บทย่อ
"มอบใจให้แต่กลับถูกหักหลัง นางเกือบตายด้วยน้ำมือของคนรัก ทว่ากลับรอดมาได้ครั้งนี้นางจะกลับมาแก้แค้นทวงคืนทุกอย่างที่เคยเป็นของนางอย่างไร้ความปราณี จะไม่มีแม้กระทั่งน้ำตาอีกต่อไป ...." ข้าเป็นเพียงสตรีที่รักสามีมากกว่าตนเอง ยอมตาบอดตัดขาดญาติมิตรเพราะเขาเพียงผู้เดียว คำว่ารักที่เขามอบให้ทุกวันการกระทำทุกอย่างล้วนทำเผื่อข้า แต่เหตุไฉนสิ่งที่ข้าเห็นกลับกลายเป็นเพียงสิ่งหลอกลวงแม้กระทั่งคำว่ารักก็เช่นเขา เขามิเคยรักข้าที่เข้ามาหาตระกูลของข้าล้วนเป็นแผนของเขาทุกอย่าง คนที่ลงมือฆ่าท่านพ่อและวางยาข้าคือคนที่ข้ารักหมดหัวใจมิหนำซ้ำก่อนตาข้าจะปิดลง ข้าเห็นสตรีอีกนางที่ข้าจำได้ดียืนอยู่ข้างกายเขาพร้อมเผยรอยยิ้มอย่างพึงพอใจก่อนที่เขาจะสั่งให้คนใช้จัดการพาร่างของข้าไปทิ้งและอุ้มร่างของสหายสนิทของข้าเข้าห้องไปด้วยเสียงหัวเราะอย่างสุขสันต์ ความโชคร้ายของข้ายังพอมีความโชคดีสวรรค์เมตตาให้มีคนพบเห็นข้าและช่วยเหลือข้าเอาไว้ สตรีที่เกือบตายอย่างข้าเมื่อรอดพ้นการตายมาได้ ความรักข้าขอละทิ้งไม่คิดมีอีกและมีสิ่งหนึ่งที่ข้าจะต้องทำต่อจากนี้คือการกลับไปทวงแค้นให้ตระกูลของข้า หากมิเช่นนั้นข้าคงตายตาไม่หลับแม้จะต้องเสี่ยงตายอีกครั้งข้าก็ยอม #นิยานเรื่องนี้แต่งตามจินตนาการของนักเขียนเท่านั้น อาจจะไม่สมเหตุสมผลโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ***เตือน *** นิยายเรื่องนี้นางเอกไม่ได้ดีดั่งดอกบัวขาว เป็นนางเอกที่ยอมและทุกอย่างในการแก้แค้นแม้กระทั่งเอาตัวเข้าแลก หากไม่ชอบแนวนี้เลื่อนผ่านไปได้เลยนะคะ
บทที่ 1 ไร้ความเมตตา
บทที่ 1 ไร้ความเมตตา
ท่ามกลางสายฝนตกโปรยปรายลงมาอย่างกระหนำสตรีร่างบางถูกทำร้ายจนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ทำได้เพียงนอนทรุดตัวลงแนบพื้นดิน หยาดน้ำจากฝนหล่นลงทำให้ร่างกายของนางเปียกชุ่มอาบด้วยเลือดสีแดงฉาดไหลตามพื้น ทุกส่วนในร่างกายแทบไม่เหมือนคนแม้แต่น้อย นางถูกทุบตีจนกระดูกแตกไปหมดยามนี้ลมหายใจของนางกำลังโรยริน ใบหน้าถูกทั้งของมีคมและเหล็กร้อนนาบที่ใบหน้าจนเละไปหมด ร่างบางจ้องมองใบหน้าของคนที่นางรักสุดหัวใจและเป็นคนที่ลงมือทำกับนางเฉกเช่นไม่ใช่คน
“ฮ่า ฮ่า คิดว่าข้ารักเจ้าอย่างที่บอกอย่างนั้นหรือทุกคืนวันข้าต้องพยายามทนอยู่กับสตรีน่าเบื่อหน่ายจืดชืดไร้ชีวิตชีวา มีดีเพียงแค่เป็นบุตรสาวของขุนนางใหญ่เท่านั้นแต่โง่งมซะเหลือเกิน”
“ทะ..ทำไมท่านถึงเอ่ยออกมาเช่นนี้ท่านเป็นคนบอกรักข้า รักข้าเพียงผู้เดียว ความรักที่ข้ามีต่อท่านพี่เป็นเพียงสิ่งไรค่าอย่างนั้นหรือ? ใจของข้ามีเพียงแต่ท่านทุกสิ่งทุกอย่างเพราะข้าไว้ใจท่านจึงมอบให้โดยไม่ได้ไตร่ตรองนึกคิดให้ดี อึก อึก” ร่างบางร้องสะอึกสะอื้นไห้ความเจ็บปวดภายในใจโหมกระหน่ำยิ่งกว่าสายฝนยามนี้เสียอีก
