ตอนที่ 4
คำพูดของธารนทีทำให้สิรินาฏชำเลืองสายตาไปหา กิริยานั้นทำให้จอมพักตร์ลอบผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ
“นี่พิณทิยาครับ..นี่คุณธารนที คุณสิรินาฏแล้วก็..”
เขามองสบตาของเธอนิดหนึ่ง
“คุณจอมพักตร์..”
หญิงสาวยิ้มเย็นเมื่อเขาเรียกชื่อของเธออกมา ก่อนจะสอดมือไปกอดแขนพี่ชายเอาไว้แน่น
“ไปเถอะค่ะ...”
เธอเอ่ยออกมาเบา ๆ แล้วเดินนำหน้าพี่ชายและสิรินาฏออกไปยังรถด้วยหัวใจที่เต้นแรง
“แล้วพบกันนะครับ..”
ธารนทีหันไปค้อมศีรษะให้ธีฌาพร้อมกับมองหน้าที่สวยคมของพิณทิยา ก่อนจะวางฝ่ามือแตะที่เอวกลึงของสิรินาฏเบา ๆ เมื่อเดินออกไปที่รถ
“แล้วผมจะไปพบที่ทำงานนะครับ..”
ธารนทีเปิดประตูให้สิรินาฏก่อนจะปิดลงแล้วก้าวไปยืนอยู่ใกล้ ๆ เธอ ที่แอบชำเลืองสายตากลับขึ้นไปมองคู่หมั้นของตัวเองในร้านอาหารที่เขาไม่เคยจะหันมามองเธอเลย
“เด็กสาวคนนั้นหรือคะ คู่หมั้นของคุณ..”
เมื่อคล้อยหลังทั้งสามคน พิณทิยาก็หันไปมองหน้าเขา สังเกตดูสายตาของเขาที่มองตามร่างบางระหงของเธอไป
“เพียงแค่สวยนี่ก็คงจะกินขาดหมดทุกตำแหน่งแล้วล่ะสิคะ..”
เจ้าหล่อนยิ้มเหยียดเมื่อนึกถึงใบหน้ารูปไข่เรียวสะอาดของเธอ นัยน์ตาหวานสดใสเป็นประกายดูซุกซน
“สวย หวาน อ่อนโยน ดูเปราะบางน่าทะนุถนอม ผู้หญิงแบบนี้ เอาชนะหัวใจของผู้ชายได้ทุกประเภทไม่ว่ายุคสมัยไหน..”
เจ้าหล่อนลอบผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ
“รักเธอมากหรือคะ..”
“ครับ..”
เขาตอบโดยไม่ต้องคิดนาน ยิ่งทำให้เจ้าหล่อนยิ่งเจ็บปวดเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า แม้จะมีผู้ชายเรียงหน้ากันมาให้หล่อนได้เลือก แต่ก็ไม่มีใครสักคนที่จะถูกใจหล่อนได้เท่าเขา จนบางครั้งหล่อนเคยคิดว่า หากจะหยุดอยู่กับใครสักคน หล่อนจะขอหยุดอยู่ที่เขาคนนี้ แต่ก็ต้องผิดหวังจนได้
จอมพักตร์กลับมาบ้านในตอนเย็น เธอนั่งเงียบ นิ่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ในใจของเธอกำลังคำนึงถึงเขาคนนั้น เขาดูเหมือนไม่ใส่ใจเธอแม้แต่นิดเดียว ตรงข้ามกับผู้หญิงที่สวยโสภาคนนั้น ดูเขาเอาอกเอาใจหล่อนจนออกนอกหน้า
“เป็นอะไรไปหรือลูก..นทีบอกพ่อว่าวันนี้พบกับธีฌาเขาที่ร้านอาหาร..”
เธอถอนใจยาวเมื่อพ่อนั่งลงใกล้ ๆ
“เขาคงจะมีคนรักอยู่แล้วนะคะพ่อขา..”
“จะถอนหมั้นหรือลูก..”
เธอนิ่งคิดไปนานกว่าจะมองหน้าพ่อ
“ยังหรอกค่ะ..”
