ตอนที่ 5 ทำความรู้จัก
ตอนที่ 5 ทำความรู้จัก
“ขอตัวสักครู่นะครับ” พูดจบประโยค ผมก็เดินออกไปนอกร้าน ก่อนที่จะหยิบมือถือขึ้นมาโทรออกหาไอ้เพื่อนชั่ว! รอไม่นานมันก็รับสายของผม
“ไอ้เพื่อนชั่ว...มึงหลอกกู!” ผมไม่รอให้มันพูด รีบด่ามันก่อนทันที
“ฮ่าๆๆ” มันยังไม่ได้พูดอะไร แต่กลับหัวเราะใส่ผมซะอย่างนั้น
“มึงเปลี่ยนตัวลุง เอาคนอื่นมาแทนกูเลยนะ ตั้งเจ็ดวันกูไม่ได้ว่างขนาดนั้น”
“กูรู้ว่าช่วงนี้มึงยังว่างอยู่ ช่วยกูหน่อยนะเพื่อน...” มันลากเสียงยาว น้ำเสียงออดอ้อน ชวนผมขนลุกไปหมด
“เพื่อนพ่อมึงดิ! แล้วทำไมมึงไม่บอกกูว่าตั้งเจ็ดวัน แถมยังไม่บอกอีกว่าคนเช่าอายุแค่ยี่สิบห้าเอง” ไอ้ผมก็แอบนึกภาพมาซะผิดเพี้ยนไปหมด
“หรือมึงอยากจะบริการหญิงแก่อายุห้าสิบอัพล่ะ” พูดแบบนี้แสดงว่ามันตั้งใจหลอกผมให้มาก่อนชัวร์
“ไอ้เพทาย!”
“คืองี้เพื่อนรัก กูรู้ว่ามึงเหงา กูหวังดีก็เลยอยากหาเพื่อนคุยให้มึง อีกอย่างยัยกระต่ายน้อยเจ้าของร้านดอกไม้นั่น กูเคยเห็นหน้า หน้าตาของเธอก็น่ารักดี ไม่น่าเบื่อหรอก ส่วนเรื่องลุงที่ร้านกูขาดแคลนจริงๆ กูขอเอาลุงที่มีประสบการณ์แล้วเอาไว้ดูแลลูกค้าคนอื่นนะ ส่วนมึง...งานนี้ช่วยกูหน่อยเถอะ” ทำมาเป็นพูดดี!
“งานนี้งานเดียวนะ แล้วมึงอย่าหวังว่าครั้งหน้ามึงจะหลอกกูได้อีก” พูดประโยคนี้จบ ผมก็ตัดสายไอ้เพื่อนชั่วทิ้งทันที จากนั้นจึงค่อยๆปรับสีหน้าของตัวเองแล้วเดินกลับเข้าไปด้านในร้าน...ถ้าไอ้เพทายไม่ได้เป็นเพื่อนและไม่ได้เป็นเจ้าใหญ่ที่สั่งซื้อไวน์องุ่นที่สวนของผม งานนี้ผมคงไม่มีทางช่วยมันเด็ดขาด
ผมเปิดประตูเดินเข้าไปในร้านอีกครั้ง เห็นเธอมองมาทางผมแต่เธอไม่ได้พูดอะไร ไอ้ผมเองก็ไม่รู้จะคุยอะไรกับเธอ ผมจึงกวาดสายตามองไปรอบๆร้าน
ภายในร้านเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปหมด เธอจัดร้านได้น่ารักดี มีโต๊ะ มีแจกัน สำหรับวางดอกไม้ มีตู้แช่เพื่อไม่ให้ดอกไม้สดเหี่ยวเฉา มีตู้โชว์ มีอุปกรณ์ตกแต่งกระจุ๋มกระจิ๋มน่ารัก ส่วนด้านหน้าร้านเต็มไปด้วยต้นไม้ที่ปลูกอยู่ในกระถางกำลังออกดอกสวยงาม ส่วนลักษณะร้านเป็นตึกแถวสองชั้น ด้านข้างเป็นร้านขายของอื่นๆ ในตลาดแห่งนี้มีพ่อค้าแม่ค้าร้านขายของค่อนข้างหนาแน่น
“ลุง...” เสียงของเธอทำให้ผมหันไปมองใบหน้าของคนเรียก
“ครับ”
“นั่งลงก่อนสิคะ”
“ครับ” ผมทิ้งตัวนั่งลงไปที่เก้าอี้ ใกล้ๆกับที่เธอนั่งจัดดอกไมัอยู่
“ลุงชื่ออะไรคะ หนูจะได้เรียกถูก”
“ชื่อเหม”
“เหม...เหม เหม เหม เรียกยากจัง”
“ชื่อจริงชื่อเหมันต์ เหมน่าจะชื่อย่อมั้ง”
“อ๋อ...เหมันต์ โอเค งั้นหนูเรียกลุงว่าลุงเหมก็แล้วกันนะคะ” เรียกลุงแรงเดินแทบไม่มี!
