ตอนที่ 2 พี่ชายข้างบ้าน
พิภัทรแวะหาชัยเดชแต่เช้า โดยนำบุตรชายมาแนะนำตัวให้รู้จัก คมฉณัฐไหว้ดาวเรืองและชัยเดชก่อนขอตัวออกไปเดินเล่นที่สวนด้านหลังบ้าน
“ลูกชายโตเป็นหนุ่ม แถมหล่อซะด้วยนะไอ้ภัทร!” ชัยเดชบอก
“ก็นั่นแหละ เพราะมันหล่อแบบนี้สาวถึงได้ตามเกาะแจเลย” พิภัทรแกล้งบ่น
“แล้วเรียนอยู่ปีไหนแล้วล่ะคะ?”
“เรียนมหาวิทยาลัย ปีสามแล้วละครับ”
“ใกล้จบแล้วละสิคะเนี่ย”
“ใช่ครับ”
“ยัยมิ ยังไม่รู้ว่าจะยังไงต่อดีอีกนานกว่าจะได้เข้ามหาลัย”
“แกหัวดีเรียนหนังสือเก่งไม่ใช่เหรอครับ เห็นเจ้าเดชบอกผม”
“อ๋อค่ะ ยัยมิเรียนเก่งอยู่เหมือนกันแต่ถ้ามาเรียนที่กรุงเทพฉันก็ไม่มั่นใจเหมือนกันล่ะค่ะ”
บทสนทนาของผู้ใหญ่สามคนยังคงมีอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วเบาเดินลงบันได แขกผู้มาเยือนเหลือบมองแล้วยิ้มกว้าง เด็กสาวยกมือไหว้ทันที
“หิวข้าวหรือยังล่ะมิ” คนเป็นแม่ถามเมื่อบุตรสาวเดินมาใกล้
“ยังค่ะแม่”
“ไปเล่นกับพี่คมสิหนูมิ พี่เขาอยู่ที่สวน” พิภัทรบอกลูกเพื่อน เขาอยากให้สองคนรู้จักสนิทสนมกันไว้
เด็กสาวขมวดคิ้วเมื่อสะดุดกับชื่อของลูกเพื่อนพ่อ จำได้ว่าหนุ่มข้างบานก็ชื่อนี้เหมือนกัน รีบเดินเลี่ยงออกมาจนถึงสวนด้านหลังใจเต้นไม่เป็นส่ำภาวนาให้เป็นเขาคนนั้น มิลันดาหยุดเท้าเห็นชายรูปร่างสูงโปร่งยืนมองแมกไม้ หล่อนจำได้ดีว่าเขาคือใคร
“ใช่เขาจริงๆ ด้วย”เด็กสาวนึกในใจ
เปราะ!
เสียงกิ่งไม้หักทำให้เขาหันมามองตามเสียง ชายหนุ่มเผลอยิ้มออกมาเมื่อพบว่าเป็นใครที่ยืนอยู่ตอนนี้ มิลันดาตกใจเด็กสาวพยายามจะวิ่งหนีเขาอีกครั้ง แต่คมฉณัฐกลับไวกว่ารีบคว้าท่อนแขนอวบไว้
“จะหนีพี่ไปไหนอีกแล้วน้องมิ มานั่งเล่นด้วยกันไหม?” คมฉณัฐฉุดแขนไว้เสียก่อน หล่อนเหลือบมองเขาแล้วเมินหนีเพราะอาย
“คือว่า...” เด็กสาวอึกอักไม่กล้าพูดอะไรออกไป
“เป็นอะไรหรือเปล่าน้องมิ พี่ทำให้อึดอัดอย่างนั้นหรือ?”
