ตอนที่ 1
ตอนที่ 1
หญิงสาวในชุดเดรสสีขาวสะอาดตากำลังหมุนตัวไปมาอยู่ที่หน้ากระจก วันนี้เป็นวันที่เธอจะต้องไปเจอกับไตรทศพร้อมกับลูกชายของเขา ตั้งแต่รู้ว่าตัวเองจะต้องไปแต่งงานกับลูกชายของไตรทศ ก็ทำเอาเธอวิตกกังวลแทบทุกวัน เธอหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวของชายหนุ่มที่จะแต่งงานด้วย ก็แทบอยากจะกลับคำพูดที่เธอเคยตกลงเอาไว้
ลูคัส ชายหนุ่มที่เก่งกาจด้านธุรกิจ เป็นที่ยอมรับในแวดวงธุรกิจในขณะที่อายุเพียงหลักยี่สิบ เขาเก่งเหมือนพ่อหรืออาจจะเก่งกว่าผู้เป็นพ่อของเขาด้วยซ้ำ เรื่องผู้หญิงของชายหนุ่มก็ใช่ย่อย ยิ่งเขาเปิดไนต์คลับเป็นของตัวเอง ก็มีผู้หญิงรายล้อมอยู่รอบตัวเขาเต็มไปหมด ร่างเล็กถอนหายใจออกมาเมื่อได้รับรู้ข้อมูลบางส่วนของลูคัสจากเพื่อนสนิท
ก๊อกๆ ๆ หญิงสาวเดินไปเปิดประตูก็พบกับพ่อและแม่
“แม่จะให้มีอาตัดสินใจอีกครั้ง ถ้าลูกไม่อยาก..”
“มีอาตัดสินใจดีแล้วค่ะ” หญิงสาวไม่รอให้แม่พูดจบประโยค เธอรู้ว่าทุกคนต่างเป็นกังวลกับเรื่องนี้
“งั้นเราไปกันเถอะลูก” หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนจะหยิบกระเป๋าคู่ใจมาไว้ในมือ รถยนต์แล่นไปยังถนน มุ่งหน้าไปยังที่นัดหมาย ดวงตากลมโตเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ในหัวของเธอว่างเปล่า เธอไม่รู้ว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น แต่เธอรู้สึกได้ ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้ ไม่ใช่เรื่องดีแน่
.....................................
ร่างกำยำสวมเสื้อสีดำตัวโปรดด้วยท่าทางสบายใจ ผิวขาวขับใบหน้าของเขาให้ดูโดดเด่นราวกับเจ้าชาย สายตาดุดันจ้องมองไปยังรูปของว่าที่เจ้าสาวในอนาคตที่วางอยู่บนโต๊ะ เขาแสยะยิ้มออกมาเล็กๆ ก่อนจะฉีดน้ำหอมจนทั่วตัว
มีอา ลูกสาวเจ้าของบริษัทผ้าไทย ที่ตอนนี้ตกมาเป็นของครอบครัวเขาเสียแล้ว เพิ่งเรียนจบจากมหาลัย และตอนนี้กำลังตกอับ เลยต้องมาแต่งงานกับเขาเพื่อที่จะเอาบริษัทของตัวเองคืน นั่นคือข้อมูลที่เขารับรู้มาจากลูกน้องคนสนิท
ก๊อกๆ ๆ
“ป้าเองค่ะคุณหนู” เมื่อได้ยินเสียงเรียกชายหนุ่มก็รับรู้ได้ว่าผู้เป็นพ่อคงส่งป้านันทามาตามเขาเป็นแน่
“ผมกำลังจะลงไปครับ” เขาหยิบเสื้อคลุมและกุญแจรถมาไว้ในมือ ก่อนจะเดินลงไปด้านล่างทันที ตอนนี้เขาชักรู้สึกสนุกขึ้นมาซะแล้วสิ
“หวังว่าแกจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังนะ” ไตรทศเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นหน้าลูกชาย
“ผมเองก็ไม่รับปาก เอาเป็นว่าผมจะทำให้ดีที่สุดละกัน” ลูคัสส่งยิ้มกวนประสาทไปให้คนตรงหน้า
