5
“กรี๊ดดดด!!!”
“เอวา!!!!”
ปัง!!! ปัง!!!! เสียงกระสุนสองนัดดังขึ้นก่อนที่จะเห็นมือปืนที่จะยิงเธอล้มลงโดยที่เธอถูกมาเฟียที่มาทันเวลากระชากไปหลบที่ด้านหลังของเขา
“ออกมาทำไม!”
“พี่แบล็ค!!!!”
“เธอนี่มัน…”
“แขนพี่เลือดออกเต็มเลย ทะ…ทำยังไงคะ”
“พานายเข้าห้องเร็ว!!”
แบล็คถูกพาเข้าห้องพัก ก่อนนอนพิงหลังกับเตียงโดยที่แขนเลือดไหลทะลักไม่หยุด
“ตะ..ต้องทำยังไง วาต้องทำยังไงคะ เลือดพี่ไหลไม่หยุดเลย”
เอวาที่ร้อนลนเมื่อเห็นมาเฟียหนุ่มบาดเจ็บเพราะช่วยเธอ เสื้อถูกถอดออกจนเผยร่างแกร่ง เหงื่อที่ผุดออกมาทั่วใบหน้าและลำตัวเพราะเขาเริ่มเสียเลือด
“อย่าดู”
“แต่เลือดพี่ออกเต็มเลย วาทำอะไรได้บ้าง พี่ไปหาหมอมั้ยคะ” แบล็คที่พยายามปิดตาของเอวาเพราะไม่อยากให้เธอเห็นแผลที่เขาถูกยิง
“ไม่เป็นไร ทำแผลหน่อยก็หาย เธอไม่ต้องตกใจไป”
“แต่….”
“ฉันไม่ตายง่ายๆหรอก”
ไม่นานหมอถูกตามตัวมาก่อนะริ่มทำแผลมห้มาเฟียหนุ่ม โชคดีที่กระสุนไม่ฝังใน แค่ก็ทำแขนเนื้อเปิดจนต้องเย็บเช่นกัน
“คุณแบล็คพักผ่อนเลยครับ ผมฉีดยาให้แล้ว คืนนี้อาจจะมีไข้สักหน่อย ระวังอย่าขยับแขนมากนะครับเดี๋ยวแผลจะฉีก”
“อืม”
เอวาที่ยืนมองด้วยสายตากังวลก็ทำให้มาเฟียหนุ่มกดยิ้ม
“เป็นห่วงหรือไง”
“เป็นห่วงค่ะ”
“แค่นี้ ฉันก็อยากจะหายแล้ว”
“อะไรของพี่คะ”
“เดี๋ยวฉันให้ลูกน้องไปส่งเธอกลับหอ”
“แล้วพี่ละคะ จะไม่ไปโพยาบาลจริงๆเหรอ”
“หมอเพิ่งตรวจเสร็จไง จะไปทำไมอีก”
“งั้นพี่ก็นอนไปเลยซิคะ เดี๋ยววาอยู่เป็นเพื่อน เผื่อพี่ไข้ขึ้น”
“เธอกลับไปเถอะ ที่นี่อันตราย”
สุดท้ายเอวาก็ออกจากโกดังนั่นมาพร้อมลูกน้องคนสนิทของมาเฟียหนุ่มเพื่อกลับหอ
“พี่คะ พี่แบล็คไม่ไปโรงพยาบาลแบบนี้จะไม่เป็นอะไรเหรอคะ” เอวาเอ่ยกับลูกน้องคนสนิทของมาเฟียหนุ่มในขณะที่เขากำลังขับรถพาเธอกลับไปส่งที่หอ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณหมอเอเป็นหมอประจำตัวนายมานาน ดูแลนายไม่ให้อันตรายได้ครับ”
“แต่นั่นแผลถูกยิงนะคะ”
“ครับ นายไม่ค่อยอยากให้คุณผู้หญิงเป็นกังวลมากด้วยครับ เลยไม่อยากให้ใครรู้เยอะ”
“อ่อ”
“คุณเอวาก็อย่าเพิ่งบอกคุณหนูพิงค์นะครับ”
“อ่อ ไม่บอกหรอกค่ะ”
เอวาคิดในใจว่าจะให้บอกยังไง หากบอกไป พิงค์ต้องรู้แน่ๆว่าเธออยู่กับพี่ชายตัวเองจนดึกดื่นแบบนี้
หลังจากกลับมาถึงหอ เอวาเดินวนไปวนมา มือพรางถือโทรศัพท์กำลังคิดว่าจะโทรไปหาแบล็คดีหรือไม่ แต่ตอนนี้เขาอาจจะพักผ่อนและหลับสนิทไปแล้ว เธอไม่ควรกวนเขา
เช้า
