จำฝังใจ
อัยวา....
"เธอก็เหมือนกันนิสัยก็ไม่ดีชอบดูถูกคนอื่นไม่แปลกใจเลยที่ไม่มีใครรักชอบเรียกร้องความสนใจรู้บ้างหรือเปล่าว่ามีแต่คนเขาเอือมระอา" ถึงจะเจ็บกับคำพูดของพี่ภูแต่ฉันก็จะไม่ยอมอ่อนแอให้เขาเห็นเป็นอันขาด
"แล้วไงใครแคร์" ฉันพยายามทำเหมือนไม่แคร์แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย
"ทำตัวแบบนี้อย่าหวังเลยว่าฉันจะหมั้นกับเด็กนิสัยแย่ๆแบบเธอ" ฉันกำหมัดแน่นด้วยความโกรธและน้อยใจถ้าพี่ภูจะพูดต่อหน้าฉันฉันจะไม่รู้สึกอะไรขนาดนี้เพราะรู้ว่าเขาไม่ชอบที่โดนจับคลุมถุงชนแต่นี่เขาพูดต่อหน้ายัยนั่นทั้งๆที่รู้ว่าฉันกับมันไม่ถูกกัน
"ภูพูดแบบนั้นมันเกินไปหรือเปล่าพูดอะไรหัดนึกถึงจิตใจน้องบ้าง"
"แล้วแม่ไม่เห็นเหรอว่าคนดีของแม่ทำอะไรเอินบ้าง ที่เอินต้องมาเจ็บตัวไม่ใช่เพราะหลานสาวสุดที่รักของแม่หรือไงยิ่งแม่เข้าข้างยัยนั่นแบบนี้ผมก็ยิ่งไม่ชอบเข้าไปใหญ่ ผมไม่อยากทะเลาะกับแม่เพราะคนอื่น ผมขอตัวพาเอินไปหาหมอก่อนนะครับ" พี่ภูจ้องมาที่ฉันด้วยสายตาโกรธไม่พอใจก่อนจะอุ้มยัยนั่นเดินออกไป แต่ก็มิวายที่จะมีสายตาเยาะเย้ยราวกับว่าตัวเองเป็นผู้ชนะส่งมาให้ฉัน ฉันทำได้แค่ยืนมองพี่ภูอุ้มยัยนั่นออกไป
"อัยอย่าคิดมากเลยนะลูก" พอพี่ภูอุ้มยัยเอินออกไปป้าพิมพ์ก็เดินเข้ามากอดฉันแล้วพูดปลอบ
"ทำไมพี่ภูถึงดีแต่กับยัยนั่นแต่กับอัยพี่ภูไม่เคยพูดดีด้วยเลยคะ อัยมันนิสัยไม่ดีนิสัยแย่มากๆเลยใช่มั้ยคะป้าพิมพ์ ฮึก ฮึก ฮือออ" ฉันว่าจะไม่ร้องแล้วแต่ก็อดไม่ได้ ฉันไม่เคยร้องไห้ต่อหน้าใครเลยถ้าไม่เหลืออดจริงๆ
"ไม่ร้องนะคะคนเก่งของป้าไม่ร้องน๊าาา" ป้าพิมพ์เช็ดน้ำตาให้ฉันอย่างอ่อนโยนทำให้ฉันอดคิดถึงแม่ไม่ได้ตอนที่ฉันเป็นเด็กเวลาฉันร้องไห้แม่ก็จะคอยปลอบฉันแบบที่ป้าพิมพ์ทำ
"ฮึก ฮึก ขอบคุณนะคะป้าพิมพ์ที่ดีกับอัยมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโต ตั้งแต่แม่จากไปอัยก็เหมือนตัวคนเดียวพ่อก็เอาอกเอาใจแต่กับผู้หญิงคนนั้น ฮือออ ฮือออออ อัยพูดอะไรพ่อก็ไม่เคยเชื่อทั้งที่อัยโดนสองแม่ลูกนั่นรังแกมาตลอด"
ฉันจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้นได้เป็นอย่างดีแล้วก็จำฝังใจมาจนถึงทุกวันนี้โดยเฉพาะเหตุการณ์ในวันนั้นที่ทำให้ฉันกลายเป็นคนที่กลัวความมืดมาจนถึงทุกวันนี้ฉันไม่สามารถนอนหลับได้เลยถ้าห้องมืดสนิท ทุกคืนฉันจะต้องเปิดไฟหัวเตียง
ในตอนนั้นฉันอายุราวๆเจ็ดแปดขวบพ่อไปทำธุระที่ต่างประเทศส่วนย่าก็ย้ายไปอยู่ที่บ้านสวนของท่านที่ต่างจังหวัด ด้วยความที่ฉันยังเด็กเคยอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกแต่พอไม่มีใครฉันก็รู้สึกโดดเดี่ยวฉันคิดถึงแม่มากๆฉันก็เลยเข้าไปนอนในห้องนอนของแม่ที่ถูกปิดตายเอาไว้ฉันนอนร้องไห้บนเตียงนอนของแม่จนเผลอหลับไปจนกระทั่งฉันตื่นขึ้นมากลางดึกห้องทั้งห้องมืดสนิทฉันเดินไปที่สวิตไฟเพื่อเปิดไฟแต่ไฟก็เปิดไม่ติดฉันคิดในตอนนั้นว่าไฟห้องแม่อาจจะเสียเพราะไม่ได้เปิดใช้เป็นเวลานานก็เลยเดินไปที่ประตูเพื่อจะกลับไปที่ห้องของตัวเองแต่แล้วเปิดประตูก็เปิดไม่ออกฉันพยายามเปิดพยายามเขย่าแต่ทำยังไงมันก็เปิดไม่ออกเหมือนกับว่ามันถูกล็อกกุญแจจากด้านนอก ฉันตะโกนเรียกทุกคนแต่ก็ไม่มีใครได้ยินจนกระทั่งฉันได้ยินเสียงแม่เลี้ยงกับลูกของนางยืนคุยกันอยู่ดังลอดเข้ามาในห้องโดยที่ฉันจับใจความไม่ได้
