บทที่ 4 ทวงสินเดิม
บทที่ 4 ทวงสินเดิม
การใช้ชีวิตของเหอหลันฮวาและอาเฟยเป็นไปอย่างราบรื่น ทั้งสองคนทานอาหารที่หลันจิงไปรับมาจากโรงน้ำชาไป๋หลานเท่านั้น แต่โรงครัวของตระกูลเหอยังคงนำอาหารมาให้ปกติ โดยที่ไม่รู้เลยว่าทั้งหมดไม่ได้แตะต้องอาหารพวกนั้นเลย
ยามซื่อ (คือ 09.00 – 10.59 น.) ของวันถัดมา เหอหลันฮวาจูงมือสามีมาที่เรือนใหญ่ด้านหน้า เพื่อบอกกล่าวเสนาบดีเหอนายท่านของจวนและฮูหยินผู้เฒ่าซึ่งเป็นย่าของนาง
“เจ้ามาทำไม ผู้ใดใช้ให้เข้ามาที่เรือนใหญ่” เสนาบดีเหอกล่าวออกมาอย่างเกรี้ยวกราดและไม่พอใจ ที่เห็นบุตรสาวคนโตอยู่กับมารดาของตน
“ท่านพ่อ ข้าต้องการไปจากจวนแห่งนี้พร้อมกับท่านพี่และหลันจิงเพื่อไปเริ่มชีวิตใหม่ แต่ข้ายังมีสินเดิมของท่านแม่ที่มอบให้ข้ายามออกเรือนอยู่ ดังนั้นข้าจึงมาแจ้งบอกล่าวแก่ท่านพ่อและท่านย่าก่อน”
เหอหลันฮวาไม่มีความโกรธหรือเกรี้ยวกราด นางมีท่าทีที่สงบและต่างไปจากทุกครั้ง อีกทั้งยังเรียกอาเฟยว่าท่านพี่นั่นคือสิ่งที่ทำให้คนทั้งหลายตกใจ
“คุณหนูใหญ่ ท่านทำให้จวนตระกูลเหอเสียหน้าขนาดนี้แล้วท่านยังกล้าที่จะมาเรียกร้องสินเดิมอีกเหรอเจ้าคะ”
ฮูหยินรองตู้เหนียงกล่าวขึ้น คิดว่าฮูหยินผู้เฒ่าและเสนาบดีเหอจะเห็นด้วยกับความคิดของนาง
“ข้าเพิ่งรู้นะว่าฮูหยินรองมีสิทธิ์มีเสียงเรื่องสินเดิมของคุณหนูใหญ่เช่นข้า หากจวนอื่นได้ยินคงจะหัวเราะอย่างขบขันเป็นแน่ แม้ว่าข้าจะเป็นคนทำลายวาสนาที่จะได้เกี่ยวดองกับเชื้อพระวงศ์ แต่ข้าหาได้เสียใจไม่ ในเมื่อท่านพี่ของข้าดีกับข้าเยี่ยงนี้
จริงสิ ทำไมท่านพ่อและท่านย่าไม่เรียกร้องเรื่องนี้กับองค์ชายรองเล่าเจ้าคะ ตระกูลเหอของเรายังไงก็ต้องเกี่ยวดองกับองค์ชายอยู่แล้วนี่ หรือว่าไม่จริงเจ้าคะฮูหยินรอง”
เหอหลันฮวาคร้านจะเรียกแม่รองเช่นเดิม นางเลือกที่จะไม่ล้างแค้นด้วยตนเองก็ถือว่าดีพอแล้ว อย่าให้ต้องเรียกแม่รองเป็นที่ระคายปากอีกเลย
“เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าเยี่ยงไร ฮวาเอ๋อร์” ฮูหยินผู้เฒ่าจับใจความคำพูดของหลานสาว จึงได้ถามออกมา
“เรื่องนี้น้องหญิงรองน่าจะรู้ดีที่สุดนี่เจ้าคะ หากท่านย่าให้หลานพูดจะเป็นการใส่ร้ายน้องหญิงรองเสียเปล่า แต่หากท่านย่าไม่เชื่อ ท่านย่าสามารถให้แม่นมตรวจสอบได้นะเจ้าคะว่าน้องหญิงรองนั้นยังบริสุทธิ์อยู่หรือไม่”
เจ้าจะกล่าวโทษข้าไม่ได้นะเหอชิงลี่ ในเมื่อข้าผูกด้ายแดงให้เจ้าแล้ว หวังว่าเจ้าจะได้เป็นชายาขององค์ชายรองอย่างที่ใจเจ้าปรารถนา
ฮูหยินรองตู้เหนียงปากสั่นหน้าซีด พูดคุยเรื่องสินเดิมอยู่ดี ๆ ทำไมจึงกลายมาเป็นเรื่องของบุตรสาวนางได้