เอวาที่เตรียมทำเรื่องเพื่อขอพักการเรียนชั่วคราวก็เตรียมตัวมาแต่เช้าเพื่อติดต่องานทะเบียน เธอได้ข่อมูลเพื่อตัดสินใจในการหยุดพัก ก่อนที่จะเดินออกมาที่ด้านหน้าตึกคณะและเห็นพิงค์ที่เพิ่งมาเรียนโดยที่มีรถคันหรูมาส่ง
“เอวา”
เอวาขมวดคิ้วไม่น้อยเมื่อเห็นมาเฟียหนุ่มเดินลงจากรถด้วยท่าทางนิ่งๆพรางถือของมาส่งพิงค์ทั้งที่เมื่อคืนเขาถูกยิงจนเดี้ยงนอนหมดแรงอยู่บนเตียง แต่ทำไมเช้านี้เขากลับดูปกตินัก
“นึกว่าขับรถมาเอง”
“พิงค์ไม่ค่อยสบายน่ะ เลยให้เฮียมาส่ง”
“อ่อ”
“เดี๋ยวเลิกเรียนแล้วโทรหาเฮียนะครับ”
“ค่ะ ถ้าเฮียไม่ว่างเดี๋ยวหนูให้คนขับรถคุณพ่อมารับก็ได้” พิงค์เอ่ย
“ยังไงก็โทรหาเฮียก่อนครับ”
“ค่ะ หนูถือของเองค่ะเฮีย อ๊ะ!”
พิงค์ที่รับหนังสือจากมือพี่ชายแต่กลับหลุดมือจนมาเฟียหนุ่มต้องก้มตัวทันทีเพื่อคว้าหนังสือ นั่นทำให้เขาแสดงสีหน้าไม่ดีออกมาจนเอวาสังเกตุได้
“หนูไปเรียนก่อนนะคะเฮีย”
“โอเคครับ”
แบล็คที่ค่อยๆเดินนิ่งๆกลับขึ้นรถไปทันที มันทำให้เอวามองตามเขาจนกระทั่งขับรถออกไป ตอนนี้ในหัวสมองเธอมีแต่ภาพสีหน้าที่ไม่ค่อยดีของมาเฟียหนุ่มวนเวียนจนเรียนไม่ได้
ขาเรียวกึ่งเดินกึ่งวิ่ง เมื่อเธอแยกกับพิงค์ที่คลาสเรียนแรก และออกจากมหาลัยทันทีก่อนจะมาหยุดที่หน้าคอนโดหรูของมาเฟียหนุ่ม เธอขมวดคิ้วเมื่อเห็นรถคันนึงกระจกใสจนเห็นคนขับ เธอจำได้ว่านั่นคือหมอเอที่เป็นคนทำแผลให้แบล็คเมื่อคืนที่โกดัง หลังจากนั้น เธอติดต่อที่เคาท์เตอร์และที่นั่นก็จำเธอได้เพราะเป็นคนที่มาเฟียหนุ่มอนุญาตให้ขึ้นไปพร้อมคีย์สำรองตลอดเวลา แต่เอวากลับไม่ได้รู้ตัวแถมยังงงว่าทำไมเธอถึงได้คีย์ห้องเขาง่ายๆ ทั้งที่คอนโดราคาแสนแพง แต่ทำไมอนุญาตอะไรง่ายๆแบบนี้
เมื่อเข้ามาด้านใน เอวาเดินไปรอบๆปรากฏว่าแบล็คอยู่ที่นี่จริงๆ เธอเห็นกระเป๋าเงินใบเรียบหรูของเขาวางอยู่พร้อมปืนอีกกระบอกและสมาร์ทคีย์รถหรู
เมื่อเห็นว่าไม่มีร่างแกร่งของมาเฟียหนุ่ม เธอจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปในห้องนอนก่อนจะเห็นร่างแกร่งที่ปลดกระดุมเสื้อสีดำสนิทถึงกลางอกพรางหลับ
เอวาค่อยๆก้มหน้าลงไปมองใบหน้าหล่อเหลาของมาเฟียหนุ่มใกล้ๆ
“อ๊ะ!”
“จะปล้ำฉันหรือไง”
มาเฟียหนุ่มที่ถือสิสาสะกอดหญิงสาวลงมาจนนอนบนเตียงก็เอ่ยขึ้น
“เปล่าสักหน่อยค่ะ”
“แล้วเธอมาทำไม”
“วาเห็นพี่ทำท่าเหมือนเจ็บตอนที่พิงค์ทำหนังสือหล่น อีกอย่างวาเห็นหมอเอเพิ่งออกจากคอนโดพี่ด้วย แผลฉีกเหรอคะ หรือเป็นอะไรคะ”
“เป็นห่วง?”