“เรียกพี่ก็ได้มั้ง” ผมว่าลุงมันดูแก่ไปหน่อย ขนาดหลานตัวเล็กสองคนที่บ้านยังเรียกอาเลย
“เรียกลุงนั่นแหละดีแล้ว” ดูๆแล้วอายุของเขาคงน้อยกว่าแม่ของฉันไม่กี่ปี แม่ของฉันอายุ 42 ปี เท่านั้น ส่วนน้าแสน สามีแม่ อายุ 35 ปี ใช่ค่ะแม่ฉันมีสามีเด็ก
“ลุงอายุเท่าไหร่คะ” ปากฉันกำลังคุยอยู่ก็จริง แต่มือของฉันก็ทำงานจัดดอกไม้ไปด้วย
“สามสิบแปด” นั่นไง เขาอายุน้อยกว่าแม่ฉันนิดเดียวเอง ถ้าจะให้เรียกก็น่าจะต้องเรียกอา เพราะฉะนั้นเรียกลุงนั่นแหละดีแล้ว
“หนูอายุยี่สิบ...” ฉันยังพูดไม่ทันจบ!
“เห็นในใบสัญญาเมื่อกี้นี้แล้ว ชื่อกระต่ายใช่มั้ย”
“ใช่ค่ะ หนูชื่อกระต่าย ทำไมลุงถึงทำงานแบบนี้คะ”
“..........” เขาเงียบ พร้อมกับมองมาที่ใบหน้าของฉันนิ่งๆ
“อ่อลืมไป ห้ามถามเรื่องส่วนตัว”
“งานสบาย เงินดีมั้ง” งานสบายเงินดีกับผีน่ะสิ โดนหลอกมาต่างหากล่ะ แต่ถ้าจะให้ตอบออกไปแบบนั้นคงไม่ดี
“ทำไมถึงต้องเช่าลุง” ผมขอถามเธอบ้าง
“ก็หนูเหงานี่คะ” เหงานิดเดียว แต่ที่มากไปกว่านั้นคือฉันเมาค่ะ เช่ามาแบบละเมอ จะว่าฝันไปก็ไม่น่าจะใช่หรอก เพราะฉันจำได้ทุกอย่าง แต่ที่เช่าลุงมาน่าจะเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบตอนไม่มีสติมากกว่า
“เจ็ดวันนี้ ผมต้องทำอะไรบ้าง”
“ยังไม่รู้เลย ลุงทำงานบ้านได้มั้ย”
“งานบ้านเหรอ...ก็ได้นะ”
“ถ้าอย่างนั้นลุงก็ช่วยหนูทำงานบ้านปัดกวาดเช็ดถู แล้วก็เป็นเพื่อนคุยกับหนูก็แล้วกันค่ะ” ครั้นจะให้นั่งว่างๆก็เสียดายเงินที่จ่ายให้ไป คนอย่างฉันไม่มีทางยอมขาดทุนหรอก!