“เปล่าค่ะ พี่คมไมได้ทำให้มิอึดอัดนะคะ”เด็กสาวรีบตอบทันควันเพราะกลัวเขาเข้าใจผิด
“งั้นหรือ? พี่คิดว่าน้องมิอาจจะไม่ชอบพี่เพราะเวลาน้องมิเห็นหน้าพี่เอาแต่จะวิ่งหนีพี่อยู่เรื่อย”
มิลันดาไม่กล้าพูด ที่วิ่งหนีเขาเพราะอายที่จะอยู่ใกล้เขาต่างหาก
“มิไม่ได้ไม่ชอบพี่คมนะคะ มิแค่ไม่คุ้นกับคนแปลกหน้าเท่านั้นเองค่ะ” หล่อนแก้ตัว
สองคนพากันนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ตัวยาวในสวน เขาพูดคุยกับเด็กสาวพักใหญ่ จนเห็นบิดาออกมาตาม เขาบอกลาเด็กสาวแล้วยกมือไหว้เพื่อนบิดา มิลันดามองตามแผ่นหลังซึ่งลับหายออกจากบ้าน คืนนี้หล่อนต้องฝันดีแน่นอนเลยทีเดียว
เช้าวันรุ่งเด็กสาวรีบตื่นแต่เช้าเพราะเป็นวันที่ต้องเริ่มเข้าเรียนวันแรก มิลันดากระหืดกระหอบรีบวิ่งไปเปิดประตูรั้วบ้านเพื่อไปโรงเรียน หล่อนชะงักเมื่อเห็นรถยนต์สีขาวจอดหน้ารั้วบ้าน เด็กสาวมองด้วยความแปลกใจจนกระทั่งกระจกรถเลื่อนลงมาใบหน้าคุ้นเคยก็มาปรากฎให้เห็น
“น้องมิขึ้นมาเร็วครับ เดี๋ยวพี่ไปส่ง!”
มิลันดาไม่ลังเลอะไรอีกแล้วหากไม่ไปคงไปเรียนสายเป็นแน่ มืออวบเอื้อมเปิดประตูแล้วนั่งลงข้างคนขับ คมฉณัฐเหลือบมองแล้วถอนหายใจออกมาก่อนโน้มกายเข้าหาฝั่งคนนั่งแล้วจัดการกับเข็มขัดนิรภัยให้ เสี้ยวหน้าเขาใกล้เสียจนมิลันดาใจสั่นผิวแก้มเลยแดงปลั่ง
“ต้องคาดเข็มขัดด้วยนะครับ เพื่อความปลอดภัย” คมฉณัฐเตือนแล้วทะยานรถ
รถหยุดตรงหน้ารั้วโรงเรียน มิลันดาหันมากล่าวขอบคุณแล้วหยิบกระเป๋าเปิดประตูลง ระหว่างชั้นเรียนแทบไม่มีสมาธิเพราะนึกถึงใบหน้าพี่คมเป็นระยะๆ
เสียงกริ่งของโรงเรียนดังบอกเวลาเลิกชั้นเพื่อเดินทางกลับ เจ้าของร่างอวบถอนหายใจเฮือกใหญ่ วันนี้หล่อนเรียนไม่รู้เรื่องเลยเพราะมัวแต่คิดถึงเขาทั้งวัน เดินทอดน่องมาจนถึงหน้ารั้ว เห็นรถยนต์คุ้นตาพร้อมเจ้าของยืนกอดอกพิงอยู่ หล่อนรีบก้าวยาวเข้าหา
“พี่คมมาทำอะไรคะ?” หล่อนถามสีหน้าสงสัย
“พี่มารับน้องมิครับ”
“ทำไมพี่คมมารับมิล่ะคะ ลำบากแย่”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ พี่รับปากพ่อน้องมิไว้ว่าจะมารับมาส่งน้องมิทุกวัน”
“ขอบคุณมากนะคะ”เด็กสาวบอกเขา
คมฉณัฐลูบศีรษะเด็กสาวเบาๆ ด้วยความเอ็นดู แต่หล่อนกลับใจเต้นแรงเพราะการกระทำของเขา ชายหนุ่มไม่รู้เลยว่าทุกการกระทำของเขากำลังทำให้เด็กสาวเข้าใจผิด รถเคลื่อนออกจากโรงเรียนจนมาจอดเทียบหน้าประตูรั้วมิลันดาลงจากรถแล้วเข้าสู่ตัวบ้าน หล่อนยิ้มด้วยความสุขกับเรื่องดีๆ ในวันนี้