“จะได้เวลานัดแล้ว ออกเดินทางกันเถอะ” ไตรทศบอกก่อนจะเดินนำออกไป ชายหนุ่มเดินตามไปติดๆ ก่อนจะเดินแยกไปที่รถคู่ใจของตัวเอง แล้วขับตามรถผู้เป็นพ่อไปติดๆ
ร้านอาหาร All Cus
ไตรทศเดินลงจากรถก่อนจะมองไปยังรถของลูกชายที่ขับเข้ามาจอดข้างๆ
“จะนัดสาวมาให้ผมทั้งทีก็น่าจะนัดที่ที่ดีกว่านี้นะครับ” เขาเอ่ยบอกทันทีที่เดินลงจากรถ ร้านอาหาร All Cus เป็นร้านอาหารของครอบครัวเขา ซึ่งจัดอยู่ในร้านระดับห้าดาว ที่นี่ดูแลโดยมาคัส ลูกชายอีกคนของเขา
“ฉันจะถือว่าไม่ได้ยินสิ่งที่แกพูดนะ” ไตรทศเดินนำเข้าไปด้านใน ก่อนจะเข้าไปนั่งในห้องอาหารที่จัดเตรียมไว้อย่างดี
“หลังจากตกลงเรื่องงานแต่ง พ่อแม่ของหนูมีอาจะเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศทันที ฉันจะให้แกกับหนูมีอาเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และแกก็ทำตัวให้มันดีๆด้วยล่ะ”
“ให้ผมคอยป้อนข้าวป้อนน้ำเธอเลยไหมล่ะครับ พ่อถึงจะพอใจ”
“หนูมีอาเธอเป็นเด็กดี อย่าทำร้ายจิตใจเธอเด็ดขาด”
“ผมบอกแล้วไงครับว่าผมไม่รับปาก” ไตรทศส่ายหัวไปมาอย่างเหนื่อยใจ
ก๊อกๆ ๆ ประตูเปิดออกเผยให้เห็นร่างของชายหญิงวัยกลางคนที่เดินเข้ามา ทั้งสองยกมือไหว้ไตรทศอย่างนอบน้อม
“เชิญเลยครับคุณทัศนัย คุณมัสยา”
“ขอบคุณมากครับคุณไตรทศ”
“นี่ลูคัส ลูกชายของผมครับ” ชายหนุ่มยิ้มตอบกลับเมื่อถูกแนะนำตัวโดยผู้เป็นพ่อ
“สวัสดีครับ คุณทัศนัย คุณมัสยา”
“คุณลูคัสโตขึ้นเยอะเลยนะคะ เห็นคราวก่อนยังเป็นเด็กเล็กๆอยู่เลย” มัสยาเอ่ยขึ้นเพื่อคลายบรรยากาศให้ผ่อนคลายลง
“แล้วหนูมีอาล่ะครับ” ไตรทศว่าพลางมองหา
“แกขอไปเข้าห้องน้ำค่ะ เดี๋ยวก็คงมาแล้ว”
ก๊อกๆ ๆ
“ขออนุญาตค่ะ” เสียงใสๆดังเข้ามาในห้องก่อนจะปรากฏร่างของเธอ ร่างสูงหันไปยังต้นเสียงก็พบกับร่างเล็กในชุดสีขาว เธอดูราวกับตุ๊กตาที่ถูกปั้นมาอย่างประณีต ถึงแม้จะเคยเห็นในรูปถ่ายแล้ว แต่ตัวจริงเธองดงามยิ่งกว่ามาก
“ขอโทษที่มาช้านะคะ” เธอเอ่ยขอโทษก่อนจะมองไปยังชายหนุ่มที่นั่งอยู่ ทั้งสองสบตากันเพียงครู่ ก่อนที่หญิงสาวจะเป็นคนหลบสายตานั่นเอง ชายหนุ่มดูดีกว่าในรูปเป็นเท่าตัว ร่างกำยำกับผิวขาวชวนมองทำเอาเธอใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เธอไม่รู้ว่าเธอตื่นเต้นหรือว่าอะไรกันแน่ แต่ตอนนี้หัวใจของเธอมันแทบจะเด้งออกมาข้างนอกอยู่แล้ว
“นี่หนูมีอา ลูกสาวของคุณทัศนัยกับคุณมัสยา” หญิงสาวยกมือไหว้ก่อนจะก้มหน้าเล็กน้อย
“พวกเราต้องขอบคุณคุณไตรทศมากนะคะ ที่รับซื้อบริษัทของพวกเราไว้ เราไม่รู้ว่าจะตอบแทนยังไงดี”