ปั้ง ปั้ง ปั้ง
"ใครอยู่ข้างนอกเปิดประตูให้อัยหน่อยค่าอัยออกไปไม่ได้" ฉันทั้งทุบประตูทั้งตะโกนจนแทบหมดแรง
"แกไม่ต้องออกมาหรอกนังอัยวานอนอยู่ในห้องนั่นแม่แกแล่ะคิดถึงแม่แกมากไม่ใช่หรือไง555555"
"ใช่ค่ะแม่ขังมันไว้ในนั้นแล่ะไม่ต้องให้มันออกมาเอินเกลียดมัน"
"เปิดประตูให้อัยเถอะคะอัยกลัว ฮือออ ฮือออ ข้างในมันมืด ฮือออ" ฉันรู้ว่าสองแม่ลูกนั่นเกลียดฉันแต่ตอนนี้ฉันต้องขอร้องพวกเขา
"จะกลัวทำไมแกก็เรียกแม่แกมาอยู่เป็นเพื่อนสิ"
"ฮือออ ฮือออ ทำไมคุณใจร้ายทำแบบนี้ ฮือออ ถ้าพ่อกลับมาอัยจะฟ้องพ่อฮือออ ฮืออออ"
"ฟ้องเลยถ้าพ่อแกเชื่อแกอ่ะนะ55555 ที่แกถามว่าทำไมฉันถึงใจร้ายกับแกน่ะเหรอเพราะฉันเกลียดแกกับแม่ของแกไง แกรู้มั้ยว่าย่าแกบังคับให้พ่อแกแต่งงานกับแม่ของแกทั้งที่พ่อแกกับฉันรักกัน ถ้าไม่มีแม่แกฉันคงสุขสบายไปตั้งนานแล้ว!!!!! เพราะฉะนั้นแกก็นอนอยู่ในนั้นแล่ะอยู่กับความมืดไปเลยรอจนกว่าพ่อแกจะกลับมาก็แล้วกัน ถ้าพ่อแกกลับมาฉันก็จะบอกว่าแกมันดื้อด้านไม่ฟังซ้ำยังทำร้ายลูกเอินของฉันอีกฉันก็เลยต้องขังแกเอาไว้ เป็นไงแผนของฉันดีใช่มั้ยล่ะ5555"
"ฮือออ ฮืออออ เปิดประตูให้อัยที ฮือออ ฮือออออ" ฉันถูกขังไว้ในห้องสองวันเต็มๆ โดยที่ไม่ได้กินข้าวฉันอาศัยน้ำจากก๊อกในห้องน้ำกินประทังความหิวจนกระทั่งป้าแม่บ้านทนไม่ไหวช่วยฉันออกมา จากนั้นป้าแม่บ้านคนนั้นก็ถูกไล่ออกแล้วก็สั่งห้ามไม่ให้คนในบ้านทุกคนบอกเรื่องนี้กับพ่อถ้าไม่อย่างงั้นจะไล่ออกให้หมดทำให้ทุกคนไม่กล้าพูดเรื่องนี้ แต่พอพ่อกลับมาฉันก็เล่าทุกอย่างให้ท่านฟังแต่ท่านกลับหาว่าฉันโกหกสร้างเรื่องและยังสั่งให้ฉันขอโทษแม่เลี้ยงกับนังเอินด้วยทำให้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาฉันก็เกลียดสองคนแม่ลูกนั่นมาโดยตลอด
"ไม่เอานะลูกไม่ร้องแล้วน๊าาาา" ฉันกอดป้าเพ็ญแล้วก็ร้องไห้ไม่หยุด
ภูผา....
ผมรีบอุ้มเอินขึ้นรถเพื่อจะพาเอินไปส่งโรงพยาบาลเพราะเห็นบอกว่าปวดข้อเท้าแต่ยังไม่ถึงโรงพยาบาลเอินก็บอกกับผมว่าอาการดีขึ้นแล้วไม่ต้องไปโรงพยาบาล
"พี่ภูไม่ต้องพาเอินไปโรงพยาบาลแล้วก็ได้ค่ะเอินหายเจ็บแล้ว"
"หายเจ็บแล้ว??" ผมถามด้วยความสงสัยเพราะก่อนหน้านี้ยังร้องไห้อยู่เลย
"ค่ะแต่ก็ยังปวดๆ นิดๆ ไว้ทายาก็คงจะดีขึ้น"
"แต่พี่ว่าเอินไปให้คุณหมอตรวจดูอาการสักหน่อยก็น่าจะดีนะ" ผมบอกด้วยความหวังดี
"ไม่เป็นไรค่ะ ตอนนี้เอินหายเจ็บบ้างแล้ว ว่าแต่พี่ภูจะพาเอินไปไหนเหรอคะ"
"ไป......." นั่นสิผมจะพาเอินไปไหนวะ คือตอนแรกผมก็ไม่ได้มีแพลนจะพาเอินไปไหนหรอกผมเพิ่งกลับมากะจะนอนเอาแรงเพราะคืนนี้มีนัดกับกลุ่มเพื่อนผมที่ผับ แต่ผมแค่ทำประชดหลานรักของแม่เท่านั้น เด็กอะไรนิสัยไม่ดีเอาแต่ใจชอบดูถูกคนอื่น
....................................................