บทย่อ
ล้างน้ำทะเลออกซะอิงฟ้า ผมอยากกิน อยากจูบคุณแล้วได้รสชาติความหวานจากผิวกายของคุณ ไม่ใช่เจอความเค็มของน้ำทะเลที่คุณลงไปแช่มาหลายชั่วโมง”“คนสารเลว อย่านะ อย่ามายุ่งกับฉัน”“ถอดเสื้อ ผมจะฟอกสบู่ไปทุกตารางนิ้วบนตัวคุณ ไม่เว้นแม้กระทั่งตรงที่ผมใช้ลิ้นละเลงจนคุณครางไม่หยุดปาก”อิงฟ้ากัดปากกลั้นเสียงคราง เมื่อนายหัวรามินเลื่อนมือมาประกบตรงเป้าหมายที่เขาพูดถึง“ฉันจะไม่ให้คุณจูบ และจะไม่ทำตามคำสั่งของคุณอีก”“เสียใจด้วยคนสวย เพราะผมกำลังจะจูบอีกครั้งแล้ว”ในอดีตชาติ ‘นายหัวรามิน กุลธร’ ถูกดาราชื่อดังอย่าง ‘ลลิน’ หลอกให้หลงรัก ก่อนจะปอกลอกสมบัติไปจากเขามากมาย จากนั้นลลินก็ตัดความสัมพันธ์กับรามิน ทำเอานายหัวรามินเสียใจกระทั่งฆ่าตัวตายก่อนจะลั่นไกฆ่าตัวตาย รามินบอกกับตัวเองว่าจะไม่รักผู้หญิงคนไหน หากไม่ได้หัวใจของเธอมาครอบครองเสียก่อน นอกจากนั้นได้อธิษฐานขอให้ตัวเองมีโอกาสกลับชาติมาเกิด เพื่อกลับมาแก้แค้นคนที่ทำให้เขาเจ็บปวดไม่ต่างจากตายทั้งเป็น!นายหัวรามินกลับชาติมาเกิดอีกครั้ง กลับมาพร้อมกับความแค้น! เพื่อทำลายศัตรูให้ย่อยยับด้วยน้ำมือของเขา และคนที่ตกอยู่ในเกมการแก้แค้นก็คือ ‘อิงฟ้า’ ลูกสาวของลลินนั่นเอง
บทที่ 1
ร้านอาหารหรูหราย่านทองหล่อ ซึ่งเปิดเป็นกึ่งร้านอาหารกึ่งผับ ที่เหล่าบรรดาไฮโซในกรุงเทพฯ ต่างก็แวะเวียนไปนั่งกินมื้อค่ำเคล้าเสียงเพลง ดื่มด่ำกับบรรยากาศในยามค่ำคืนของเมืองหลวงอันแสนศิวิไลซ์ กำลังคลาคล่ำไปด้วยบัณฑิตจบใหม่เกือบสามสิบคน ที่ได้เหมาร้านอาหารแห่งนี้ เพื่อเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงฉลองรับปริญญาบัตรโดยเฉพาะ
แน่นอนว่าร้านอาหารหรูหราแพงหูฉี่ขนาดนี้ ต้องเป็นบรรดาลูกๆ ของเศรษฐีกระเป๋าหนัก ถึงจะมีปัญญาเหมาร้านหรูเพื่อจัดงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ได้
บัณฑิตจบใหญ่เกือบสามสิบคน ทั้งชายและหญิง ต่างก็เปิดแชมเปญราคาแพงเลี้ยงฉลองความสำเร็จของตนเอง และหนึ่งในลูกมหาเศรษฐี ซึ่งเป็นบัณฑิตสาวแสนสวยเพิ่งคว้าใบปริญญาบัตรมาอยู่ในมือนั่นก็คือ ‘อิงฟ้า’ ลูกสาวคนแสนและชาญฉลาดของ ‘ลลิน หรือลิลลี่’ อดีตดารานางแบบชื่อดังของประเทศไทย
อิงฟ้า เจ้าของเรือนร่างอรชร งดงามไม่แพ้ผู้เป็นมารดา ขณะเรียนในมหาวิทยาลัย อิงฟ้าได้รับคัดเลือกให้เป็นดาวมหา’ลัย และนอกจากนั้นยังรับงานพิเศษด้วยการเดินแบบ ถ่ายปกนิตยสารเป็นบางครั้งบางคราว
อิงฟ้า สวยโดดเด่นในหมู่ผองเพื่อนเสมอ และในวันนี้ก็เช่นเดียวกัน หญิงสาวปรากฏตัวในชุดเดรทสั้นเปิดไหล่สีแดงเพลิง บนลำคอระหงประดับด้วยสร้อยทองคำขาวห้อยจี้เพชรหยดน้ำราคาแพง ส่งให้หญิงสาวดูงดงามเป็นที่ต้องตาต้องใจของเพื่อนชายหลายๆ คน รวมถึง ‘กริน’ ที่หลงรักและเฝ้าตามจีบอิงฟ้ามาตั้งแต่เรียนปีหนึ่งด้วยกัน
เมื่อเพื่อนๆ ทุกคนเดินทางมาถึงร้านอาหารครบแล้ว อิงฟ้าก็ทำหน้าที่เปิดแชมเปญขวดแรก เพื่อเลี้ยงฉลองความสำเร็จในค่ำคืนนี้
“ดื่มให้กับบัณฑิตจบใหม่ ดื่มให้กับพวกเราทุกคนค่ะ”
อิงฟ้าชูแชมเปญขึ้นสูง พร้อมกับเอ่ยยินดีกับความสำเร็จของตน
“ดื่ม...”
