ตอนที่ 1 แม่ค้าผัก [1]
กลางหุบเขาพานโฉ ศึกชิงคัมภีร์กระบี่สวรรค์เป็นไปอย่างดุเดือด ไม่ว่าจะเป็นแปดสำนักใหญ่ หรือพรรคเล็ก กระทั่งจอมยุทธที่ห่างหายจากยุทธภพไปหลายปียังหวนกลับมา
คัมภีร์สวรรค์ที่หายสาบสูญไปห้าร้อยปี จู่ๆ ก็ถูกค้นพบโดยแม่เฒ่าเก็บผักป่าคนหนึ่ง
แม่เฒ่าตาฝ้าฟางขึ้นเขามาเก็บผักป่าไปขายในตลาด วันหนึ่งเกิดไปขุดเจอตำราเล่มเก่าเข้าโดยบังเอิญ จึงเป็นชนวนเหตุให้เกิดการนองเลือดขึ้นในวันนี้
ต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายมาเจ็ดวัน ในที่สุดก็ไม่มีใครเหลือรอด
เก้าเดือนต่อมา
"อุแว้ ๆ"
ในกระท่อมติดชายเขา แม่เฒ่าวัยเจ็ดสิบหูตาฝ้าฟางกำลังช่วยล้างเนื้อล้างตัวทารกอย่างชำนาญ ดูก็รู้ว่าเคยกระทำเช่นนี้มานับครั้งไม่ถ้วน
ด้านข้างมีสตรีหน้าตาซีดเซียวนอนอยู่บนแคร่ จับจ้องทารกน้อยไม่วางตา
"แข็งแรงดี เสียงร้องดังกังวาน ภายภาคหน้าคงได้เป็นเจ้าคนนายคน" แม่เฒ่าอุ้มทารกมาวางในอ้อมแขนของหญิงสาวบนแคร่ด้วยรอยยิ้ม "เจ้าเตรียมชื่อเอาไว้ให้ลูกหรือยัง"
"จิ่นเลี่ยง ลูกชายข้าชื่อ จิ่นเลี่ยง"
"อืมดี หนักแน่นสว่างไสว ความหมายดี"
สองเดือนผ่านไป
ตลาดเมืองหงโจว หญิงสาวหน้าตาอัปลักษณ์วางหาบบนบ่าลงในที่ลับตาคน ก่อนจะอุ้มทารกน้อยในตะกร้าขึ้นมาไว้แนบอก
ราวกับเจ้าตัวเล็กจะได้กลิ่นอาหาร ใบหน้าเล็กจ้อยถึงได้ซุกไซร้ถูไถไปทั่ว จนกระทั่งเจอสิ่งที่ต้องการ
"อึก!" ด้วยความที่นางปล่อยน้ำนมให้คัดมานาน ความเจ็บปวดจึงแล่นริ้วไปทั่วร่างอย่างรวดเร็ว สองเต้าใหญ่โต เต่งตึงขาวใสจนแทบจะเห็นเส้นเลือด
เดิมทีหน้าอกของนางก็ใหญ่ผิดธรรมดาอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้ยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีก ความใหญ่โตของมันแลดูแล้วไม่ต่างอะไรจากลูกมะพร้าว
เสื้อผ้าฝ้ายธรรมดาเริ่มเปียกชุ่มไปด้วยน้ำนมจากเต้าข้างที่เหลือ จนนางจำต้องแก้เชือกออก ดึงสาบเสื้อลงไปกองที่ข้อพับแขน เปิดเปลือยช่วงบน
หอละคร
"อาถง เจ้ากำลังมองอะไรอยู่"
"น่าเสียดาย"
ชายหนุ่มที่ยืนพิงกรอบหน้าต่างไม่เพียงไม่ตอบคำถาม ยังเอ่ยราวกับคนละเมอ จนหว่านหัวอันต้องหรี่ตามอง ก่อนจะลุกไปยืนข้างกายอีกฝ่าย สอดส่ายสายตามองไปรอบๆ แต่กลับไม่เห็นมีอะไร "มองอะไรของเจ้า ไม่เห็นจะมีอะไรเลย โธ่! ข้าก็นึกว่าแอบมองหญิงงามที่ไหน"
ความจริงแล้วในมุมสายตาของหว่านหัวอันมองไม่เห็นเอง หากชายหนุ่มก้าวเยื้องมาอีกสักนิด ก็คงจะได้เห็นภาพเดียวกับหลี่ถงเยี่ย
และภาพที่เห็นก็ทำให้คุณชายหลี่ถึงกับลำคอแห้งผาก อวัยวะบางส่วนคล้ายจะเริ่มตื่นตัวขึ้นมาเสียดื้อๆ ที่บอกว่าเสียดายก็เพราะหน้าตาของหญิงสาวผู้นั้นอัปลักษณ์ ทั้งยังมีลูกอ่อน
ด้วยอารมณ์ที่ถูกปลุกเร้า หลี่ถงเยี่ยรีบหันกลับมาหาสหาย "อาหัว เรียกนางละครมาอุ่นเตียงให้ข้าที"
"หืม? ตอนนี้เลย"
"อืม"
หว่านหัวอันมองสหายสนิทหัวจรดเท้า สายตาไปสะดุดกับส่วนพองนูนของอีกฝ่าย ถึงได้เข้าใจ
หอละครแห่งนี้ เป็นหนึ่งในหลายกิจการของหว่านหัวอัน ด้วยความที่เป็นคุณชายเจ้าสำราญ คุณชายหว่านเลยสร้างหอละครขึ้นมาเพื่อหาความสุขให้ตัวเองและเหล่าสหาย รวมไปถึงค้ากำไรอีกเล็กน้อย
หอละครเป็นหอสูงสามชั้นทรงเหลี่ยม สองชั้นล่างเอาไว้นั่งชมละคร ส่วนชั้นบนเอาไว้หาความสุข โดยมากคุณชายร่ำรวยในเมืองมักพากันมาชุมนุมที่นี่ หลี่ถงเยี่ยก็คือหนึ่งในนั้น
หลังจากคุณชายหลี่ได้ระบายน้ำออกจนพอใจ ถึงได้กลับมานั่งจิบสุรากับสหาย
"สบายตัวแล้วสิ"
"อืม"
หว่านหัวอันหรี่ตามองสหายคนสนิท "ว่าแต่ว่า เจ้าไปเห็นอะไรมากันแน่ ถึงได้แข็งง่ายดายปานนั้น"
หลี่ถงเยี่ยยกจอกสุราขึ้นจิบ ไม่คิดจะตอบคำถาม บุรุษเจ้าสำราญอย่างเขาไหนเลยจะกล้าบอกความจริง มีเยี่ยงอย่างที่ไหน แค่เห็นสตรีให้นมบุตรถึงกับ... พอคิดถึงภาพนั้นขึ้นมา ท้องน้อยก็เหมือนจะร้อนวูบวาบ จนต้องยกสุราดื่มจนหมดจอก
"อาถง นี่เจ้าจะรีบเมาแต่วันเชียวหรือ?" หว่านหัวอันเลิกคิ้วมองสหายด้วยความสงสัย ก่อนจะรินสุราใส่จอกให้อีกฝ่าย "ข้าว่าเจ้าแลดูแปลกๆ นะ"
"แปลกอันใด ข้าก็เป็นของข้าอย่างนี้แหละ"