ตอนที่ 1
“เกลียวธาร..ทำอะไรอยู่หรือลูก..”
สตรีสาววัยยี่สิบเศษเงยหน้าขึ้นมองมารดาก่อนจะยิ้มกว้างอย่างน่าเอ็นดู
“ร้อยมาลัยค่ะแม่ขา..ธารเอาดอกทรงบาดาลมาร้อยมาลัยให้แม่ค่ะ..สวยไหมคะ..”
เธอพูดพร้อมกับยกพวงดอกไม้สีเหลืองสดชูขึ้น
“สวยลูก..พอดีเลย..ร้อยเสร็จหรือยังล่ะจ๊ะ..”
“อีกนิดเดียวค่ะแม่..”
“ถ้างั้นรีบร้อยให้เสร็จนะลูกแล้วเอาขึ้นไปบนตำหนักใหญ่..แม่จะไปรอที่นั่น..”
เธอทำหน้างุนงง แต่ก็ไม่ทันได้ถามเพราะมารดาก้าวไปจากที่นั่นเสียก่อน..เธอจึงรีบร้อยมาลัยดอกทรงบาดาลด้วยความประณีตบรรจง เสร็จแล้วก็ตามมารดาขึ้นไปบนตำหนักใหญ่ของวังศรีลักษณ์
เกลียวธาร ก้าวเดินไปบนผืนพรมเปอร์เซียอย่างดี ไปจนถึงห้องโถงใหญ่ของตัวตำหนัก เธอคุกเข่าคลานไปจนถึงมารดา แล้วนั่งก้มหน้านิ่ง โดยหารู้ไม่ว่า มีสายตาคมคู่หนึ่งจ้องมองดูเธอตั้งแต่ก้าวเข้าไปในห้องนั้น
“สวยวันสวยคืนนะลูกสาวของนมบุหลันเนี่ย..”
หม่อมกฤตญาณีเอ่ยชมพลางพิศมองเครื่องหน้าที่งดงามอ่อนหวานของเกลียวธารอย่างสำรวจ
“แล้วนั่นร้อยดอกไม้มาให้ชายทีรึ..”
ชื่อนั้นทำให้ดวงหน้าหวานซึ้งกินใจเงยขึ้นทันที เธอมองไปยังชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่เคียงข้างหม่อมกฤตญาณี หัวใจของเธอก็ไหววาบขึ้นมา เมื่อมองเห็นดวงหน้าที่คมขรึมหล่อสะอาดของเขา
หม่อมราชวงศ์ชายทีฆรัตเดโช ธรรมฐิติ ชายที่เธอเคยเฝ้ามองตั้งแต่เล็กจนเริ่มโตเป็นสาวและก็เฝ้ารอคอยการกลับมาของเขา จนถึงวันนี้ เขากลับมาแล้วทำให้เธอเผลอมองจ้องเขานิ่งอย่างลืมตัว
“เกลียวธาร..”
เสียงมารดาเรียกเบา ๆ ทำให้เธอรีบก้มหน้าลง
“ไหว้คุณชายเสียสิลูก..แล้วเอาพวงมาลัยที่ร้อยมาให้คุณชายเสียเลย..”
เธอรีบยกมือกระพุ่มไหว้เขาด้วยหัวใจที่สั่นไหว ก่อนจะคลานเข้าไปใกล้แล้วส่งพวงมาลัยซึ่งร้อยจากดอกทรงบาดาลให้เขาด้วยมือที่สั่นน้อย ๆ
หม่อมราชวงศ์ชายทีฆรัตเดโช ยกมือรับไหว้ก่อนจะยื่นมือไปรับพวงมาลัยพวงนั้นมาถือไว้ แต่สายตาคมกลับมองสำรวจดวงหน้าที่หวานละไมของเธออย่างเผลอไผล
“สอนหนังสือเหนื่อยมากหรือไม่ล่ะจ๊ะเกลียวธาร..”
เธอหันไปมองหม่อมกฤตญาณี ที่ดูจะเอ็นดูเธอไม่น้อย ก่อนจะหลุบเปลือกตามองที่มือบนตักของตนเองอย่างสำรวมระวัง
“ไม่เหนื่อยหรอกค่ะหม่อม..”
“ถ้างั้นพอจะมีเวลามาดูแลชายทีได้บ้างไหม..”
