5
“ภาณุแต่เราก็เป็นนักธุรกิจ เราคงไม่ยอมเสียเปรียบหรือช่วยนายฟรีๆ เรามีข้อเสนอ”
“ข้อเสนออะไร” ถึงแม้จะต้องการให้นิรุตช่วย แต่ภาณุก็ใช่จะพร้อมยอมทุกอย่าง เขสทำเสียงแข็งกลับ เพื่อให้คนที่กำลังได้เปรียบอย่ามั่นใจไป
“เราจะรับจำนำที่นายแบบไม่คิดดอกเบี้ย แต่นายต้องให้ลูกสาวแต่งงานกับลูกชายเรา”
“เพื่ออะไร นายต้องอะไร นายจะได้อะไรถ้าเรายอมทำตาม” ภาณุไม่เข้าใจว่าเพื่อนของเขาจะได้อะไรจากการแต่งงานของลูกชาย สิ่งที่สมควรได้คือดอกเบี้ยมากกว่า
“ครอบครัวเราทำธุรกิจประสบความสำเร็จ เรามีเงิน แต่เราไม่ใช่ตระกูลเจ้าใหญ่นายโต นามสกุลดังเหมือนครอบครัวของนาย และสิ่งเหล่านี้เงินก็ซื้อไม่ได้ ”
“ก็แค่ต้องการเกี่ยวข้องเป็นดองกับครอบครัวเราเพราะนามสกุลเก่า เป็นเจ้าเป็นนายในบ้านเมืองนี้ มันสำคัญถึงขั้นที่ทั้งเราและนายต้องบังคับลูกๆให้มาอยู่ด้วยกันทั้งที่เขาไม่รักกัน นายคิดอะไร” ภาณุด้วยหัวอกของความเป็นพ่อ เขาไม่ต้องการดึงลูกสาวทั้งคู่เข้ามาเกี่ยวข้อง
“เราจะคิดอะไร แบบไหน มันก็เรื่องของเรา นายมีสิทธิ์ตัดสินใจ เมื่อไหร่ที่ลูกสาวนายมีหลานให้เรา เราจะยกหนี้ที่นายเอามาจำนำเรารับขวัญหลาน”
“นิรุต นายก็ไม่ต่างจากวิชัย เห็นเราแย่นายก็บีบเรา” ภาณุกำมือแน่น ภายในใจมันร้อนรุ่มไปหมด
“แต่เราไม่เคยโกงใคร เรายื่นขอเสนอตรงไปตรงมา กลับไปตัดสินใจ เราต้องการดองกับสายเลือดของตระกูลดัง ส่วนลูกของเรา เราสั่งคำไหนคำนั้น”
ตลอดทางกลับบ้าน ภาณุรู้สึกเกลียดตัวเอง ที่เป็นสามี เป็นพ่อที่แย่ เขาน่าฟังคำทัดทานของเพ็ญแข ไม่น่าโลภอยากได้กำไรจากการขายที่ ทั้งที่กำไรจากเต็นท์รถ ก็ทำให้ครอบครัวเขาพออยู่พอกินได้สบาย ถ้าเขาหาเงินมาหมุนไม่ได้ ครอบครัวเขาต้องเดือดร้อน กิจการต้องปิด พนักงานทุกคนต่างก็มีครอบครัว น้ำตาลูกผู้ชายมันไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว หลายครั้งที่เขาอยากจะขับรถพุ่งลงข้างทางให้ตายๆไป แต่หน้าของเมียกับลูกสาวทั้งสอง ทำให้เขาต้องสู้ต่อ
เมื่อถึงบ้านภาณุพยายามทำทุกอย่างให้ปกติ แต่เพ็ญแขเป็นภรรยาเขามาเกือบยี่สิบปี ทำไมจะสังเกตไม่ได้ ว่าสามีสุดที่รัก กำลังมีเรื่องไม่สบายใจ
“คุณคะ เรายังรักกันอยู่ใช่ไหม” เพ็ญแขเอ่ยขึ้นหลังจากสามีทำท่าจะล้มตัวลงนอน
“ทำไมคุณถามผมแบบนี้” ภาณุมองภรรยาด้วยความแปลกใจ
“ถ้าคุณยังรักฉัน คุณมีเรื่องอะไร ทำไมคุณไม่เล่าให้ฉันฟัง การที่คุณเก็บทุกอย่างไว้คนเดียว มันไม่ทำให้ปัญหาดีขึ้น คุณกลัวจะทำให้ทุกคนไม่สบายใจ แต่คุณรู้ไหม ที่คุณกำลังทุกข์แบบนี้ ฉันกับลูกไม่มีความสุขเลยเพราะทุกคนเป็นห่วงคุณ”
สองมือเล็กโอบกอดสามี ใบหน้าที่เริ่มมีรอยหย่นตามกาลเวลาแต่ยังคงรักษาความสวยไว้ได้เป็นอย่างดีซบลงบนไหล่ของสามีผู้เป็นที่รัก
“ผมทำทุกอย่างที่เราสร้างมันขึ้นมาพังหมดเลย ผมมันโลภ ผมมันโง่” สองมือหนายกขึ้นมาปิดหน้าร้องไห้
“สิ่งที่คุณสร้างและมันจะไม่มีวันพังเลย คือความรักของครอบครัวเราค่ะ” เพ็ญแขโอบศีรษะชายผู้กำลังอ่อนแอลงมซบบนอกที่อบอุ่นของเธอ
“มันเกิดอะไรขึ้นคะ เล่าทุกอย่างให้ฉันฟัง เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน คุณยังฉัน มีลูกๆ มีคนที่รักคุณ ”
ภาณุเล่าเรื่องราวตั้งแต่วิชัยหักหลังเขา จนถึงที่เขาไปขอความช่วยเหลือนิรุต และข้อเสนอที่นิรุตให้เขากลับมาคิดว่าตกลงหรือไม่
“คุณเห็นไหมเพ็ญแข พี่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน พี่จะไม่ยอมบังคับให้ลูกแต่งงานกับผู้ชายที่ลูกไม่ได้รัก มันเหมือนให้ลูกไปตกนรกทั้งชีวิตเลย พี่จะไม่ยอมทำผิดซ้ำสอง ”
เพ็ญแขเข้าใจความรู้สึกของสามีเป็นอย่างดี เพราะเธอรู้ว่าภาณุรักลูกสาวทั้งสองมากแค่ไหน ขนาดพิมพกานต์ไม่ใช่ลูกที่เป็นสายเลือด เวลาเธอไม่สบายไม่มีคืนไหนเลยที่ภาณุจะไม่นั่งเฝ้าลูก ด้วยความดีที่เขามี เธอกับลูกจะไม่ยอมให้เขาต้องเผชิญกับปัญหาคนเดียวแน่ๆ