เธอรีบปฏิเสธทันที ทำให้นายวีระยุทธ์เปล่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างสุขใจ
“คุณพ่อก็..ไม่ใช่อย่างที่คิดสักหน่อย เพียงแค่พักตร์ว่ามันไม่สมเหตุสมผล เพียงแค่ได้พบเขามากับผู้หญิงคนหนึ่ง ก็เท่านั้น”
เธอรีบก้มหน้าลง
“พ่อหาสิ่งที่ดีที่สุดให้หนูแล้วนะลูก..เขามีค่ามากแค่ไหนอยู่ที่ใจของลูก..ในเมื่อเขาเป็นสมบัติที่มีค่าของหนู แล้วทำไมจะปล่อยให้เขาหลุดลอยไปอยู่ในมือของคนที่ไม่ใช่เจ้าของล่ะลูก..”
เธอมองสบตาของพ่อแล้วนิ่งเงียบไปนาน กว่าจะยอมเงยหน้ามาหา
“แต่ดูเหมือนว่า พักตร์จะไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาเลย..”
นายวีระยุทธ์ยกมือลูบศีรษะเล็กของเธอเบา ๆ
“พักตร์อยากใกล้ชิดเขา เรียนรู้นิสัยเขา..”
“ทำยังไงล่ะลูก..”
“เขาจะมาหาพักตร์ไหมคะ..”
“คงไม่..”
“แล้วเราจะหมั้นกันนานไหมคะกว่าจะแต่ง..”
“ไม่มีกำหนดหรอกลูก..อยู่ที่ลูกทั้งสองคนจะตกลงกัน..”
เธอถอนใจยาว
“แล้วพักตร์จะใกล้ชิดจะรู้นิสัยใจคอเขาได้ยังไงหากเขาไม่มาหา..”
“ก็ไปหาเขาสิลูก..”
“คุณพ่อคะ..”
นายวีระยุทธ์ยิ้มเย็น
“ไม่มีข้ออ้าง แล้วพักตร์ก็ไม่มีความจำเป็นจะไปพบเขาด้วย..”
“ทำไมล่ะลูก ทำไมจะไปพบเขาไม่ได้ ไปคุยกับเขา นัดทานข้าวด้วยกัน ไปชอบปิ้ง ไปเที่ยว..”
“พักตร์ไม่กล้าค่ะ..”
“ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องหาวิธีที่เหมาะสม..”
“แบบไหนล่ะคะ..”
นายวีระยุทธ์นิ่ง
“ต้องคิดเองนะลูก..พ่อได้ทำหน้าที่ของพ่อแล้ว..”
เธอมองหน้าพ่อของเธออีกครั้งอย่างครุ่นคิด แล้วความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในสมองของเธอ
“งั้น..พ่อต้องช่วยพักตร์นะคะ..พักตร์หาวิธีเข้าใกล้เขาได้แล้ว..”
นายวีระยุทธ์พยักหน้าช้า ๆ
“ไม่มีปัญหาหรอกลูกพ่อ..บอกพ่อมาสิจะให้ช่วยยังไง..”
“ฝากพักตร์เข้าทำงานกับเขา..”
นายวีระยุทธ์ขมวดคิ้วมุ่น
“ตำแหน่งงานของเขาว่างหรือลูก..พนักงานไม่เห็นมีใครลาออกสักคน..แน่นไปหมด..”
เธออมยิ้ม
“แต่ถ้าคุณพ่อฝากพักตร์กับคุณลุงสุวพงษ์แล้วให้คุณลุงสุวพงษ์มอบพักตร์ให้เขา..ก็ไม่น่ามีปัญหานี่คะ..”
“ยังไงหรือลูก..”
“แค่คุณพ่อยอมรับปากเท่านั้นพอค่ะ..พักตร์จัดการเอง..”
นายวีระยุทธ์ยิ้มกว้างก่อนจะยกมือไปเขย่าศีรษะภายใต้เส้นผมยาวสยายเป็นเงางามและนุ่มสลวยของเธออย่างเอ็นดูรัก
“เอายังไงก็เอาลูกพ่อ..”
เธอฉีกยิ้มหวานออกมา..เมื่อคิดถึงแผนการหนึ่งขึ้นมา หลังจากนั้นก็เริ่มเตรียมการที่จะเข้าไปอยู่ใกล้ ๆ เขา สอดส่องพฤติกรรมของเขา
เธอตั้งใจว่า หากเขาไม่เป็นที่พอใจของเธอ เธอจะถอนหมั้นเขาทันที จะไม่ยอมเข้าพิธีกับผู้ชายที่ดีแต่เปลือกอย่างเด็ดขาด