“ผมเองก็เป็นลูกค้าที่ชื่นชอบการตัดเย็บผ้าไทยของบริษัทคุณ และผมเองก็เอ็นดูหนูมีอาเป็นอย่างมาก ผมต่างหากต้องขอบคุณ ที่หนูมีอายอมแต่งงานกับลูคัสลูกชายผม ส่วนเรื่องบริษัท ไว้ให้ทั้งสองศึกษาซึ่งกันและกันก่อน ไว้แต่งงานเมื่อไหร่ ผมจะยกบริษัทให้พวกคุณคืนทันที” ร่างเล็กมองหน้าชายผู้มีพระคุณก่อนจะยิ้มออกมา พลางเธอมองไปยังชายหนุ่ม สีหน้าของเขากลับเรียบเฉยจนเธอไม่สามารถคาดเดาจิตใจของเขาได้
“ระหว่างนี้ ผมขอหมั้นหนูมีอาไว้ก่อน” ไตรทศหยิบกล่องแหวนสองกล่องขึ้นมา ก่อนจะส่งมันไปยังลูคัสและมีอา
“นี่เป็นแหวนหมั้น ไว้ทั้งสองพร้อมเมื่อไหร่คงจะได้เปลี่ยนเป็นแหวนแต่งงาน” ลูคัสเก็บแหวนใส่กระเป๋าก่อนจะยิ้มออกมา
“หวังว่าเราจะได้อยู่เรียนรู้กันไปนานๆนะครับ” เขาว่าพลางจ้องมองไปยังร่างเล็ก บรรยากาศภายในห้องอาหารเริ่มดูตึงเครียดขึ้นมาในทันที
“ลูคัส” ไตรทศเอ่ยเรียกชื่อลูกชายเสียงเข้ม
“ผมก็แค่พูดเฉยๆ ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” เขายังคงพูดพร้อมรอยยิ้มกวนประสาทบนใบหน้า
“มีอาว่าเราทานอาหารกันเถอะค่ะ” หญิงสาวตัดบท
“ก็ดีครับ ผมชักจะหิวแล้วสิ” ลูคัสตอบกลับก่อนทั้งหมดจะเริ่มทานอาหาร บรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัด หญิงสาวเองรับรู้ได้ว่าชายหนุ่มไม่ต้องการแต่งงานกับเธอ ทั้งสีหน้าและท่าทางกวนประสาทนั่นทำให้เธอรู้สึกไม่ดีนัก
“อาหารที่นี่อร่อยไหมครับ” ลูคัสถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ ก่อนจะเอ่ยต่อ
“ทานเยอะๆนะครับ ถ้าทานน้อยไปจะไม่อิ่มเอาได้” น้ำเสียงเชิงประชดประชันพร้อมรอยยิ้มของเขาทำเอาทุกคนต่างมองเขาเป็นตาเดียว
“คุณลูคัสทำงานเป็นยังไงบ้างคะ” มัสยาเปลี่ยนเรื่องทันที เธอเองก็รับรู้ได้ว่าชายหนุ่มไม่พอใจสักเท่าไหร่
“ก็ดีนะครับ ผมสนุกกับการทำงาน มันทำให้รู้ว่าเงินแต่ละบาทมันหายากขนาดไหน”
“ลูคัส!!” ไตรทศกัดฟันเรียกลูกชาย แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดง่ายๆ
“แต่กลับบางคน กลับใช้วิธีง่ายๆในการหาเงิน” เขาพูดพลางจ้องไปที่หญิงสาวด้วยสายตาที่เย็นชา ความเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะ ไตรทศพยายามรั้งลูกชายไม่ให้พูดจาแย่ไปกว่านี้อีก
“เอาเป็นว่าไว้ทั้งสองพร้อมแต่งเมื่อไหร่ เราจะกลับมาคุยกันอีกทีนะครับ”
“งั้นพวกเราไม่รบกวนเวลาของคุณไตรทศกับคุณลูคัสดีกว่าครับ” ทัศนัยเอ่ยขึ้นบ้าง
“กลับไปพักเถอะ พรุ่งนี้จะได้เดินทางกันแต่เช้า”
“งั้นผมขออนุญาตไปส่งว่าที่เจ้าสาวของผมได้ไหมครับ” ลูคัสเอ่ยขัดขึ้น
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจะกลับกับพ่อแม่ฉัน” หญิงสาวตอบกลับ
“มีอา ให้คุณลูคัสไปส่งก็ได้ลูก” มัสยาบอกลูกสาว เพราะนี่อาจจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีก็เป็นได้
“แต่ว่า..”
