ตอนที่ 4 - ทับถม
กรงรักในมือซาตาน
ตอนที่ 4
(ทับถม)
...คนที่ถูกใช้งานทางร่างกายอย่างหนักในการเริงรักตัณหานอนจมกับที่นอนด้วยพิษไข้ ร่างกายอ่อนล้าโรยแรง ลำแสงจากฟากฟ้าส่องสว่างจ้าเข้ามาในห้องหับที่ประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหรา
...ดวงตาคมค่อย ๆ กะพริบปรับรับแสง เรี่ยวแรงแขนอ่อนแรงยกขึ้นไม่ไหว ฟาตินทำได้เพียงลืมตาตื่นเมื่อรู้สึกตัว เพดานห้องสีทองเธอจ้องมองอย่างคนเหม่อลอย แววตาดั่งคนที่ไร้จิตวิญญาณ เธอทอดถอนสายตามองรอบด้านก่อนจะบรรจบพบกับชายหนุ่มล่ำสันที่ย่ำยีเธอในที่ผ่านมาที่กำลังนั่งจ้องเธอด้วยแววตาที่ดุร้าย
"ก็ยังไม่ตาย รีบหายแล้วมาทำหน้าที่ของตัวเองซะ!" คนที่ปากหนักเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกร้าว คำพูดที่ได้ยินทำให้ฟาตินปวดร้าวอยู่ในอก ดวงตากลมสั่นระริกดั่งคนกำลังจะร้องไห้ เมื่อชายตรงหน้าไร้เมตตาต่อหญิงร่างเล็กอย่างเธอเสียจริง จะประวิงอย่างไรให้เขานั้นใจดีเพียงเสี้ยวแก่เธอ ไม่ต้องมากมายแค่เสี้ยวของเมตตาก็นับว่าดีมากแล้วถ้าเทียบกับตอนนี้ที่ฟาตินประสบพบเจอ
"................" เธอนิ่งเงียบไม่เปิดปากพูดโต้ตอบ ทำเพียงนอนนิ่งมองหน้าเขาเท่านั้นด้วยหัวใจที่เจ็บร้าว
"ไม่ต้องมาหน้าเราด้วยแววตาเช่นนั้น หึ...คงอยากจะบีบคอเราให้ตายล่ะซิ แต่คนอย่างเธอไม่มีวันทำอะไรเราได้หรอก ... เจ็บปวดใช่ไหมล่ะ แค้นเราเสียให้มากพอ เราจะรอวันที่ผู้หญิงต่ำตมที่ชื่อฟาตินศิโรราบแก่เรา เชคฮ อานัส" เขาพูดพร่ำร่ายยาว คำพูดที่เสียดแทงน้ำใจของคนที่นอนนิ่งไม่สามารถไหวติงไปไหน จิตใจของเขาคงหยาบกระด้างมากคณานับได้ แค่ผู้หญิงที่นอนเจ็บไข้ก็ไม่วายจะต่อว่า มิหนำซ้ำยังเหยียบย่ำเธอด้วยคำพูดที่แสนจะเจ็บปวดรวดร้าวในหัวใจ
"ฮึก อึก" ฟาตินที่ไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้ ทำเพียงหลับตาลงปิดสนิทสะอื้นร่ำไห้ ปล่อยน้ำตาให้รินไหลออกมาเพราะเจ็บปวดเหลือแสน ความแค้นอันใดที่ทำให้อานัสนั้นทารุณเธอได้เพียงนี้
"เราเกลียดน้ำตาเสียจริง เอะอะก็ร้องไห้ อ่อนแอน่ารำคาญ!" อานัสสะบัดเสียงต่อว่าเมื่อเห็นน้ำตาของฟาตินไหลรินลงหางตา พร้อมกับน้ำเสียงสะอึกสะอื้น
"ไม่อยากอยู่แบบนี้...ขอตายเสียยังดีกว่า" ฟาตินพูดออกมาด้วยคำพูดที่ตัดพ้อ เธอไม่ไหวแล้วกับการที่ต้องรองรับอารมณ์ คำพูดโสมมที่ทิ่มแทงหัวใจให้เจ็บปวด อยากหลุดพ้นต่อคนใจร้ายแม้จะต้องอาศัยความตายเป็นที่พึ่งพิงก็ยินยอม หากอยู่แบบมีลมหายใจแล้วจะทรมานเจียนตายเช่นนี้
