ตอนที่ 5
วูลฟ์ยกมือขึ้นลูบหน้าเพื่อลดระดับความตึงเครียดอยู่หลายครั้งในระหว่างการสนทนากับแฟรงซ์ เมอร์ดิสันซึ่งเป็นคุณตาของตัวเอง
“ผมคิดว่าคุณตาจะอาการดีขึ้นกว่านี้ หรืออย่างน้อยๆ ก็ไม่ทรุดฮวบฮาบแบบเมื่อวานอีก หากคุณตายอมทานข้าวกับยาตามที่คุณหมอจัดมาให้”
“ข้าวมันไม่อร่อย แล้วอีกอย่างแม่เกรซี่ก็จู้จี้มากเกินไป ตารำคาญ”
แฟรงซ์เอ่ยถึงนางพยาบาลคนที่สามสิบสามที่วูลฟ์จัดการเนรเทศออกไปจากเมอร์ดิสัน พาเลซตั้งแต่ที่เกิดเรื่องขึ้นเมื่อวานนี้
วูลฟ์ถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ เดินเข้ามาทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้นข้างๆ กับรถเข็นของแฟรงซ์ มองท่านด้วยความห่วงใยอย่างแท้จริง
“ผมไล่เธอออกไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะครับ โทษฐานที่ไม่สามารถจับกลลวงของคุณตาได้”
ได้ยินเช่นนั้นแฟรงซ์ก็หัวเราะเบาๆ ด้วยความขบขัน
“แกนี่เผด็จการมากขึ้นทุกวันเลยนะเจ้าวูลฟ์ ป่านนี้แม่เกรซี่นั่นไม่ร้องไห้ขี้มูกโป่งไปแล้วหรือที่ต้องห่างจากผู้ชายเพอร์เฟ็กต์อย่างแกน่ะ”
สิ้นเสียงของผู้เป็นตา คราวนี้ก็เป็นทีของวูลฟ์ที่หัวเราะขึ้นมาบ้าง
“ผมอยู่ห่างไกลจากคำว่าเพอร์เฟ็กต์นักครับคุณตา และถึงแม้นางพยาบาลทุกคนของคุณตาจะมีจุดประสงค์บางอย่างซึ่งแน่นอนว่าเกี่ยวกับผมซ่อนเร้นอยู่ แต่ผมมั่นใจว่าพวกหล่อนจะไม่ทำงานผิดพลาดหากคุณตาให้ความร่วมมือ” น้ำเสียงของวูลฟ์อ่อนโยนกว่าปกตินักเวลาที่พูดกับผู้มีพระคุณ
แฟรงซ์ยิ้มน้อยๆ มองหลานชายอย่างคาดหวัง
“ถ้าไม่อยากให้ตาป่วยอีก แกก็รีบไปรับหลานสาวของคุณเนาว์มาเป็นเมียสิ”
แม้จะไม่เห็นด้วยเลยแต่วูลฟ์ก็ไม่เคยคิดจะปฏิเสธความต้องการของแฟรงซ์มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว อะไรที่สามารถทำให้ได้ วูลฟ์จะไม่รีรอเลยสักนิด
“ผมกำลังหาโอกาสเหมาะๆ อยู่ครับ”
“ไม่ได้...ตารอไม่ไหวหรอก ตาอยากได้หลานสาวท่านเนาว์มาเป็นหลานสะใภ้ และตาสัญญาว่าจะกินยากินข้าวตามที่หมอสั่งทุกมื้อหากวูลฟ์รีบทำตามความต้องการของตา”
ความหวังที่สุกสกาวอยู่ภายในดวงตาของแฟรงซ์ทำให้วูลฟ์ไม่สามารถจะยื้อเวลาออกไปได้อีก เขายิ้มบางๆ ให้กับท่าน จากนั้นก็พยักหน้าน้อยๆ พลางตอบตกลงด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“ผมจะบินไปเมืองไทยในวันพรุ่งนี้ครับ และผมสัญญาว่า การกลับมาเมอร์ดิสัน พาเลซในครั้งต่อไปของผมจะต้องมีหลานสาวของคุณเนาว์ โชติวรรธนามาด้วยอย่างแน่นอน”
แฟรงซ์ยิ้มกว้างอีกครั้ง มองหลานชายด้วยความหวังเต็มเปี่ยม
“อย่าหลอกให้ตารอเก้อนะวูลฟ์ แต่ตาว่า...บินบ่ายนี้เลยไม่ได้หรือ นี่พึ่งสามโมงเช้าเอง พรุ่งนี้ตาว่าจะช้าไป”
ความใจร้อนอยากมีหลานสะใภ้ของคุณตาทำเอาวูลฟ์อดอมยิ้มออกมาน้อยๆ ไม่ได้ นี่ถ้าท่านรู้ว่าเขาไม่เต็มใจแม้แต่น้อย ท่านจะยังบังคับเขาอยู่แบบนี้หรือเปล่านะ วูลฟ์ตั้งคำถามที่ไม่มีคำตอบกับตัวเองอยู่ภายในใจ
“ผมมีนัดตอนบ่ายโมงครับ และกว่าธุระจะจบก็น่าจะเลยเถิดถึงบ่ายสาม”
“ก็ยกเลิกนัดไปเลยสิวูลฟ์ นี่อย่าคิดว่าตาไม่รู้นะว่าแกมีนัดกับใคร ผู้หญิงใช่ไหม?”