“เพราะความโง่ของเจ้า ไม่ว่าจะเป็นการตัดขาดญาติของเจ้าหรือแม้แต่การตายของพ่อของเจ้าก็เช่นกัน ฮ่า ฮ่า ช่างโง่เง่าทั้งตระกูลแต่เป็นเรื่องที่ดีมันทำให้ข้าไม่เกิดความยุ่งยาก พวกเจ้าจัดการนางเดี๋ยวนี้แล้วเอาศพไปโยนทิ้งที่เหวลึกหลังหมู่บ้าน” แววตาที่เคยอ่อนโยนคำพูดที่เคยแสนหวานกลับไม่มีอยู่อีกต่อไป สายตาที่เขามองดูเธอช่างไร้ไมตรีไม่แยแสแม้แต่น้อย ยามนี้ร่างบางทำได้เพียงกำมือแน่นจ้องมองไปยังบุรุษที่นางมอบหัวใจทั้งใจให้เขายามนี้ราวเป็นปีศาจที่ได้ครอบครองอำนาจทุกอย่าง บ่าวรับใช้ที่เคยรับใช้ตนต่างพากันเชื่อฟังคำสั่งของนายผู้ใหม่ที่ครอบครองเรือนตระกูลจาง ใช้ไม้ทุบตีนางจนนางแน่นิ่งคาดว่านางทนไม่ไหวต้องตายอย่างแน่นอนจึงหยุดลงมือ เปลือกตาที่หนักอึ้งร่างกายไร้ซึ้งความรู้สึกใด ๆ นอกจากเจ็บปวดทุกอณูสายฝนกระหน่ำลงมาแรงมากกว่าเดิม ครั้นสายตาของนางกำลังเลือนลางลงเห็นสตรีนางหนึ่งที่นางคุ้นเคยเป็นอย่างดีนั้นคือสหายของนางกำลังย่างกรายเดินเข้ามาใกล้บุรุษที่เหี้ยมโหดพลางแสยะยิ้มเมื่อจ้องมองมายังนาง
“สภาพดูไม่ได้สักนิดแต่ก็สมแล้วล่ะผู้ใดบอกให้เจ้าโง่กัน ท่านพี่เจ้าคะในเมื่อจัดการกับนางเสร็จสิ้นแล้วอย่าลืมเรื่องที่เราพูดกันไว้นะเจ้าคะ”
“ได้สิไม่ว่าเจ้าต้องการสิ่งใดข้าจะทำให้เจ้าทุกอย่างที่ต้องการ แต่ต้องให้ข้าแสร้งทำเป็นไว้ทุกข์ให้ฮูหยินของข้าเสียก่อนหลังจากนั้นข้าจะแต่งเจ้าเข้ามาเป็นฮูหยินคนใหม่ของข้า แต่ทว่ายามนี้เราเข้าไปที่ห้องนอนกันเถอะฝนตกพรำเช่นนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีจริง ๆ ” บุรุษอุ้มร่างสหายของนางเข้าไปในห้องโดยไม่สนใจจะหันมามองนางด้วยซ้ำ ความเจ็บช้ำที่นางพบเจอกลายเป็นความเจ็บแค้นดวงตาของนางริบรี่ลง ในใจเฝ้าภาวนาอ้อนวอนให้นางรอดและมีชีวิตอยู่ หากนางรอดจากการตายครั้งนี้ได้นางจะกลับมาทวงความยุติธรรมและจัดการคนที่หักหลังพร้อมทั้งทวงทุกอย่างที่เป็นของนางคืนมา
ยามสาม (23.00)
บ่าวรับใช้รีบจัดการกับร่างของหนิงเซียนหรือ จางหลินเซียน บุตรสาวเพียงผู้เดียวของใต้เท้าจางม่านอวี้ แต่เดิมนางเป็นสตรีที่งดงามทุกย่างก้าวเป็นที่โปรดปรานของบุรุษที่พบเห็นแต่ทว่านางกลับมีใจรัก หยางตงฉวน ผู้ที่ท่านพ่อพาเข้ามาในเรือนหลังจากที่พบเจอเขาได้รับบาดเจ็บระหว่างทางที่ออกเดินทางกลับจากวังหลวง หยางตงฉวนเป็นคนขยันขันแข็งและยังมีสติปัญญาที่ดี ใต้เท้าจางจึงรับเข้ามาอยู่ด้วยเขาเป็นเด็กกำพร้าไร้ซึ่งหัวนอนปลายเท้า ความเมตตาของคนตระกูลจางจึงรับมาชุบเลี้ยงและยังส่งไปเล่าเรียนเป็นบัณฑิตและเข้ารับราชการ ใต้เท้าจางเห็นว่าเด็กทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันแม้ว่าหยางตงฉวนจะไม่มีครอบครัวหรือสมบัติแต่ใต้เท้าจางมิได้รังเกียจยอมให้ทั้งสองแต่งงานอยู่ด้วยกัน