“แสดงว่าพี่แผลฉีกจริงๆด้วย ขอวาดูหน่อย”
“จะดูทำไม”
“เจ็บมากมั้ยคะ”
“ถ้าฉันบอกว่าเจ็บ เธอจะทำยังไง”
“เดี๋ยววาเอายาให้กินค่ะ”
“ฉันมีหมอส่วนตัวคอยจัดยาให้อยู่แล้ว”
“พี่จะเอาอะไรคะ”
“อยู่กับฉันก่อน”
“ค่ะ”
ตลอดทั้งบ่าย เอวาท่าไม่ได้มีสถานะแฟนหรืออะไรกับมาเฟียหนุ่ม กลับนั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่างยิ่งกว่าแฟนเสียอีก
“พี่อักเสบแผลมั้ยคะ”
“อืม”
“ตัวร้อนจัง”
เอวาที่พยายามจะเช็ดตัวให้มาเฟียหนุ่มก็ต้องหน้าแดงเมื่อช่วยเขาถอดเสื้อออกจนหมด ร่างแกร่งขาวเนียนมัดกล้ามเนื้อลอนสวยนั่นได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
“ถ้าเธอยังไม่เลิกมองหน้าท้องฉัน ฉันจะเอาหน้าไปมองหน้าท้องเธอใกล้ๆบ้างนะ”
“อะ..อะไรคะ”
“อยากกินยา อยากหายไวๆ”
“เดี๋ยววา อ๊ายยยยย”
มาเฟียหนุ่มอุ้มหญิงสาวขึ้นก่อนพาเธอคร่อมตัก ไหล่ข้างที่เจ็บยังคงระบมหนัก เขารั้งใบหน้าของเธอก่อนจะกดจูบอย่างดูดดื่ม
“ไหนพี่บอกจะกินยาไง”
“เธอไงยาฉัน ตอนแรกจะนอนเป็นผักนึ่งอยู่แล้ว ได้กลิ่นเธอแล้วฉันตั้งสู้ไปหมดเลย”
“พะ..พี่แบล็ค อื้อออ”
แรงจูบนั้นเหมือนกระชากวิญญานออกจากร่างของหญิงสาว ความสัมพันธ์นี้ที่ไม่มีใครรู้ ว่ากำลังเกิดบางอย่างกับคนสองคนขึ้น และจุดเริ่มต้นที่แทบไม่มีใครรู้ว่าทำไมมาเฟียหนุ่ม ถึงตามติดหญิงสาวที่เป็นเพื่อนของน้องสาวตัวเองแบบนี้
“เธอเป็นของฉัน”
“ว่าไงนะคะ อื้อออ วาไปเป็นของพี่ ตะ…ตอนไหน”
“อืมมมม”
จู่ๆมาเฟียหนุ่มก็ชะงักเมื่อถูกมือเล็กกุมเข้าที่จุดยุทธศาสตร์
“ถ้าเธอบีบไข่ฉัน ฉันจะกระแทกเธอให้หมดลูกพังเลยคอยดู”
“พี่ปล่อยวาก่อนซิ”
“ไหนๆก็จับแล้ว เอาซิ เอาให้ถนัดมือ!”
“ว๊ายยยพี่แบล็ค ทะลึ่ง!”
เอวาที่ถูกแบล็คกระชับมือเข้าที่เป้าจนจับเข้ากับมังกรตัวโตที่แข็งตระหง่านก่อนเธอจะดีดตัวลุกขึ้น
“นึกว่าจะแน่”
“ทำไมพี่ทะลึ่งแบบนี้คะ งั้นวากลับแล้วจริงๆนะ”
“เป็นห่วงถึงขั้นกับต้องหนีเรียนมาดูแบบนี้ เธอจะกลับเลยได้หรือไง”
“วาไม่ได้หนีเรียน แต่วาจะดรอปแล้วต่างหาก”
“มานั่งนี่”
“ทำไมคะ”
“มาเถอะ จะคุยด้วย”
เอวายอมเดินไปนั่งใกล้ๆแบล็คอีกครั้งแต่สายตาก็ยังรงมองต่ำลงไปที่เป้าตุงๆของเขาไม่หยุด
“เลิกมองเป้าฉันได้แล้ว หรืออยากเล่นมังกรฉัน จะได้พาออกมาให้เล่น”
“เปล่าสักหน่อย”
“บอกสาเผตุฉันมา ว่าทำไมเธอต้องดรอปเรียน”
“จะรู้ไปทำไมคะ”
“ถ้าเธอลีลาไม่ตอบอีกที ฉันจะเอาเธอให้ฟ้าเหลืองแล้วนะ”
“!!!!!!!!”