“ไปเถอะมีอา จะได้ทำความรู้จักกันไง” ไตรทศหันมาบอกอีกเสียง หญิงสาวทำได้เพียงพยักหน้ารับด้วยความไม่เต็มใจ
“เจอกันที่บ้านนะลูก” ไตรทศเดินนำออกไปก่อนที่ทัศนัยและมัสยาจะเดินตามไปติดๆ ร่างเล็กหันมามองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ห่าง
“เหมือนนี่จะเป็นเกลียดแรกพบเลยนะ”
“ค่ะ” เธอกลับทันทีโดยไม่ต้องคิดอะไร เพราะท่าทางเมื่อครู่ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเขาก็เกลียดเธอเหมือนกัน
“ฉันจะกลับบ้าน” เธอว่าเสียงดุ
“ยกเลิกงานแต่งนี่ซะ” ลูคัสไม่สนใจว่าเธอต้องการอะไร แต่สิ่งที่เขาต้องการตอนนี้คือการยกเลิกงานแต่ง
“...”
“ถ้าเธอไม่อยากเดือดร้อนก็ยกเลิกมันซะ”
“ไม่ค่ะ ฉันไม่ยกเลิก จนกว่าฉันจะได้บริษัทของฉันคืน”
“นี่เธอเป็นผู้หญิงประเภทไหนกันแน่ ภายนอกดูใสๆไร้เดียงสา แต่ในหัวเธอคิดแต่จะได้แบบนี้”
“บริษัทนั้นสำคัญกับฉันมาก”
“ฉันไม่สนว่ามันจะสำคัญกับเธอหรือสำคัญกับใคร!!” ร่างสูงตะคอกเสียงดังลั่น ก่อนจะเดินเข้าไปหาหญิงสาวจนเธอรีบถอยครูดไปติดกับผนัง
“แต่สิ่งที่ฉันต้องรับ คือการแต่งงานกับผู้หญิงอย่างเธอ!!”
“ผู้หญิงอย่างฉันมันทำไมคะ คุณทำเหมือนรู้จักฉันดีอย่างงั้นแหละ” ลูคัสแสยะยิ้มพลางเดินเข้าใกล้เธอมากขึ้น จนร่างของเขาประชิดกับเธอ ส่วนสูงของหญิงสาวสูงเพียงหัวไหล่เขาเท่านั้น
“ผู้หญิงที่ยอมแต่งงานกับใครก็ไม่รู้ เพื่อแลกกับสิ่งที่ต้องการ แบบนี้ฉันควรจะคิดยังไงดีล่ะ”
“...”