บรรดาผองเพื่อน บัณฑิตมือใหม่ต่างก็ชูแก้วแชมเปญขึ้นสูง เอ่ยพูดออกมาพร้อมๆ กัน จากนั้นก็ชนแก้วรอบวงก่อนจะดื่มแชมเปญน้ำสีอำพันราคาแพงจนหมดแก้ว
แชมเปญราคาแพงไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ แก้วแรกถูกดื่มไปหมดแล้ว เด็กเสิร์ฟภายในร้านอาหารก็รินแชมเปญให้กับเหล่าบัณฑิตได้ดื่มอีก เรียกว่าคืนนี้มีแชมเปญราคาแพงให้ดื่มแบบไม่อั้น!
งานเลี้ยงในค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยสีสัน และความสนุกสุดเหวี่ยง นักดนตรีเล่นเพลงจังหวะร็อคให้เหล่าบัณฑิตขาแดนซ์ได้เต้นวาดลวดลายอย่างไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย
เสียงร้องเพลง เสียงกรี๊ด เสียงพูดคุยเฮฮาดังลั่นร้านอาหารแข่งกับเสียงดนตรี เสียงนักร้องที่ร้องเพลงไม่หยุดตามคำสั่งของบัณฑิตทั้งหลาย
“โอ๊ย...เหนื่อย...หิวน้ำ เต้นต่อไม่ไหวแล้ว อิงขอพักก่อนนะ”
อิงฟ้าร้องโอดครวญ หลังจากวาดลวดลายแดนซ์ชนิดลืมตายกับเพื่อนๆ เกือบสองชั่วโมงติดกันโดยไม่ได้หยุดพักแม้นาทีเดียว
หญิงสาวกวักมือเรียกเด็กเสิร์ฟ ซึ่งในมือมีถาดเครื่องดื่มเดินบริการแขกในร้านให้ได้ดื่มกินอย่างเต็มที่ พอเด็กเสิร์ฟเดินเข้ามาใกล้ บนถาดเงินในมือมีเครื่องดื่มเป็นน้ำสีอำพันล้วนๆ จึงบอกกับเด็กเสิร์ฟไปว่า
“ขอน้ำเปล่าเย็นๆ ให้ฉันหนึ่งแก้วด้วยค่ะ”
อิงฟ้าต้องการแค่น้ำดื่มเย็นๆ สักแก้ว เพราะเธอดื่มแชมเปญไปหลายแก้วแล้ว คงไม่ดีแน่หากต้องขับรถกลับในขณะที่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกำหนด
“ได้ครับ รอสักครู่นะครับ” เด็กเสิร์ฟรับคำพร้อมกับโค้งตัวให้ด้วยความนอบน้อม
อิงฟ้าพยักหน้ารับ พลางกวาดสายตามองภายในร้านอาหาร ซึ่งบรรดาเพื่อนๆ ของเธอกำลังวาดลวดลายเต้นกันอย่างสนุกสนาน เสียงดนตรียังคงดังกระหึ่มไม่หยุด ก็นึกอยากหามุมสงบเงียบๆ นั่งพักเหนื่อยเพียงลำพังสักครู่
ร่างบางในชุดสีแดงเพลิงสุดเซ็กซี่เร้าใจ เปิดประตูร้านออกกว้าง แล้วเดินออกมานั่งรับลมเย็นๆ รอให้เด็กเสิร์ฟนำน้ำดื่มมาเสิร์ฟให้
“น้ำครับ”
น้ำดื่มเย็นๆ ในแก้วทรงสูงถูกยื่นมาด้านหน้า ทว่าหาใช่เด็กเสิร์ฟที่นำน้ำดื่มมาให้อิงฟ้าไม่ แต่กลับเป็นกริน ที่นำน้ำดื่มมาให้หญิงสาวแทน
“ขอบใจจ้ะ”