คำพูดรู้ทันของแฟรงซ์ใช้ไม่ได้กับคนอย่างวูลฟ์ เมอร์ดิสันหรอก เพราะคนอย่างเขาไม่เคยให้ผู้หญิงมายุ่งวุ่นวายในเวลาทำงาน พวกหล่อนมีประโยชน์เฉพาะยามอยู่บนเตียงเท่านั้นแหละ
“ผมไม่เคยมีสมองสำหรับผู้หญิงคุณตาก็น่าจะรู้...เอาละ...”
หนุ่มหล่อระเบิดกุมมือเหี่ยวๆ ของผู้มีพระคุณเอาไว้ บีบหนักๆ อย่างให้กำลังใจ จากนั้นจึงลุกขึ้นยืนเต็มความสูงหกฟุตสี่นิ้ว
“ผมคงต้องไปแล้ว และหน้าที่ดูแลคุณตาต่อจากนี้ไปจะเป็นของแอนนา”
นิ้วแกร่งของวูลฟ์ดีดกันจนเกิดเสียงดังพอประมาณ และนั่นก็เป็นสัญญาณเรียกให้นางพยาบาลคนล่าสุดเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของหนุ่มต่างวัยทั้งสองคน
แฟรงซ์เบิกตากว้างมองพยาบาลที่เขามั่นใจว่าหุ่นน่าเกลียดที่สุดในหมู่นางพยาบาลทั่วโลกด้วยความตื่นตะลึง แถมวัยของเจ้าหล่อนก็น่าจะเลยเลขสี่มานานหลายปีแล้วด้วยซ้ำ แฟรงซ์หันไปมองหลานชายที่ยืนยิ้มอยู่คล้ายกับต้องการจะถามว่าแอนนาเป็นนางพยาบาลจริงๆ เหรอ ซึ่งเจ้าหลานชายตัวแสบก็พยักหน้า แถมยังยืนยันเสียงดังฟังชัดจนคนฟังอย่างเขาแทบลมจับกับความตื่นตาตื่นใจในทางลบที่ได้เห็น
“แอนนา นีล พยาบาลพิเศษของคุณตาครับ”
“แกคงไม่ได้คิดจะฆ่าตาทางอ้อมใช่ไหม”
วูลฟ์หัวเราะเบาๆ มองแฟรงซ์ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“ผมก็แค่ไม่อยากรำคาญใจกับสายตาของนางพยาบาลพิเศษของคุณตาอีกน่ะครับ”
“แกก็เลยเอาเลือกช้างน้ำมาดูแลฉัน”
แฟรงซ์เอ่ยเยาะเสียงขึ้นจมูก มองหน้านางพยาบาลตัวอ้วนกลมด้วยสายตาเบื่อหน่าย ปกติเขาไม่ใช่คนเจ้าชู้อะไรหรอก แถมสังขารก็ล่วงเลยมาปูนนี้แล้ว แต่ที่อยากได้สาวๆ ก็เพราะจะได้มีอะไรเป็นอาหารหูอาหารตาเท่านั้นเอง
“แอนนาเป็นพยาบาลครับ เธอเป็นนางพยาบาลยอดเยี่ยมห้าปีซ้อน และมั่นใจได้เลยว่าคนไข้ที่เธอดูแลทุกคนจะไม่สามารถซ่อนยาเอาไว้ใต้ลิ้น หรือในกางเกงในได้อย่างแน่นอน แล้วที่สำคัญก็คือคนไข้ทุกคนจะเจริญอาหารจนอ้วนพี”
“ไม่อยากเชื่อ ตาว่าแม่นี่คงแย่งอาหารคนไข้กินเองซะมากกว่าถึงได้อ้วนเป็นหมูแบบนี้” แฟรงซ์สบประมาทอย่างไม่เกรงใจ หงุดหงิดนักที่ถูกหลานชายทำแบบนี้ใส่
“ผมไม่อยากให้คุณตาสบประมาทแอนนาจนกว่าเธอจะได้โชว์ฝีมือ”
“แต่ตาอยากได้พยาบาลคนใหม่”
วูลฟ์ระบายยิ้มน้อยๆ ดวงตาคมกริบจ้องมองประสานกับสายตาของแฟรงซ์นิ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง
“ผมคงหานางพยาบาลคนใหม่ให้คุณตาภายในเร็วๆ นี้ไม่ได้หรอกครับ ทนอยู่กับแอนนาจนกว่าผมจะพาเจ้าสาวคนสวยกลับมาจากเมืองไทยดีกว่าครับ”
คำว่าเจ้าสาวทำเอาแฟรงซ์ต้องถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ และด้วยความอยากได้หลานสะใภ้ที่มีสายเลือดของเพื่อนสนิททำให้แฟรงซ์ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากยอมก้มหน้าให้แม่พยาบาลที่หุ่นน้องๆ ช้างดูแลต่อไป
“ก็ได้ แต่แกต้องรีบกลับมานะวูลฟ์” แฟรงซ์กำชับหลานชาย ก่อนจะปรายตามองแอนนาด้วยสายตาไม่พึงพอใจนัก
“ก่อนที่ตาจะถูกแม่แอนนากินเข้าไปทั้งตัว”
วูลฟ์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขบขัน
“ถ้าคุณตาไม่ดื้อ รับรองได้ว่าต่อให้แอนนาหิวแค่ไหนก็ไม่มีทางจับคุณตากินหรอกครับ เอาละ ผมต้องไปแล้ว”
นาฬิกาแบบบุรุษถูกยกขึ้นมอง ก่อนที่เจ้าของจะหันไปพูดกับนางพยาบาลที่ยืนก้มหน้ารอฟังคำสั่งอยู่ข้างๆ ด้วยน้ำเสียงเผด็จการ
“หากดูเผินๆ คุณตาของผมอาจจะดูไร้พิษสง แต่ความจริงแล้วท่านมีพิษสงอยู่รอบกาย และเวลาให้ยาท่านทาน อย่าลืมค้นในกางเกงในท่านด้วยล่ะ เพราะท่านชอบซ่อนยาเอาไว้ในนั้น”
“ค่ะคุณวูลฟ์ รับรองได้เลยว่าดิฉันจะค้นทุกซอกทุกมุมเลย ไม่เว้นแม้แต่ในกางเกงใน”
“เจ้าวูลฟ์!”
แฟรงซ์เค้นเสียงขุ่นเรียกหลานชาย ก่อนจะเหลือบตามองพยาบาลร่างยักษ์ด้วยสายตาสยองขวัญ แม่นี่เวลาหิวคงจะงับหัวเขาเข้าไปได้ทั้งหมดแน่นอน
“ผมไปแล้วนะครับคุณตา และหากมันจะทำให้คุณตาอารมณ์ดีขึ้น ผมจะบินไปเมืองไทยภายในเย็นวันนี้ ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าหลานสะใภ้ของคุณตาจะเดินทางมาเมอร์ดิสัน พาเลซในเร็วๆ นี้เช่นกัน”
คำพูดของหลานชายทำให้แฟรงซ์อารมณ์ดีขึ้นจริงๆ ชายชรายิ้มกว้างด้วยความดีใจจนลืมแม่แอนนาพยาบาลตัวใหญ่ไปซะสนิท
“ตาดีใจที่สุดเลย รีบไปเลยวูลฟ์ ตาชักจะอดใจรอพบหน้าหลานสะใภ้ไม่ไหวแล้ว”
คุณตาของเขาดีใจ แต่ทำไมนะ ทำไมเขาถึงไม่ได้รู้สึกอะไรเช่นนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว น่าเบื่อยิ่งนักกับการที่ต้องไปผูกติดกับใครอีกคนหนึ่งที่ไม่รู้จัก เขาเคยเห็นหน้าแม่พุดซ้อนนี้จากรูปถ่ายที่ท่านเนาว์ส่งให้ดูเมื่อสามอาทิตย์ก่อน แต่เขาไม่ได้สนใจจะมองนัก จึงทำให้เขาจดจำหน้าเจ้าหล่อนแทบไม่ได้ ซึ่งตรงกันข้ามกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่เขาไม่เคยลืมไปจากสมองเลยตั้งแต่ได้สบตา ผู้หญิงที่ชื่อสโรชา เกษมกุล!