“ไปพาตัวคุณหนูรองมาที่นี่เดี๋ยวนี้ ข้าอยากรู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน หากไม่ใช่เรื่องจริง เจ้ารู้ใช่ไหมว่าข้าสามารถฆ่าเจ้าได้”
เสนาบดีเหอโกรธจนตัวสั่น ภายในใจนั้นภาวนาว่าอย่าให้มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีกเลย ไม่เช่นนั้นจวนตระกูลเหอแห่งนี้คงไม่มีหน้าไปพบปะผู้ใดอีกแล้ว
“เจ้าค่ะ หากมิใช่เรื่องจริง ข้ายินยอมที่จะรับโทษ แต่หากเรื่องนี้ตรวจสอบแน่ชัดแล้วว่าข้าพูดจริง ท่านพ่อต้องคืนสินเดิมของท่านแม่ให้แก่ข้าทั้งหมด และข้าจะไปจากที่นี่พร้อมกับสามี บุตรสาวที่แต่งงานแล้วไม่ต่างจากน้ำที่ถูกสาดออกไป ไม่ว่าจะเป็นเช่นไรข้าจะไม่ย่างเท้ากลับมาบ้านเดิมแห่งนี้เพื่อขอความช่วยเหลือเด็ดขาด”
นางสบตาผู้เป็นพ่อไม่ลดละ และยื่นเงื่อนไขให้ นางไม่ต้องการที่จะมีเรื่องกับผู้ใด เพียงแค่อยากได้สินเดิมของท่านแม่คืนเท่านั้นเอง
“ได้สิ ย่ารับปากเจ้า แต่ไม่ว่าอย่างไร จวนตระกูลเหอแห่งนี้ต้อนรับเจ้าเสมอ ให้มันรู้ไปว่าผู้ใดกล้า ในเมื่อยายแก่อย่างข้ายังไม่ตาย”
ฮูหยินผู้เฒ่าเหอมองหลานสาวด้วยแววตาที่อ่อนโยน ไม่ใช่นางไม่รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับหลานสาวคนนี้ว่ามีเบื้องหลัง นางดีใจเหลือเกินที่หลานสาวคิดได้ แม้ว่าอาเฟยจะเป็นเพียงแค่ชายตัดฟืนในจวน เท่าที่นางสอบถามมา อาเฟยเป็นคนดีคนหนึ่งแม้จะไม่ค่อยพูดหรือไม่ค่อยสุงสิงกับผู้ใด
แต่หากเป็นเรื่องของหลานสาวคนโตอาเฟยจะรู้สึกร้อนรนก่อนผู้ใดทั้งหมด ระยะเวลาตั้งแต่เกิดเรื่องไม่ว่าเรือนใหญ่จะกลั่นแกล้งไม่ส่งอาหารเท่าที่ควร แต่อาเฟยยอมที่จะอดเพื่อให้เหอหลันฮวาได้กินอิ่ม สำหรับนางแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
“ขอบพระคุณมากเจ้าค่ะท่านย่า” เหอหลันฮวาตอบกลับอย่างอ่อนโยน อาเฟยเองค้อมหัวเพื่อจะขอบคุณนายหญิงผู้เฒ่าของจวนเช่นกัน
“เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะท่านพ่อ ท่านย่า ทำไมบ่าวไพร่พวกนี้ไปบังคับให้ข้ามาเจ้าคะ” เหอชิงลี่เอ่ยถามเมื่อเข้ามาในห้องโถงของเรือนใหญ่
“ย่ามีเรื่องจะต้องตรวจสอบเล็กน้อย แม่นมชางพาแม่นมหูไปตรวจสอบดูว่าจริงเท็จแค่ไหน”
“เจ้าค่ะนายหญิงผู้เฒ่า”
แม่นมชางและแม่นมหูรับคำก่อนจะพยักหน้าให้สาวใช้พาตัวคุณหนูรองเข้าห้องด้านใน เหอชิงลี่คราแรกไม่รู้ว่าเรื่องอะไรจึงเดินตามไปด้วยท่าทางครุ่นคิด แต่พอรู้ว่าต้องโดนตรวจสอบร่างกายว่ายังบริสุทธิ์หรือไม่ นางจึงกรีดร้องอย่างไม่ยินยอม แค่นี้ทำให้ทุกคนรู้แล้วว่าเรื่องที่คุณหนูใหญ่พูดนั้นเป็นความจริง