อิงฟ้ารับน้ำดื่มมาจากมือของชายหนุ่ม ก่อนจะเอ่ยถาม หลังจากดื่มน้ำเย็นๆ จนหมดแก้วแล้ว
“ทำไมกรินถึงได้เอาน้ำมาให้อิงล่ะคะ แล้วเด็กเสิร์ฟหายไปไหมหมด”
“ผมเห็นเด็กเสิร์ฟกำลังจะเอาน้ำมาให้อิง ก็เลยอาสาเอามาให้เองครับ” กรินเอ่ยตอบ พลางพยักพเยิดมองเก้าอี้ที่อยู่ใกล้หญิงสาว แล้วเอ่ยขออนุญาตต่อ
“ผมนั่งด้วยได้ไหมครับ”
อิงฟ้าลอบถอนหายใจลึก อยากตอบปฏิเสธเหลือเกิน เพราะรู้ว่ากรินกำลังต้องการอะไรอยู่ แต่เมื่อไม่อาจปฏิเสธได้ จึงเอ่ยดักคออีกฝ่ายไว้ซะก่อน
“อยากนั่งก็นั่งเถอะค่ะ แต่อิงขอร้องว่าอย่าพูดเรื่องเดิมๆ กับอิงอีก”
กรินถึงกับหน้าเสียถอดสีซีด เมื่อถูกอิงฟ้าดักคอในเรื่องที่เขาต้องการพูดกับหญิงสาวในตอนนี้ ชายหนุ่มทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้ ทำใจกล้าคว้ามือเล็กของอิงฟ้ามากุมไว้ และแม้หญิงสาวเอ่ยห้ามไว้ กระนั้นก็ยังคงเอ่ยถึงความต้องการของตนเองจนได้
“อิง...คุณก็รู้นี่ครับว่าผมต้องการอะไร”
อิงฟ้าดึงมือเล็กออกจากมือใหญ่ของกรินอย่างรวดเร็ว ดวงตากลมโตถลึงมอง พร้อมกับเค้นเสียงต่อว่าด้วยความไม่พอใจ
“ไม่ต้องมาหว่านล้อมอิง ยังไงๆ อิงก็ไม่รับหมั้นกริน อิงไม่ได้รักกริน”
กรินตีหน้าเศร้า เจ็บปวดกับคำปฏิเสธอย่างไม่ใยดีของอิงฟ้า เขาหลงรักอิงฟ้าตั้งแต่เรียนปีหนึ่ง เขาเพียรจีบ เพียรทำคะแนนตลอดเวลาที่เรียนด้วย
กัน หวังว่าสักวันอิงฟ้าจะเห็นความดีและหลงรักเขาบ้าง แต่หญิงสาวกลับใจแข็งซะยิ่งกว่าหินผา...
ในวันเรียนจบการศึกษา เขาได้ขอหญิงสาวแต่งงานด้วยแหวนเพชรหนักถึงสามกะรัตราคาเหยียบล้าน แต่อิงฟ้ากลับปฏิเสธไม่สนใจเหลือบมองแหวนเพชรราคาแพงลิบแม้แต่นิดเดียว
“ผมรักอิงนะครับ อิงรับหมั้นผมก่อนไม่ได้หรือครับ เราลองคบกันสักระยะ ซึ่งผมเชื่อว่า ผมจะสามารถทำให้อิงรักผมได้อย่างแน่นอน”
อิงฟ้าถอนหายใจยาว อยากโต้ตอบกรินไปว่าตลอดเวลาสี่ปีที่ผ่านมา เขายังทำให้เธอรักไม่ได้ นับประสาอะไรกับการคบกันแค่ระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งยังไงๆ เธอก็ไม่มีทางรักเขาได้
“กริน ถ้ายังอยากเป็นเพื่อนกับอิงเหมือนเดิม ก็เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว”
“แต่...”
“อยากให้อิงตัดเพื่อนกับกรินใช่ไหม!”