"ไม่อยากอยู่ก็รักเราสิ...แค่รักเรา ปัดไอ้บราฮิมออกไปจากหัวใจ ง่ายนิดเดียวก็จะไม่เป็นเช่นนี้" อานัสพูดออกมาด้วยน้ำเสียงยะเยือกดุจดั่งธารน้ำเย็นจากเทือกเขา
"รักท่านเหรอ...ไม่มีทาง! พื้นที่หัวใจของฟาตินไม่คิดทับซ้อนให้ใครเข้ามา ท่านจะไม่มีวันได้ยึดครองพื้นที่หัวใจของฟาติน จำไว้!!" ฟาตินลืมตาเบิกกว้าง จ้องมองหน้าอานัสอย่างเคืองแค้น แววตาเฉิดฉายความโกรธและเกลียดชังอย่างชัดเจน
"ไม่มีทางอย่างนั้นเหรอ!...ไม่มีพื้นที่หัวใจให้เราอย่างนั้นหรือ ? ถ้าอย่างนั้นก็จมความกับทรมานทุกข์ระทมเช่นนี้ต่อไป จนกว่าหัวใจของเธอจะมีเรา!" อานัสปรี่ประชิดตัวคนที่นอนป่วย มือหนาบีบแน่นตรงหัวไหล่มน บีบกำจนฟาตินนั้นเริ่มเจ็บปวดเนื้อผิว หน้านิ่วงออย่างไม่อาจทานทนได้ไหว
"ปล่อยนะ!"
"ทำไม! ไอ้บราฮิมมันมีดีอะไร ทำไมถึงปันใจให้มันได้ ทำไมห๊ะ!! ทำไมฟาติน ทำไม! ทำไม!" อานัสเขย่าฟาตินอย่างแรงอย่างคนบ้าคลั่งควบคุมสติไม่อยู่ เมื่อได้รับรู้สิ่งที่ฝืนต่อหัวใจ ร่างกายบอบบางสั่นคลอนกระทบกับพื้นที่นอนนุ่ม แรงสั่นทำให้คนที่มีอาการป่วยเริ่มวิงเวียน ภาพที่มองเห็นเลือนลางเริ่มพร่าเบลอ
"ปล่อย...ฟาตินเจ็บ" ฟาตินเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่มีหรือที่คนกำลังคุ้มคลั่งจะฟังเสียงพูดของเธอ
"ทำไมรักเราไม่ได้!! ทำไมกันฟาติน! ทำไม!" คนอาละวาทยังคงเขย่าฟาตินไม่หยุดหย่อน เขาคุ้มคลั่งและผิดหวังในคำพูดที่ฟาตินเอ่ยมา คำพูดปฏิเสธตัดเยื่อใยทำให้อานัสนั้นเจ็บปวดรวดร้าว ดั่งคมหอกแหลมทิ่มแทงหัวใจ เมื่อเขาพอใจฟาตินมาแต่แรกและจ้องมองอยู่นาน แต่ก็ไม่อาจพานพบให้บรรจบให้รักกัน เมื่อเธอนั้นมีใครอื่นให้หัวใจอยู่แล้ว และแถมยังเป็นคู่อริที่บาดหมางกันมานาน
"อ๊ะ! เจ็บ....ปล่อย..." ฟาตินพยายามบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแม้ร่างกายของเธอจะปวดเมื่อยด้วยพิษไข้ เมื่อทนไม่ไหวคำพูดสุดท้ายจึงสูญคืนลำคอ ก่อนที่สติที่มีเพียงน้อยนิดจะมลายหายไป ร่างกายแน่นิ่งในบัดดล
"ฟาติน! ฟาติน! ฟื้นสิฟาติน... ใครอยู่ข้างนอกตามหมอที ภายในสิบนาทีถ้าหมอไม่มาเราฆ่าทิ้งแน่!" สิ่งที่เห็นทำให้เกิดความห่วงใย หญิงสาวนอนนิ่งอยู่ในอ้อมอก เธอสลบเพราะเขาที่ทำรุนแรงต่อเธอ ความกังวลเริ่มก่อเกิดหากเสียเธอไปเขาคงเจียนตายไม่ต่างกัน...