เหอหลันฮวายิ้มเย็นส่งไปให้ฮูหยินรองตู้เหนียง ในเมื่อคิดจะฆ่านางคอยดูก็แล้วกันว่าตายทั้งเป็นนั้นเป็นเช่นไร
เพียะ! เสนาบดีเหอตบหน้าภรรยารองสุดแรง เขาเฝ้ารักและเอ็นดูบุตรสาวคนรองมากที่สุดในบรรดาลูกทั้งหมด แม้ว่าเขาจะไม่สามารถให้ตำแหน่งฮูหยินใหญ่ได้ แต่มีคราใดที่เขาไม่ให้เกียรตินาง ทำไมนางจึงเลี้ยงลูกได้ปล่อยตัวขนาดนี้ หากเขาไปเรียกร้องต่อฮ่องเต้ ตำแหน่งที่ได้มาคงเป็นอนุภรรยาเท่านั้น คำว่าชายาคงไม่มีทางได้ แม้แต่คำว่าชายารอง
“เจ้าเลี้ยงลูกได้ดีเหลือเกิน แล้วแบบนี้ข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน เลี้ยงเสียข้าวสุกจริง ๆ” ตอนนี้ใจของเขานั้นเจ็บไปหมด ลูกที่เฝ้าทะนุถนอมกลับสร้างเรื่องงามหน้า
“ท่านพี่ ข้าขอโทษ ข้าผิดไปแล้วเจ้าค่ะ ข้าเลี้ยงลี่เอ๋อร์ไม่ดีเอง ในเมื่อท่านพี่ทราบเรื่องแล้ว ท่าน...ท่านพี่ต้องช่วยลูกนะเจ้าคะ”
ฮูหยินรองตู้เหนียงกล่าวอ้อนวอนทั้งน้ำตา พร้อมจับชายเสื้อของเสนาบดีเหอไม่ปล่อย ในเมื่อเรื่องถูกเปิดเผยนางต้องทำให้บุตรสาวสมหวังให้ได้
เสนาบดีเหอสะบัดชายเสื้อโดนหน้าภรรยายารองของตนจนเกิดรอยแดง พร้อมกับพูดด้วยความโกรธ
“เลิกคิดไปได้เลยว่าบุตรสาวตัวดีของเจ้าจะได้ตำแหน่งพระชายาขององค์ชายรอง หากองค์ชายยอมรับตำแหน่งที่ได้มาก็มีเพียงอนุชายาเท่านั้น”
สร้างเรื่องงามหน้าขนาดนี้แล้วคิดหรือว่าเชื้อพระวงศ์ต้องการหญิงสาวที่สูญเสียความบริสุทธิ์ไว้เชิดหน้าในตำแหน่งพระชายา อีกทั้งพระมารดาขององค์ชายรองคือหลินกุ้ยเฟย พระนางไม่มีทางยอมรับสะใภ้เช่นนี้แน่ ที่สำคัญหากเรื่องนี้หลุดรอดออกไป เขาจะกล้ามีหน้าพบปะกับผู้ใดได้อีก บุตรสาวที่เขาคิดว่าจะเชิดชูตระกูลได้กลับทำเรื่องเสื่อมเสียทั้งคู่
“ท่านย่า หลานลานะเจ้าคะ หากหลานมีเวลาหลานจะกลับมาเยี่ยม”
เหอหลันฮวาก้มกอดเอวผู้เป็นย่า จวนแห่งนี้นอกจากมารดาผู้ล่วงลับและพี่ชายทั้งสองคน คงมีแต่ท่านย่าผู้นี้ที่ดีต่อนางและรักนางด้วยใจจริง
“ไปเถอะหลานย่า ย่ามีความเชื่อว่าอาเฟยย่อมดูแลหลานเป็นอย่างดี จากนี้ไปจงเริ่มต้นใหม่ ย่าขอให้เจ้าทั้งสองคนจงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและรีบมีเหลนให้ย่าอุ้มในเร็ววัน”
ฮูหยินผู้เฒ่ายิ้มอย่างอ่อนโยนให้หลานสาวและหลานเขย หวังเพียงว่าภายภาคหน้านางจะได้อยู่ดูเหลน ๆ เติบโต
เหอหลันฮวามองฮูหยินผู้เฒ่าทั้งน้ำตา เมื่อก้าวเท้าออกจากจวนแห่งนี้ ไม่รู้เมื่อไหร่นางจะได้กลับมาอีก หวังเพียงว่าย่าที่แก่ชราจะอยู่ดีมีสุขและมีอายุยืนยาว