อิงฟ้าขู่ฟ่อก่อนกรินจะทันได้เอ่ยพูดออกมา ดวงตาคู่สวยจ้องมองกรินเขม็ง ก่อนจะตัดบท ตัดความรำคาญด้วยการออกปากไล่อีกฝ่ายทางอ้อม
“อิงอยากนั่งพักคนเดียวเงียบๆ หวังว่ากรินคงจะเข้าใจนะคะ”
กรินกัดเม้มริมฝีปาก สูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อระงับความเจ็บปวดกับความรักไม่อาจสมหวัง เอ่ยรับคำของหญิงสาวที่ตนเองหลงรักด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ
“ถ้ายังงั้นกรินจะกลับเข้าไปดื่มกับเพื่อนๆ ต่อ แต่...ตอนกลับบ้าน อิงต้องให้กรินไปส่งนะครับ”
ยังมีข้อแม้มาในตอนท้าย แต่มีหรือที่อิงฟ้าจะยอม
“ไม่ต้องหรอกค่ะ อิงเอารถมา อิงขับกลับคนเดียวได้”
“แต่ดึกมากแล้ว อิงขับรถกลับคนเดียวมันอันตรายนะครับ”
กรินค้านออกมา ด้วยหวังว่าหญิงสาวจะยอมให้ตนเองขับรถไปส่งที่บ้าน และเขาอาจจะได้รับเชิญให้เข้าไปนั่งจิบกาแฟคุยกับหญิงสาวอีกสักชั่วโมง สองชั่วก่อนจะกลับบ้านของตนเอง
แต่...กริน มีอันต้องฝันสลาย เมื่ออิงฟ้ายังคงปฏิเสธเสียงแข็งเช่นเดิม
“อิงกลับเองได้ค่ะ กรินไม่ต้องไปส่งค่ะ”
“อิง...ให้ผมไปส่ง...”
“อิงปวดหัว อิงอยากอยู่เดียว”
อิงฟ้าไล่เสียงแข็ง ดวงตาคู่สวยจ้องมองกรินเขม็ง ก่อนจะเบือนหน้าหนี บอกให้รู้ว่าไม่อยากสนทนากับอีกฝ่ายอีกต่อไป
ถูกไล่สองครั้งสองครา แถมอิงฟ้ายังตีหน้าบึ้งใส่ บอกให้รู้ว่ากำลังโกรธเขาในทุกขณะ กรินจึงจำต้องยอมล่าถอยในที่สุด
“ก็ได้ครับ ถ้ายังงั้นกรินเข้าไปข้างในก่อนนะครับ”
อิงฟ้าพยักหน้ารับ โดยไม่ได้หันไปมองอีกฝ่าย หญิงสาวรู้ว่ากรินรักเธอมานาน นอกจากจะพยายามจีบเธอแล้ว กรินยังฉลาดเข้าหาทางญาติผู้ใหญ่ แวะเวียนไปเยี่ยมมารดาของเธอเป็นประจำ จนท่านเชียร์ให้เธอรับรักและรับหมั้นกริน ซึ่งเธอไม่อาจทำเช่นนั้นได้ เพราะเธอไม่ได้รักกริน หัวใจของเธอไม่ได้มีไว้เพื่อมอบให้กับกริน
แต่หัวใจดวงนี้กำลังรอคอยใครสักคน...ใครสักคนที่เฝ้ารอมาช้านาน ทว่าหญิงสาวกลับหาคำตอบให้กับตัวเองยังไม่ได้ ว่าเมื่อไรเธอถึงจะพบผู้ชายคนที่เธอสามารถวางหัวใจอันพิสุทธิ์ไว้ในอุ้มมือของเขาได้
อิงฟ้านั่งรับลมพัดเย็นๆ อยู่คนเดียวเป็นเวลานาน พอหันไปมองภายในร้านอาหาร ก็ถอนหายใจยาวด้วยความเบื่อหน่าย ปาร์ตี้เลี้ยงฉลองรับปริญญากำลังสนุก แต่ต้องมากร่อย อารมณ์เสียเพราะถูกกรินตามตื้อไม่หยุด
เพราะหมดอารมณ์อยู่ในงานเลี้ยงอีกต่อไป หญิงสาวจึงคว้ากระเป๋าสะพายเดินตรงไปยังลานจอดรถ ตัดสินใจกลับบ้าน ก่อนงานเลี้ยงจะเลิกรา โดยหารู้ไม่ว่า มีสายตาคมกริบของใครคนหนึ่ง เฝ้ามองเธอนับตั้งแต่วินาทีที่เธอเดินเข้ามาในร้านแห่งนี้ กระทั่งถึงวินาทีสุดท้ายที่เธอขับรถออกไปจากร้านอาหารแล้ว
แน่นอนว่า...เจ้าของดวงตาคมกริบคู่นี้ กำลังขับรถตามอิงฟ้าอย่างช้าๆ และใจเย็น ดวงตาทั้งคู่จับจ้องมองรถยนต์ของอิงฟ้าและขับตามอยู่ห่างๆ เพื่อรอเวลา...รอเวลาในการลงมือกับเหยื่อสาว ที่กำลังจะตกอยู่ในอุ้มมือของราชสีห์ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้แล้ว...