ตอนที่ 1
“จันทร์... เดี๋ยวตอนเย็นวันนี้เธอออกไปไซต์งานกับฉันนะ”
เสี่ยหมงผู้เป็นเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่ฉันเพิ่งเข้าทำงานได้ไม่ถึงเดือน ชะโงกใบหน้าเข้ามาบอก หลังจากฉันเข้ามาถึงที่ทำงานได้เพียงอึดใจ เพิ่งจิบกาแฟเข้าไปได้เพียงครึ่งแก้ว ก็มีอันต้องสะดุด
“ได้ค่ะเสี่ย”
ฉันรับคำแล้ววางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะ
อันที่จริงฉันไม่ถนัดงานเลขาเลยสักนิด แต่จะทำอย่างไรได้... ในเมื่อฉันตั้งใจว่าจะเข้ามาสมัครงานในตำแหน่ง ‘บัญชี’ ซึ่งเป็นงานถนัด แต่กลับได้งาน ‘เลขา’ ซะงั้นโดยไม่ตั้งใจ
แต่ฉันก็พอจะรู้ว่าเพราะอะไรเสี่ยหมงจึงอยากให้ฉันเป็นเลขาส่วนตัวให้เขา ถ้าไม่ใช่เพราะหน้าอกขนาดสามสิบหกนิ้วและสะโพกดินระเบิดที่ทำให้เสี่ยหมงจ้องตาไม่กระพริบ ก่อนตัดสินใจรับฉันเข้าทำงานทั้งที่เพิ่งทำการสัมภาษณ์เพียงไม่กี่คำ
มองปราดเดียวฉันก็รู้ว่าเสี่ยหมงหัวงูและเจ้าชู้แค่ไหน โชคดีที่เจ๊เกียวภรรยาของแกแวะเข้ามาที่ออฟฟิศบ่อยๆ เสี่ยหมงเลยขยับไปทำเจ้าชู้ที่ไหนไม่ได้ นับเป็นข้อดีที่ทำให้ฉันยังรอดปากเหยี่ยวปากกามาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งที่รู้ว่าเสี่ยหมงพยายามหาโอกาสแทะโลมฉันอยู่บ่อยครั้ง
เสี่ยหมงเป็นเศรษฐีเจ้าของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านรับเหมาก่อสร้างมานานหลายสิบปี ส่วนใหญ่รับงานก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่นคอนโดมิเนียม ห้างสรรพสินค้าและโรงงาน รวมถึงงานก่อสร้างขนาดเล็กรองลงมาเช่น
อพาร์ทเมนต์ รวมไปถึงที่พักอาศัยสไตล์บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์
“เดี๋ยวไปรถเสี่ยสะดวกกว่า... ”
เสี่ยหมงรีบบอก เมื่อเห็นว่าฉันกำลังยกหูโทรศัพท์โทรบอกคนขับรถ เพราะว่าบางครั้งเสี่ยก็มักเดินทางด้วยการนั่งรถตู้ แต่วันนี้แกมาแปลก
ครู่ใหญ่ๆ ต่อมา ฉันหอบแฟ้มเอกสามตามาทรุดร่างรัดรึงลงนั่งเคียงข้างเสี่ยหมงซึ่งนั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับ
ไม่นานรถเบนซ์สีทองอร่ามคันหรูก็แล่นออกมาสู่ประกายแสงแดดของยามสาย ฝ่าการจราจรคับคั่งของกรุงเทพมหานครมาจนถึงบางใหญ่อันเห็นจุดหมาย
ระหว่างทางที่นั่งมาด้วยกันฉันสังเกตเห็นว่าสายตาหื่นของเสี่ยหมงเหลือบมองต้นขาขาวๆ ของฉันหลายครั้งเพราะกระโปรงที่ค่อนข้างสั้น เมื่อรู้ตัวฉันจึงทำทีเอาแฟ้มเอกสารมาปิดเพื่อความปลอดภัย อันที่จริงฉันไม่ได้ตั้งใจจะยั่วยวนเขาเลยสักนิด แต่ที่ชอบนุ่งกระโปรงสั้นก็เพราะว่ามันคล่องแคล่วเวลาทำงาน
รถเบนซ์คันหรูของเสี่ยหมงแล่นมาจอดที่ไซต์งานซึ่งว่าจ้างให้บริษัทของเขาเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการก่อสร้าง