เธอช้อนสายตามองหน้าเขาแทบทันที ก่อนจะรีบหลุบเปลือกตาต่ำลงมองแค่มือเรียวบางของตัวเอง
“จะให้คนอื่นมาคอยดูแลรับใช้ชายก็ไม่ไว้ใจ..สาว ๆ สมัยนี้ไวไฟจะตายไป..ตอนนี้ชายกลับมาก็ต้องไปทำงานที่กระทรวง..ฉันอยากให้เธอมาดูแลเป็นการส่วนตัว..”
“ค่ะ..”
เธอตอบรับสั้น ๆ แต่หัวใจกลับสั่นไหวอย่างรุนแรง ทั้งดีใจทั้งประหม่าระคนกัน
“เป็นครูหรือครับนม..”
“ค่ะ..เป็นครูสอนที่มหาวิทยาลัย..คณะศึกษาศาสตร์..เอกพลศึกษาและสุขศึกษาของภาควิชาพลานามัยค่ะคุณชาย..”
นมบุหลันบอกกล่าวด้วยใบหน้าที่ชื่นชม
“เก่งนะครับ..ส่วนใหญ่สอนวิชาอะไรครับ..”
เธอยังนั่งนิ่ง จนมารดาต้องสะกิดเบา ๆ เธอจึงเงยหน้ามองเขาเพียงแค่ปลายคางแล้วก้มหลุบลงต่ำ
“สอนวิชาพละค่ะแล้วก็กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาค่ะ..”
หม่อมราชวงศ์ชายทีฆรัตเดโช พยักหน้าช้า ๆ
“นมครับ ผมไม่เห็นหน้าณัฐกิตติ์เลย เขาไปไหนครับ..”
เขาถามถึงลูกชายคนโตของนมบุหลันที่เกิดมาไล่เลี่ยกับเขาแล้วมีโอกาสได้ดื่มนมจากแม่เดียวกันกับเขา เพราะนมบุหลันมีลูกชาย แล้วก็ได้เลี้ยงเขามาด้วย เท่ากับว่านม
บุหลัน ได้เลี้ยงลูกของตัวเองและเลี้ยงลูกของหม่อมกฤตญาณีมาพร้อม ๆ กัน
“เป็นทนายความค่ะคุณชาย..นาน ๆ ครั้งจึงจะกลับมาหาสักที ..ตอนนี้เขาเปิดสำนักงานเป็นของตนเองแล้ว..เห็นบอกว่ามีงานมากมาย..”
“ดีจริง..”
เขาเปรยออกมาเบา ๆ
“ชายกลับมาเหนื่อย ๆ แม่ว่าไปพักก่อนดีไหมจ๊ะ..”
“ครับ..”
“วานหน่อยนะจ๊ะเกลียวธาร..ช่วยไปดูแลความเรียบร้อยของตำหนักทรงไทยของชายให้ทีแล้วดูแลบรรดาสาว ๆ ทั้งหลายด้วย..”
เธอก้มหน้านิ่งก่อนจะค่อย ๆ คลานห่างออกไป โดยมีหม่อมราชวงศ์ชายทีฆรัตเดโช ตามไปติด ๆ โดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่า เขาได้ก้าวตามเธอมาเงียบ ๆ จนเดินมาไกลจากตำหนักใหญ่พอสมควร จึงหยุดแล้วผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ
โดยมีหม่อมราชวงศ์ชายทีฆรัตเดโช ที่ยืนมองแล้วอมยิ้มอยู่เงียบ ๆ เมื่อเห็นอาการของเธอ เขาพยายามนึกถึงใบหน้าของเธอเมื่อตอนที่เป็นเด็ก และไม่นึกมาก่อนว่า พอโตเป็นสาว เธอจะสวยสะพรั่งได้มากถึงขนาดนี้
อีกทั้งกิริยาดูเรียบร้อย อ่อนหวาน อ่อนโยน เรือนร่างบาง อ้อนแอ้นอรชรน่าทะนุถนอม แต่กลับเป็นครูสอนพละศึกษา เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ทำให้แปลกใจอย่างมาก
เขาก้าวตามเธอไปโดยที่แอบมองสำรวจเรือนร่างงามทางด้านหลังของเธอไปด้วย
เขามองดูเส้นผมที่ยาวสยาย มองดูเอวที่คอดกิ่วเรื่อยไปตามสะโพกกลมมน ดูเรียวน่องที่โผล่พ้นชายกระโปรงสีหวาน ที่ดูกลมกลึงได้สัดส่วนไปทั่วร่าง ดูงดงามแทบหาที่ติไม่ได้