“ทำแบบนี้มากี่ครั้งแล้วล่ะ”
“นี่..” เธอว่าพร้อมเหวี่ยงฝ่ามือไปที่ใบหน้าของเขา แต่มือหนากลับคว้ามันเอาไว้ได้ทัน เขาจับมันเอาไว้แน่น
“คิดว่าจะทำอะไรฉันได้หรอ”
“ปล่อย” เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“จะว่าไปเธอก็สวยใช่เล่นนะเนี่ย” ชายหนุ่มพูดพร้อมใช้สายตามองเธออย่างจาบจ้วง
“หยุดนะ” เธอว่าพลางพยายามดึงมือออกจากเงื้อมือของเขา
“ทำเป็นหวงเนื้อหวงตัวไปได้”
“อย่ามาทำกิริยาต่ำๆแบบนี้กับฉันนะ” ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ ลูคัสยื่นหน้าของเขาเข้าใกล้หญิงสาวก่อนจะกระซิบข้างหูเธอท่ามกลางการขัดขืนของเธอ
“อย่านะ”
“ฉันขอเตือนเธออีกครั้ง ถ้าเธอไม่ยอมยกเลิกเรื่องระหว่างเรา ฉันจะทำให้เธอต้องพบกับความเจ็บปวดเป็นร้อยเท่าพันเท่า ไม่เชื่อก็ลองดู” เขาสะบัดมือเธอออกก่อนจะเดินถอยหลังออกไป
“สิ่งที่ฉันเกลียดที่สุด เธอรู้ไหมว่าคืออะไร”
“....”
“ฉันเกลียดพวกมักง่าย ที่แก้ปัญหาง่ายๆ อย่างที่ครอบครัวเธอกำลังทำนี่ไง” สิ้นเสียงชายหนุ่มก็เดินออกไปทันที ปล่อยให้ร่างเล็กยืนตัวสั่นอยู่เพียงลำพัง ไม่ใช่ว่าเธอไม่กลัว แต่เธอกลัวจนไม่กล้าพูดอะไรออกไป เธอรู้ว่าสิ่งที่ครอบครัวเธอทำมันเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ดีนักอย่างที่ลูคัสว่า แต่เขาจำเป็นต้องดูถูกเธอถึงเพียงนี้เลยหรือ ลูคัสร้ายกาจกว่าที่เธอคิดเป็นไหนๆ แล้วแบบนี้เธอจะทำยังไงต่อไป...
......................................................
ชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องอาหารโดยทิ้งหญิงสาวเอาไว้แบบนั้น เขาไม่จำเป็นต้องสนใจอะไรทั้งนั้น เขาพยายามทุกอย่างกว่าจะมาถึงจุดนี้ แต่กลับมีใครก็ไม่รู้มามัดมือชกแย่งอิสระจากเขาไปเสียดื้อๆ ลูคัสพยายามสะบัดอารมณ์โกรธของตัวเองออกไป แต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้ากลับทำให้อารมณ์ของเขาแย่ลงกว่าเก่า
“เรียบร้อยดีรึป่าว” เสียงทุ้มเข้มเอ่ยถามเมื่อเห็นเขา
“เรียบร้อยดี แต่จะดีกว่านี้ ถ้าฉันไม่ต้องมาเจอหน้าแก” เขาตอบกลับแบบเสียมารยาท ก่อนจะพยายามเดินออกไปให้พ้นๆ
“จะคุยกันดีๆไม่ได้เลยรึไงลูคัส” ชายหนุ่มหยุดนิ่งก่อนจะหันหลับมายังต้นเสียง
“คุยได้ แต่ฉันไม่อยากคุย แกมีอะไรไหม..มาคัส” เขาถามกลับ
“ฉันก็แค่อยากถาม”
“เป็นห่วงตัวแกเองก่อนเถอะ”
“อย่างน้อยฉันก็เป็นพี่ชายแก”
“เกิดก่อนฉันแค่เดือนเดียว อย่ามาอ้างตัวว่าเป็นพี่ชายฉัน”
“...”
“และอีกอย่าง ลูกชายที่เกิดจากความผิดพลาด ฉันไม่นับเป็นพี่น้อง” สิ้นเสียงชายหนุ่มก็เดินออกไป พี่ชายต่างแม่ทำได้แค่ยืนมองคนที่เขานับว่าเป็นน้องชายเดินออกไป เขารู้ตัวเสมอว่าไม่สามารถทัดเทียมลูคัสได้ แต่เขาเองก็พยายามที่จะเข้าใจลูคัสมาตลอด เขาเป็นลูกของหญิงสาวที่พลาดท้องกับผู้เป็นพ่อ นั่นคือสิ่งที่เขาถูกตราหน้ามาตลอดจากน้องชายต่างแม่ ไม่ว่าเขาจะพยายามเท่าไร ก็ไม่สามารถเอาชนะใจน้องชายของเขาได้เลยสักครั้ง