2/1 ปัญหา
บทที่2
ปัญหา
“เพ็ญ ที่ดินที่เราซื้อแปลงใหญ่ยังขายไม่ได้เลย ที่ขายได้ไม่กี่ไร่ ผมก็ใช้จ่ายเป็นเงินเดือนให้ลูกน้องที่เต็นท์หมดแล้ว ถ้าเดือนหน้ายังขายไม่ได้แบบนี้ ผมคงต้องหาหยิบยืมเงินเพื่อนๆมาหมุนก่อน”
ความจริงแล้ว ภาณุรู้อยู่เต็มอกตอนนี้ ว่าที่ดินที่เขาซื้อมาไม่สามารถขายได้แบบเท่าทุนหรือได้กำไรแน่ๆ เพราะวิชัยเหมือนจะหักหลังเขาช่วยลูกค้าที่มาซื้อโก่งราคา รู้ทั้งรู้ว่าเพื่อนมาหักหลัง แต่ภาณุก็ยังให้อภัย แต่เขาก็จะไม่ยอมขายที่ดินแปลงนี้แบบขาดทุนแน่ๆ ในอนาคตที่ดินสวยๆแบบนี้ ราคาต้องไม่ธรรมดา แต่ปัญหาคือเขาไม่มีเงินเหลือเลย
นิรุต เพื่อนคนแรกที่ภาณุคิดถึง เพราะนิรุตเป็นนักธุรกิจที่ถือว่าร่ำรวยที่สุดในกลุ่มเพื่อนๆ แต่เขากับนิรุตไม่สนิทกันเท่าไหร่ แต่เขาคงไม่มีทางเลือก พรุ่งนี้เขาจะเข้าไปขอความช่วยเหลือกับเพื่อนตรงๆ จะขอเอาที่ดินจำนำไว้โดยยอมเสียดอกเบี้ย เพื่อเอาเงินมาหมุนใช้ในครอบครัว และบริหารบริษัทเต็นท์รถต่อไป
“ลมอะไรหอบ นายมาหาเราถึงที่บ้าน” นิรุตนักธุรกิจส่งออกอาหารแปรรูปทางทะเลส่งออก ทักทายเพื่อนเก่าที่ไม่ค่อยจะได้เจอกัน แต่วันนี้เขากลับมาหาเขาถึงที่บ้าน
“เราพูดตรงๆไม่อ้อมค้อมเลยนะ เราจะเอาที่ดินมาจำนำนาย”
“ที่ดินที่นายหุ้นกับวิชัยใช่ไหม”
“นายรู้” ภาณุมองหน้าเพื่อนที่นั่งยิ้มให้เขาเหมือนรับรู้ปัญหาทุกอย่าง
“อืม รู้ รู้ก่อนนาย รู้มากกว่านาย” นิรุตกอดอกหลังพิงพนักเก้าอี้รับแขกอย่างสบายใจ
“หมายความว่าอย่างไรวะ เรางงไปไหม” ภาณุไม่เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนพูด เหมือนมีอะไรที่เขายังไม่รู้อีกเกี่ยวกับวิชัย
“ภาณุนายมันไว้ใจคนง่ายเกินไป ที่ดินตรงนั้นเราเองก็อยากได้ เราตั้งใจจะซื้อ แต่วิชัยมันชวนนายมาหุ้นแล้วซื้อตัดหน้าเรา โดยที่มันติดต่อลูกค้าที่จะซื้อต่อไว้แล้ว ซึ่งมันขายได้ราคาตั้งแต่วันแรกที่ซื้อเลย แต่มันหลอกนาย จะให้นายยอมขายคืนให้มันในราคาที่ขาดทุน แต่มันก็ผิดแผนเพราะนายไม่ยอมขาย”
“ไอ้วิชัย !! ไอ้เพื่อน เลว...!” ภาณุขบกรามแน่นด้วยความแค้น
“เราก็ลุ้นอยู่ ว่านายจะแก้ปัญหายังไง ขอบใจนะที่ยังคิดถึงเพื่อนคนนี้” นิรุตส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้คนที่กำลังโกรธ
“ภาณุแต่เราก็เป็นนักธุรกิจ เราคงไม่ยอมเสียเปรียบหรือช่วยนายฟรีๆ เรามีข้อเสนอ”
“ข้อเสนออะไร” ถึงแม้จะต้องการให้นิรุตช่วย แต่ภาณุก็ใช่จะพร้อมยอมทุกอย่าง เขสทำเสียงแข็งกลับ เพื่อให้คนที่กำลังได้เปรียบอย่ามั่นใจไป
“เราจะรับจำนำที่นายแบบไม่คิดดอกเบี้ย แต่นายต้องให้ลูกสาวแต่งงานกับลูกชายเรา”