เสี่ยใหญ่กดโทรศัพท์พูดคุยกับใครสักคน ฉันเดาว่าต้องเป็นวิศวกรผู้ควบคุมงานก่อสร้างคอนโดที่แลเห็นเป็นรูปเป็นร่างของแท่งซีเมต์สี่แหลี่ยมขนาดใหญ่สูงตระหง่านอยู่เบื้องหน้า เห็นรถผสมปูนหลายคันกำลังแล่นสวนออกมา สลับให้รถพ่วงสิบแปดล้อคันใหญ่ขนนั่งร้านเข้าไปข้างในแนวรั้วสังกะสีของเขตก่อสร้าง
“ออฟฟิสอยู่ทางโน้น”
เสี่ยหมงหันมาบอกฉัน เพราะรู้ว่าฉันเพิ่งมีโอกาสมาที่ไซต์งานแห่งนี้เป็นครั้งแรก ออฟฟิศที่เขากำลังชี้มืออยู่นั้นก็คือตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ วางอยู่ด้านข้างรั้วซึ่งตีล้อมเอาไว้ด้วยสังกะสีแผ่นสีเขียวเป็นแนวยาวตลอดแขตแนวของการก่อสร้าง
“สวัสดีครับเสี่ย”
ทันทีที่ประตูเปิดออกมา ร่างสูงใหญ่ในชุดทำงานก่อสร้างหรือที่บางคนเรียกว่า ‘ชุดหมีช่าง’ สีเทา ก็ก้าวออกมาจากประตูของตู้คอนเทนเนอร์ที่ประยุกต์เป็นสำนักงานเคลื่อนที่
“เป็นไงบ้างเควิน... ช่วงนี้งานมีปัญหาติดขัดอะไรมั้ย”
เสี่ยใหญ่ถามเมื่อเข้ามาทรุดร่างลงนั่งบนโซฟาซึ่งกั้นพาร์ทิชั่นเป็นห้องรับแขกเล็กๆ ลึกเข้าไปตามความยาวของตู้คอนเทนเนอร์
“ไม่มีปัญหาอะไรครับเสี่ย เหลือแค่เทพื้นชั้นบนสุดครับ ตอนนี้รอให้ปูนชั้นล่างเซฟตัวเท่านั้น”
คนที่ถูกเรียกว่า ‘เควิน’ รายงานถึงความคืบหน้าของงานก่อสร้างคอนโดสูงลิบลิ่ว
แววตาของเสี่ยหมงบ่งบอกถึงความพึงพอใจในตัวของเควินอย่างเห็นได้ชัด ไม่เสียแรงที่เขามอบหมายงานโครงการใหญ่ๆ ให้เควินเป็นคนควบคุมงาน เพราะว่าหนุ่มลูกครึ่งคนนี้สามารถดูแลรับผิดชอบงานได้อย่างดีเยี่ยม ลูกน้องทุกคนที่เคยได้ร่วมงานต่างก็ให้ความเคารพเขาด้วยกันทั้งนั้น
“นี่จันทร์เจิดเลขาของผม”
เสี่ยหมงหันมาแนะนำฉันที่กำลังยืนมองเควินตาไม่กระพริบด้วยความลืมตัว เขาช่างเป็นผู้ชายที่หล่อเหลาเสียนี่กระไร แม้ตอนนั้นร่างกายใหญ่โตจะถูกซ่อนเอาไว้ภายใต้ชุดหมีช่างตัวใหญ่ หากหลังไหล่ที่แลดูตึงเต็มสุดสมาร์ท ก็ยืนยันว่าเขาเป็นผู้ชายกำยำล่ำสันสุดๆ
“สวัสดีครับคุณจันทร์เจ้า”
เควินหันมาส่งยิ้มหวาน แซวฉันอย่างอารมณ์ดี ไม่น่าเชื่อว่ามันทำให้หัวใจของฉันกระตุกวูบ
“จันทร์เจิดค่ะ... ไม่ใช่จันทร์เจ้า”
“ครับ... คุณจันทร์เจิด”
“เรียกจันทร์เฉยๆ ก็ได้ค่ะ”
ฉันเอ่ยขึ้นเบาๆ พยายามใส่จริตลงในน้ำเสียงจนฟังดูหวานหยาด เควินเองก็ตะลึงมองสะโพก อก เอว ของฉันด้วยความลืมตัวจนเสี่ยหมงต้องรีบดึงความสนใจของเขาออกมาจากเรือนร่างรัดรึงของฉัน
“อะแฮ่ม... ไปเดินดูข้างนอกกันดีกว่า”
เสี่ยหมงกระแอมเป็นสัญญาณ
“ครับ”
เควินสะดุ้ง รีบเดินนำหน้าเสี่ยใหญ่ออกมาข้างนอกตู้คอนเทนเนอร์ ฉันรีบก้าวตามกระย่องกระแย่งเพราะรองเท้าส้นสูงเกินกว่าสี่นิ้วที่สวมอยู่ในตอนนั้นกำลังสร้างปัญหา
ฉันรู้ว่ารองเท้าส้นสูงปรี๊ดไม่ได้ถูกออกแบบเพื่อให้มาเดินนวยนาดอยู่ในไซต์งานก่อสร้างซึ่งควรจะสวม