัพสนิทสนมกับคุณหนูซูจนเรียกนางเช่นนี้ได้" บุรุษทั้งสองสบตาอย่างไม่มีใครยอมใคร แม้ใบหน้าทั้งคู่จะดูยิ้มแย้มแต่อากาศรอบข้างก็ชวนให้คนหายใจไม่ออกจริงๆ
หลังจากที่ซูเหมยฮวาไปแล้ว นางมิได้สนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น นางยังคงคอยดูแลท่านยายจนงานเลิกถึงได้แยกย้ายกันกลับจวน
เรื่องที่นางเจอฉินอ๋องกับเซี่ยซีฮั่นนางไม่ได้เล่าให้ครอบครัวฟัง ด้วยเห็นว่าไม่จำเป็นต้องเล่า
กลางดึกคืนนั้นภายในห้องนอนของนางก็มีแขกไม่ได้รับเชิญเข้ามาก่อนที่นางจะส่งเสียงเรียกองครักษ์ ปากของนางก็ถูกมือหนาพุ่งเข้ามาปิดเสียก่อน
"หากส่งเสียงข้าจะฆ่าเจ้า" นางกลอกตาอย่างเบื่อหน่าย
"ท่านมีเรื่องอันใดถึงกับต้องเข้ามาที่เรือนนอนของข้า" ซูเหมยฮวากัดฟันพูดอย่างหงุดหงิด
บุรุษชุดดำ เก่งกาจขนาดเข้ามาถึงเรือนนอนของนางโดยรอดพ้นจากสายตาองครักษ์มากมายได้อย่างไร หรือต้องแจ้งให้ท่านพ่อเปลี่ยนองครักษ์ใหม่
"องครักษ์จวนเจ้าช่างไร้ฝีมือ" เหมือนจะเป็นพยาธิในท้องของนาง รับรู้ได้ราวกับตาเห็น
"ท่านมีเรื่องอันใด หากจะแค่มาทดสอบองครักษ์จวนข้าก็กลับไปได้แล้ว ข้าจะนอน"
"เจ้าต้องไปกับข้า" ไปไหน นางเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย
ท่าทางของนางทำให้ชายชุดดำตรงหน้าถึงกับหายใจสะดุด เสียงร่ำลือที่กล่าวถึงไข่มุกงามในจวนเสนาบดีซูนั้นไม่เกินจริง แววตาของนางที่จ้องมองเขาในคืนที่ตนได้รับบาดเจ็บยังหวนให้นึกถึงทุกคืนวัน
"ข้ามีคนให้เจ้าช่วยรักษา"
"ท่านก็ไปตามหมอสิ ข้ามิใช่หมอเสียหน่อย" ชายคนนี้ท่าจะบ้า นางรักษาให้เขาแล้ว แล้วยังจะให้นางไปรักษาให้คนอื่นอีก
"ต้องเป็นเจ้า หยิบกล่องของเจ้ามาอย่าพูดมาก" เขาถลึงตาใส่นาง
นางเบ้ปากใส่ อย่างหมั่นไส้ จะใช้คนแต่กลับพูดดีไม่ได้ เขาไม่สนใจว่านางจะพอใจหรือไม่ เมื่อนางหยิบกล่องเครื่องมือแพทย์ออกมาเขาก็ดึงกล่องมาถือเอง พร้อมกับรวบเอวนางกระโดดออกจากหน้าต่างไป
ซูเหมยฮวายังไม่ทันได้สงบสติอารมณ์ของตน เขาก็พามาถึงที่เรือนพักแห่งหนึ่งแล้ว
"ข้าจะช่วยท่านแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น" นางทุบเขาไปที อาหารที่กินจากงานเลี้ยงยังไม่ย่อยดีแทบจะออกมาทั้งหมด
"พูดมาก!!! เข้าไปดูคนเจ็บ" มือหญิงสาวที่ทุบมาที่อกนั้นไม่ได้ทำให้เข้ารู้สึกเจ็บ แต่ทำให้เขารู้สึกคันในอกเท่านั้น จนเขาต้องกลบเกลื่อนเป็นตะคอกนางแทน