ตอนที่ 4
“เกลียวธาร...”
“ขา..แม่มีอะไรคะ..”
นมบุหลันจับมือของเธอให้เดินมานั่งยังระเบียงใกล้ดอกเล็บมือนางที่ออกดอกส่งกลิ่นหอมกรุ่น
“คุณพ่อของหนู ..ท่านเป็นนายทหารที่เข้มแข็ง ท่านตายในหน้าที่ จึงได้รับพระราชทานยศเป็น..นายพลโท..แม่เองเป็นแค่ลูกชาวสวน แต่โชคดีได้รู้จักกับหม่อมท่าน..และได้มีโอกาสมารับใช้เลี้ยงหม่อมราชวงศ์ชาย ทีฆรัตเดโช ธรรมฐิติ มาพร้อมกับลูกชายคนแรกของแม่..พอแม่ตั้งท้องหนูได้เพียงสามเดือนคุณพ่อก็เสีย..”
“ธารไม่มีโอกาสเห็นหน้าคุณพ่อ นอกจากในรูป..คุณแม่เคยเล่าให้ธารฟังหลายครั้งแล้ว..มีอะไรหรือคะ..”
เธอมองหน้ามารดานิ่ง
“หนูก็สามารถร่ำเรียนมาจนจบถึงปริญญาโท ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง สอบเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ..”
เธอยังคงมองหน้าแม่นิ่ง
“แม่จะบอกหนูว่า..หนูไม่ได้ด้อยไปกว่าใครเลยนะลูก..”
คุณนมบุหลันยกมือลูบศีรษะของบุตรสาวเบา ๆ
“หากหนูจะรักใครสักคน..ก็ควรตรองให้หนักนะลูก..หนูมีสิทธิ์เลือก..หนูไม่ได้ต่ำต้อยไปกว่าใครในสังคมไทยปัจจุบันเลยสักนิดเดียว..แต่..แม่อยากจะให้มีข้อยกเว้นแล้วคิดให้มากดูความเหมาะสมอีกนิดนะจ๊ะ..”
เธอยังคงมองหน้ามารดา
“คุณแม่กำลังจะบอกอะไรกับธารคะ..บอกมาเถอะค่ะแม่ขา..”
“ตราบใดที่เรายังอาศัยบ้านเขาอยู่ โดยเฉพาะแม่กินเงินเดือนของเขานะลูก..เท่ากับเราต่ำกว่าเขา..อย่ากินบนเรือนขี้รดบนหลังคา..ยกเว้นสักนิดนะลูก..หนูไม่ด้อยไปกว่าใคร แต่สำหรับคุณชาย..แม่ขอให้หนูถอนความคิด..จะได้ไหม..”
“คุณแม่ !...”
เธอค่อย ๆ หันด้านข้างให้มารดาเสีย
“ขอแค่ได้รักเขาข้างเดียวก็ไม่ได้หรือคะแม่ขา..”
“แม่กลัวว่าสักวันหนูจะเผลอแสดงออกให้ใคร ๆ ได้รู้..แล้วเมื่อนั้นลูกของแม่จะถูกครหา..”
เธอลอบกลืนน้ำลายลงคอ
“แม่รู้มานานแล้วว่าหนูแอบรักคุณชาย..แต่ระยะเวลาที่ห่างกันตั้งแต่เด็กแม่คิดว่าหนูลืมไปแล้ว..จนวันนี้..”
“ขอแค่ให้ธารมีโอกาสได้รักเขา ได้มองเห็นเขาเท่านั้นค่ะแม่ขา..สัญญาว่าจะไม่แสดงออกให้ใครได้เห็น..”
เธอหันมาหามารดา
“อย่าสั่งห้ามหัวใจของธารเลยนะคะแม่..เขาเองก็ไม่ได้คิดอะไรกับธารมากไปกว่าน้องสาวหรอกค่ะ..”
“โถ..ลูกสาวของแม่..”