ผู้หญิงประวัติฉาวโฉ่ ผู้หญิงหน้าเงินที่เห็นผู้ชายเป็นถังข้าวสาร และก็เป็นหล่อนนี่แหละที่ขโมยกระเป๋าสตางค์ของเขาไปเมื่อสามอาทิตย์ก่อน ตอนที่เขาห้ามใจไม่ไหวแล้วเผลอตัวจูบเจ้าหล่อน ปากหวานๆ คู่นั้นยังตราตรึงอยู่ในสมองอย่างไม่เสื่อมคลาย แม้ว่าต่อจากวันนั้นเขาจะนอนกับผู้หญิงอีกหลายต่อหลายคน แต่รสชาติความหอมหวานนั้นก็ยังไม่ยอมลบเลือน เขาปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไม่คิดถึง ไม่อยากนอนกับเจ้าหล่อน แม้ประวัติของหล่อนจะต่ำช้าสักแค่ไหน แต่บางส่วนของกายหนุ่มก็ยังโหยหาและต้องการหล่อนอย่างบ้าคลั่ง
‘บ้าชะมัด! เขาไม่ควรจะรู้สึกอะไรกับผู้หญิงไม่ใช่หรือ โดยเฉพาะผู้หญิงที่ประพฤติตัวเหลวแหลกอย่างสโรชา เกษมกุล’ วูลฟ์ร้องถามตัวเองด้วยความกังขา และก็ได้คำตอบที่น่าพึงพอใจให้กับตัวเอง
‘ก็เพราะเขาเป็นผู้ชายยังไงล่ะ ดังนั้นหากอยากจะปลดปล่อยความใคร่ในตัวของผู้หญิงสักคนก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะต่ำช้าและเหลวแหลกไม่ผิดจากโสเภณีก็ตาม’
วูลฟ์สลัดความคิดอันน่าสะอิดสะเอียนนี้ออกไปจากสมองอย่างยากลำบาก ก่อนจะหันไประบายยิ้มบางๆ ให้กับคุณตาของตัวเอง
“ผมสัญญาว่าจะรีบกลับมาครับ”
“ใช่...แกต้องรีบกลับมาอยู่แล้วล่ะเจ้าวูลฟ์ เพราะหากแกมาช้าละก็ ฉันอาจจะถูกแม่นางพญายม...เอ่อ...นางพยาบาลแอนนากินเข้าไปทั้งตัวก็เป็นได้”
“ดูพูดเข้าสิครับคุณตา เดี๋ยวแอนนาก็เสียความรู้สึกกันพอดีครับ”
“ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะคุณวูลฟ์ ความรู้สึกของดิฉันอึด ถึก และทนทานเหมือนกับหน้าตานั่นแหละค่ะ ต่อให้คุณแฟรงซ์บ่นทั้งวัน ดิฉันก็ทนได้ค่ะ”
“ไม่ต้องบอกสรรพคุณหรอก เพราะแค่มอง ฉันก็รู้แล้วล่ะว่าเธอน่ะถึกแค่ไหน” แฟรงซ์เค้นเสียงขึ้นจมูกใส่หน้าแอนนา ก่อนจะหันไปพูดกับหลานชายที่ยืนยิ้มบางๆ อยู่ตรงหน้า
“ตาจะนับวันรอนะ ถ้าแกหลอกตาเมื่อไร ตาจะหนีไปหายมบาลจริงๆ ด้วย”
“ครับ ผมสัญญา เอาละ คราวนี้ผมต้องไปจริงๆ แล้ว แล้วเจอกันนะครับคุณตา”
วูลฟ์ก้มศีรษะเล็กน้อยให้กับแฟรงซ์เป็นเชิงทำความเคารพ ก่อนจะหันไปกำชับแอนนาเรื่องการดูแลคุณตาอีกครั้ง จากนั้นก็เดินหายไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้แฟรงซ์อยู่กับแอนนาตามลำพัง
“คุณแฟรงซ์อยากไปในสวนไหมคะ”
“ไม่...แค่เธอไปให้ไกลๆ ฉันก็พอ”
แฟรงซ์หันทำหน้าเบ้ และทำท่าจะหมุนล้อรถเข็นให้ไปข้างหน้าด้วยตัวเอง แต่แอนนาไม่ยอมรีบเข้ามาเข็นให้
“คงไม่ได้หรอกค่ะ ดิฉันจะต้องดูแลคุณแฟรงซ์โดยมิให้ขาดตกบกพร่อง และเชื่อเถอะว่าเมื่อคุณวูลฟ์กลับมาคราวนี้จะต้องดีใจแน่ที่เห็นคุณแฟรงซ์น้ำหนักขึ้น”
แฟรงซ์ทำหน้าพะอืดพะอมขณะปล่อยให้แอนนาแม่พยาบาลร่างยักษ์เข็นรถเข็นมุ่งหน้าตรงไปยังสวนร่มรื่นที่มีอยู่แทบจะทุกมุมของเมอร์ดิสัน พาเลซอย่างไม่มีทางเลือก