“ผมมีเรื่องอยากจะรบกวน คุณลูกค้านิดหน่อยได้มั้ยครับ”
“ได้ค่ะ พูดมาเลย” ถึงฉันจะเป็นคนขี้งกแต่ฉันก็เป็นคนใจดีนะ
“บ้านผมอยู่ไกล จะให้เดินทางไปกลับก็คงไม่สะดวกนัก ไหนๆคุณก็เช่าผมตั้งเจ็ดวัน ขอผมพักที่นี่ได้มั้ยครับ” จบประโยคนี้ของผม เธอมองหน้าผมนิ่งๆราวกับกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ ส่วนผมก็มองหน้าเธอเช่นกัน หวังจะเอาคำตอบ...เธอคงไม่ได้พักที่นี่หรอกมั้ง
“.........” เขาขอพักอยู่กับฉันที่นี่ ฉันจะไว้ใจเขาได้ยังไง ผู้หญิงกับผู้ชายอยู่ด้วยกันสองต่อสอง แต่ในเงื่อนไขของทางร้านที่ฉันอ่านเมื่อคืน...ก็พอที่จะเชื่อใจและไว้ใจในความปลอดภัยได้อยู่
"หนูก็พักอยู่ที่นี่ ลุงนอนโซฟาได้มั้ย” ถือโอกาสนี้ใช้งานเขาเล็กๆน้อยๆด้วยเลยแล้วกัน ช่วงนี้ร้านฉันกำลังรกเลย ค่าเช่าลุงที่ฉันจ่ายให้เขาไป ฉันจะใช้แรงงานเขาให้คุ้มค่า...เรื่องอะไรฉันจะยอมขาดทุน!
“ก็ดีกว่าไม่มีที่นอน...ตกลง ผมนอนโซฟาก็ได้”
“เรื่องกิน...กินใครกินมันก็แล้วกัน หนูเช่าลุงมาก็จริง แต่ในเงื่อนไขไม่ได้บอกให้หนูต้องเลี้ยงลุงด้วยสักหน่อย” ขี้งก!
“ได้ผมหากินเอง ที่นี่อยู่ในตลาดเรื่องกินไม่ต้องเป็นห่วง ผมจัดการตัวเองได้”
“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นก็ตามนี้”
“คุณกำลังทำอะไรอยู่เหรอครับ” ต้องพูดจาดีๆกับลูกค้า เดี๋ยวจะเสียชื่อร้านเหล้าของไอ้เพื่อนชั่วนั่น
“กำลังจัดดอกไม้ตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าสั่งค่ะ”
“ว่ากันว่า...ดอกไม้แต่ละชนิด แต่ละสี มีความหมายที่แตกต่างกันไป” ผมเริ่มชวนเธอคุย
“ใช่ค่ะ”
“เล่าให้ฟังหน่อยสิ เริ่มจากกุหลาบในมือที่กำลังจัดช่ออยู่ก็ได้”
“ดอกกุหลาบสีแดง บ่งบอกถึงความรัก สื่อเป็นความหมายที่คนทั้งโลกเข้าใจตรงกัน มักมอบให้กับคนที่รักกัน เพราะสีแดงนั้นเปรียบเสมือนสีของหัวใจ”
“แล้วสีขาวล่ะ”
“ดอกกุหลาบสีขาว คือสัญลักษณ์ของความรักที่บริสุทธิ์ ไม่หวังผลใดๆ ตอบแทน เหมาะสำหรับมอบให้กับผู้มีพระคุณ และผู้ที่อาวุโสกว่า อย่างเช่นพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่มั้งคะ”
“มีสีเหลืองด้วย ผมไม่ค่อยเคยเห็นสีนี้สักเท่าไหร่”
“ดอกกุหลาบสีเหลือง คือสัญลักษณ์ของมิตรภาพและความห่วงใยที่มีให้กัน ส่วนมากลูกค้าจะนิยมนำดอกกุหลาบสีเหลืองไปเยี่ยมคนป่วยค่ะ มันมีสีสัน มองแล้วสดชื่นดี คนป่วยจะได้มีแรงมีกำลัง จะได้หายป่วยเร็วๆไงคะ”
“ไม่ทราบว่าช่อที่คุณจัดอยู่นี่ ราคาเท่าไหร่ แพงมั้ยครับ” ช่อในมือของเธอที่กำลังจัดอยู่เป็นกุหลาบแดง จำนวนดอกน่าจะประมาณสามสิบดอกได้มั้ง
“ของแบบนี้ แพงไม่แพงขึ้นอยู่กับความพอใจ ก็เหมือนที่หนูเช่าลุงมาไงคะ”
".........." เธอเต็มใจเช่า แต่ผมไม่ได้เต็มใจมาเลยสักนิด