หลังจากนั้นมาทั้งสองรักกันชื่นหวานเป็นที่กล่าวขานต่อคนละแวกนั้น จนกระทั่งท่านพ่อของหนิงเซียนจู่ ๆ เกิดไม่สบายร่างกายที่เคยแข็งแรงกลับกลายเป็นเจ็บป่วยไร้การรักษาให้หายขาดและไม่ทราบสาเหตุ ทำให้หนิงเซียนเสียใจเฝ้าคอยดูแลท่านพ่อจนท่านจากไป เรื่องในเรือนทั้งหมดจึงตกเป็นหน้าที่ของนางทันที หนิงเซียนได้รับสมบัติทั้งหมดของใต้เท้าจางโดยมีหยางตงฉวนคอยปลอบใจดูแลอยู่ข้าง ๆ หนิงเซียนเห็นว่าเขารักตนเองและดูแลนางมอบความรักให้นางมาโดยตลอด ท่านพ่อเองก็เอ็นดูเขาราวกับบุตรชายของตนเอง หนิงเซียนจึงยกทุกอย่างที่เป็นของตนเองให้แก่เขาอย่างไรเขาเป็นบุรุษต้องเป็นคนจัดการดูแลตระกูลของนางให้บ่าวรับใช้เกรงขาม
แต่ทว่าหลังจากวันนั้นที่เขาได้สมบัติเป็นของตนเองเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป นิสัยที่อ่อนโอนกลับกลายเป็นโหดร้าย ไม่ว่านางจะทำอะไรให้เขามักชักสีหน้ารำคาญใส่นางบ่อยครั้งปลีกตัวออกไปข้างนอกเสมอ หนิงเซียนยังคงเข้าข้างเขาคิดว่าเขาคงเหน็ดเหนื่อยที่จะต้องแบกรับทำหน้าที่มากกว่า นางจึงทำความเข้าใจในตัวเขามากขึ้นและแล้ว สิ่งที่นางไม่คาดคิดได้เกิดขึ้นเมื่อนางตื่นขึ้นกลางดึก ได้ยินเขาพูดอยู่กับบ่าวคนหนึ่งอยู่ด้านนอก นางค่อย ๆ เดินย่องไปแอบฟัง บทสนทนาทำให้นางตกใจสั่นเทาไปทั้งร่างกาย เมื่อรู้ว่าคนที่นางรักต้องการจัดการนางให้หายไปจากโลกใบนี้ จิตใจของนางแตกสลายไปหมดสิ้น สองเท้าก้าวไม่ออกไร้เรี่ยวแรงน้ำตาแห่งความเสียใจรินไหลออกมาอย่างอดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ ไม่ทันที่นางจะได้เดินกลับไปบนเตียงทำราวกับไม่รู้เรื่องรู้ราวก็ถูกเขาจับได้ แทนที่เขาจะตกใจแต่มิใช่เช่นนั้นเขากลับแสยะยิ้มมุมปากอย่างน่ากลัวจับตัวนางเอาไว้ ก่อนที่จะสั่งให้บ่าวทรมานนาง เพราะเขาเกลียดนางมากเหลือเกิน กว่าที่เขาจะมาอยู่จุดนี้ได้ต้องทนกับนางมามากเพียงใด เขาได้เปิดเผยว่าก่อนที่เขาจะมาอยู่ที่นี่เขาเคยเป็นบุตรชายของตระกูลที่ร่ำรวยแต่ท่านพ่อของหนิงเซียนนำพาทหารไปจับกุมท่านพ่อท่านแม่หากผู้ใดขัดขืนเท่ากับว่าเป็นกบฏให้จัดการฆ่าทิ้งในทันที วันนั้นเขาถูกนำตัวไปซ่อนไว้จึงรอดมาได้ โชคชะตาเข้าข้างให้เขามีชีวิตรอดและกลับมาแก้แค้นคนตระกูลจาง แต่ทว่านั้นคือความเข้าใจผิดของเด็กชายที่มีอายุเพียงเจ็ดปี ท่านพ่อท่านแม่ของเขาร่วมมือก่อการกบฏจริง ๆ ในตอนนั้นเขาเป็นเพียงเด็กทำได้เพียงจดใจใบหน้าของคนที่สั่งการให้ลงมือสังหารท่านพ่อท่านแม่ของเขาขึ้นใจนั่นก็คือใต้เท้าจางม่านอวี้