บทนำ...กลร้ายทรายเสน่หา...นางระบำคนสวย...
ขบวนอูฐตัวงามสุขภาพดีที่ได้รับการคัดสรรและฝึกฝนมาเพื่อการเดินทางทำงานสำคัญท่ามกลางความร้อนหนาวในทะเลทรายสิบกว่าตัวเดินเรียงแถวยาวมุ่งหน้าสู่จุดหมายที่มองเห็นเป็นเส้นสีดำตัดผืนทรายเบื้องหน้าและท้องฟ้ากว้างคืนเดือนแรมเกลื่อนดวงดาวส่องแสงวับวาวดารดาษดั่งเกร็ดเพชรอันเป็นถนนสายเดียวของเส้นทางเดินรถสู่แหล่งท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศ
สถานตากอากาศพักผ่อนไลย์วาเกิดขึ้นจากพระดำริของพระราชา ธิบดีซามีองค์ประมุขและเจ้าชายฮัสซานพระอนุชาผู้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมที่ต้องการเปิดกว้างให้คนทั่วโลกได้เห็นความงดงามของโอเอซิสกลางทะเลทราย
เจ้าชายทราวิส บิน ฮัสซาน มุนายันห์ อัล-อักรา(Prins Thavis Bin Hassan Munnayanh Al-Akra) เป็นบุคคลสำคัญในความสำเร็จ ครั้งนี้ พระองค์ทรงทุ่มเทความรู้ความสามารถสนองพระดำริของสมเด็จลุงกับพระบิดาได้สำเร็จด้วยเวลาอันรวดเร็ว และได้รับชื่อเสียงจากการยกย่องให้เป็นเจ้าชายนักพัฒนาของประชาชนในประเทศ
ไลย์วาโอเอซิสเป็นแหล่งรวมห้วงน้ำจืดหลายแห่งกลางทะเลทรายผืนกว้างอยู่กึ่งกลางค่อนมาทางทิศเหนือของประเทศที่ตั้งอยู่ใต้อ่าวเปอร์เซียต่อเนื่องกันกว่าสองร้อยกิโลเมตร มีหมู่บ้านน้อยใหญ่ตั้งรายรอบเกือบทุกทิศทางหลายสิบหมู่บ้าน โดยเส้นทางการเดินทางจะมีถนนหลวงจากมหานครหรือนครหลวงตัดผ่านทะเลทรายยาวกว่าสามร้อยกิโลเมตรมาถึงโอเอซิส
ถนนเส้นนี้มาบรรจบกับถนนอีกสองสายที่แยกไปทางตะวันออกความยาวประมาณร้อยกว่ากิโลเมตรและทางทิศตะวันตกเกือบแปดสิบกิโลเมตรตรงวงเวียนสวยงามขนาดใหญ่ที่เป็นประตูนำสู่สถานพักผ่อนตากอากาศหรูหราสวยงามอันดับหนึ่งของประเทศในโครงการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนเชิงอารยธรรมตะวันออกกลางของรัฐบาล นอกจากจะมีที่พักตากอากาศเป็นโรงแรมรีสอร์ตสวยหรูปลูกสร้างด้วยศิลปะตะวันออกกลางจากยุคสมัยเก่าสมัยกลางจนมาถึงสมัยปัจจุบันให้ลูกค้าได้เลือกใช้บริการตามความชอบแล้วยังมีมินิทัวร์พาท่องเที่ยวชมโครงการตามพระดำริที่มีทั้งหัตถกรรมและเกษตรกรรมตามหมู่บ้านรายรอบโอเอซิสอีกด้วย
ทราวิสวางแผนให้ผู้จัดการโรงแรมไลย์วาพาเลเทรียลที่ต้องติดต่อจ้างงานการแสดงศิลปะวัฒนธรรมจากทุกประเทศแถบเอเชียมาแสดงให้แขกได้ชมในเทศกาลงานประจำปีที่โอเอซิสไลย์วาที่จัดขึ้นทุกปี ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีคณะนางรำของหญิงสาวผู้นั้นอยู่ด้วย โดยเสนอราคาพิเศษและสัญญาการว่าจ้างติดต่อกันนานหนึ่งปีเป็นแรงจูงใจ
กรามแข็งแรงใต้เคราดกครึ้มขบแน่นจากภาพความทรงจำของสาวงามแต่งกายด้วยเสื้อผ้านางระบำเปิดเผยเรือนร่างงดงามสะดุดตาสะดุดใจด้วยผิวเนียนละเอียดขาวลออผุดผ่องน่าสัมผัสลูบไล้ ทรวดทรงอรชรงดงามยามสะเอวคอดเล็กพาสะโพกผายกลมกลึงส่ายพลิ้วไหวเย้ายวนอารมณ์ตามจังหวะดนตรีที่สามารถกระชากความดิบเถื่อนของชาติบุรุษออกมาอย่างง่ายดาย
หญิงสาวเจ้าเล่ห์คนนี้ใช้ความสวยงามของรูปร่างหน้าตากับมายาเย้ายวนจากระบำรำฟ้อนมาเป็นสิ่งดึงดูดให้เขาสนใจในตัวหล่อน และทำได้สำเร็จเมื่อเขาได้เห็นรอยยิ้มหวานบาดใจกับนัยน์ตาหวานเชื่อมสีอำพันสุกใสที่ส่งประกายท้าทายเป็นเชิงเชิญชวนยามมองสบตากัน โดยไม่รู้ว่าสิ่งนั้นเป็นกับดักที่วางไว้เพื่อทำลายชื่อเสียงของเขา
แม้กิริยาการเต้นระบำพื้นเมืองแบบชนเผ่าชาวตะวันออกของหล่อนจะไม่ร้อนแรงเร้าใจอย่างนางระบำคนอื่นๆในคณะเดียวกัน แต่ก็สามารถเรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมทั่วห้องสำราญเฉพาะบุรุษได้ด้วยท่วงท่างามสง่าผนวกด้วยรูปร่างหน้าตาสวยอ่อนหวานน่ารักน่าเอ็นดูเกินใคร และทำให้ตัวเขาตกหลุมเสน่ห์ของหญิงสาวเข้าแล้ว
“หยุดก่อน นางระบำ” เขาเรียก
หลังจากเพลงระบำหยุดและหล่อนมายืนอยู่ตรงหน้าพอดิบพอดี กิริยาชม้ายตาหวานชำเลืองมองขณะยืนก้มหน้าแสดงท่าเอียงอายเป็นสิ่งประทับใจเขายิ่งนัก เขาโน้มตัวจากที่นั่งเข้าใกล้ด้วยหัวใจเต้นแรงระทึก พลางนึกขำตัวเองที่กำลังตื่นเต้นกับการได้เจอสาวสวยถูกใจ
“เธอเต้นระบำได้งดงามมาก” เขาแทบไม่รู้ตัวว่าได้ยื่นธำมรงค์วงหนึ่งที่ถอดจากนิ้วก้อยส่งให้นางระบำสาวสวยผู้นั้น แล้วบอกกับหล่อน
“นี่เป็นของขวัญเล็กๆน้อยๆจากฉัน ฉันอยากรู้จักเธอมากขึ้น เธอรังเกียจที่จะบอกชื่อแก่ฉันไหม” ทราวิสถามความสมัครใจของหญิงสาวตามธรรมเนียม หากนางระบำผู้ใดตอบรับไมตรีก็จะเจรจาด้วย