นมบุหลันรั้งร่างของเกลียวธารเข้ามากอดเอาไว้ พลางยกมือลูบแผ่นหลังที่เนียนกริบของเธอเบา ๆ
“ไปเถอะลูก..พรุ่งนี้หนูต้องไปทำงาน แล้วยังต้องไปดูแลคุณชายอีก ทำหน้าที่อย่าให้บกพร่องนะลูก..และที่สำคัญ..สำรวมหัวใจของหนูให้ดี โดยเฉพาะสายตานะลูก..”
“ค่ะ..”
เกลียวธาร ลุกจากระเบียงก้าวขึ้นไปยังห้องนอน ปลายเท้าเรียวสะอาดก้าวไปที่ริมหน้าต่างมุมหนึ่งของห้องนอน มีต้นดอกแก้วที่ปลูกห่างออกไปส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ได้ในยามเช้า เปรียบเสมือนนาฬิกาปลุกเธอให้ตื่นตรงเวลาในทุก ๆ วัน
แต่เธอกลับมองเลยต้นดอกแก้วไปยังตำหนักทรงไทยที่สามารถมองเห็นในทุก ๆ วันอีกเช่นกัน..สายตางามทอดนิ่งอยู่กับแสงไฟจากห้องนอนของบุรุษผู้สูงศักดิ์ เธอยังยืนอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหนไม่รู้
แต่หัวใจของเธอก็พองโตเมื่อเห็นใครคนนั้นเดินผ่านมาที่หน้าต่างห้องแล้วกำลังมองมาทางเธอ..ทว่าเขาคงไม่เห็นเธอหรอกเพราะห้องของเธอ ยังไม่ได้เปิดไฟสักดวง
“คุณชาย..”
เธอเผลอเรียกเขาออกมาเบา ๆ สายตายังจับนิ่งอยู่ที่ร่างของเขาเช่นเดิม
“เกลียวธารลูก..นอนแล้วหรือจ๊ะ..”
สติของเธอถูกรั้งกลับคืนมาอีกครั้ง จึงรีบเดินไปเปิดไฟให้สว่าง
“แม่มีอะไรคะ..”
“แม่เห็นหนูขึ้นมาตั้งนานแต่ห้องมืด..ทำอะไรอยู่หรือลูก..”
“เปล่าค่ะ..ธารจะไปอาบน้ำแล้วทบทวนเนื้อหาที่จะสอนในวันพรุ่งนี้สักหน่อย..แม่ไม่ต้องห่วงธารนะคะ..”
“จ้ะ..เดี๋ยวแม่จะไปหาหม่อมสักหน่อยนะลูก..แล้วแม่ก็สั่งสะใบให้ดูน้ำผลไม้มาให้หนูแล้ว เดี๋ยวคงขึ้นมา..”
“ขอบคุณค่ะแม่..คุณแม่ไปกับใครคะ..”
“ไปกับลออไม่ต้องห่วงแม่หรอกลูก..”
เธอค่อยวางใจ แล้วค่อย ๆ ปิดประตูเบา ๆ ก่อนจะคว้าเสื้อนอนหายเข้าห้องน้ำไปสักพักใหญ่ก็ออกมา เธอเปิดตำราเพื่อเตรียมการสอน
โดยนั่งอยู่ที่ริมหน้าต่างมุมโปรด ซึ่งเป็นที่ตั้งของโต๊ะทำงาน เพราะเธอจะสามารถมองไปที่ตำหนักทรงไทยได้ด้วยและยังได้กลิ่นหอมของดอกราตรีในยามค่ำคืนเป็นของแถม
เกลียวธารนั่งดูตำราอยู่จนดึก ได้ยินเสียงแม่กลับบ้าน เธอจึงพับตำราแล้วเตรียมปิดไฟนอน แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะหันไปมองทางตำหนักทรงไทยริมน้ำ ซึ่งขณะนั้นเขาเองก็ยืนนิ่งแล้วหันหน้ามาทางห้องของเธอเช่นกัน แต่เธอก็ไม่นึกว่าเขากำลังมองดูเธออยู่...ในขณะที่เขาเห็นเธอและมองเธออยู่นานแล้ว