ตอนที่ 4
“ฝรั่งเยอะมากอ่ะแก... ”
แอนนากล่าว จริงอย่างที่หล่อนว่า ฉันกวาดสายตาแลไปรอบๆ ภายใต้บรรยากาศของแสงไฟสลัว บนเวทีใกล้ๆ กับโต๊ะที่เรานั่งแลเห็นนักร้องหญิงรูปร่างสูงโปร่ง ผมยาว สะโพกผาย แต่นมไม่ใหญ่ มีรอยสักเป็นรูปผีเสื้อที่เนินอกข้างขวา หน้าตาเหมือนคนฟิลิปปินส์ ร้องเพลงสากลได้ไพเราะมาก สำเนียงอังกฤษของหล่อนเป๊ะเว่อร์
คงเป็นเพราะว่าโต๊ะที่เรานั่งนั้นอยู่ด้านหน้า เป็นจุดโดดเด่น เปิดรับสายตาทุกคู่ของหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่มองมาทางเราอย่างให้ความสนใจ
“แอน...มีฝรั่งมองแกอ่ะ”
ฉันแอบสะกิดบอกเพื่อนสาวเสน่ห์แรงแล้วหันไปสบตาฝรั่งโต๊ะข้างๆ ด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
“จอย... นิโกรโต๊ะข้างหลังมองแกเหมือนกัน”
แอนนาสะกิดบอกฉันบ้าง
ให้ตายเถอะโรบิ้น ให้ดับดิ้นเถอะโรเขิร์ต เรากำลังเป็นที่จับตาของบรรดาชายหื่น
ฉันกับแอนนาสบตากันแล้วหัวเราะออกมา ก็ใครจะคิดว่า... เราสองคนจะกล้าพาตัวเองเข้ามาในสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยเสือสิงห์กระทิงแรด ใครจะคิดว่า ‘ผู้หญิงที่โดนผัวทิ้ง’ สองคนนี้ กำลังเป็นที่ต้องตาของชายต่างชาติ
จริงอย่างที่มีคนรีวิวเอาไว้ในเวปไซต์ชื่อดัง ว่าผับแห่งนี้ฝรั่งเยอะ ใครอยากกินฝรั่งหรืออยากโดนฝรั่งกินต้องมาที่นี่
ฉันกวาดตามองไปรอบๆ เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของลูกค้าที่มานั่งดื่มกันภายในผับล้วนเป็นผู้ชายต่างชาติ
“แก... โต๊ะนั้นยิ้มให้ฉันด้วย”
ฉันสะกิดบอกแอนนาด้วยความรู้สึกตื่นเต้น ขณะสบตาบรรดาผู้ชายอารมณ์เปลี่ยว จ้องมองมาทางเราสองคนอย่างเชิญชวน
“ดื่มอะไรดี”
ฉันถามแอนนา
“อะไรก็ได้”
แอนนาตอบ
“งั้นวอดก้านะ”
ฉันสั่งเด็กเสริฟที่เดินเข้ามารับออเดอร์ คืนส่งท้ายปีของเราเริ่มต้นด้วยวอดก้าคนละแก้ว
“ดื่มให้กับอดีตเฮงซวยของเราที่ได้ผู้ชายเฮงซวยมาเป็นผัว”
แอนนากล่าวพลางยกแก้วขึ้นมาชน อดไม่ได้ที่ต้องเอ่ยถึงสามีของพวกเราที่ตอนนี้อาจจะกำลังกกกิ๊กอยู่ที่ไหนสักแห่ง
“เจน... ฝรั่งโต๊ะข้างๆ มองแกอ่ะ”
แอนนาสะกิดบอก ฉันเหลือบมองไปทางซ้าย จริงอย่างที่เพื่อนบอก เห็นฝรั่งตัวใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลาสะดุดตา ส่งยิ้มมาทักทายอย่างเปิดเผย
“สวัสดีครับ”
ฝรั่งคนนั้นเอ่ยทักทาย น่าแปลก... ภาษาไทยของเขาชัดเจนจนน่าตกใจ ฟังจากสำเนียงก็รู้ว่าอีตาคนนี้น่าจะอยู่เมืองไทยมานานหลายปี
“สวัสดีค่ะ”
ฉันยิ้มตอบอย่างมีจริตมารยา รู้สึกตื่นเต้นจึงแกล้งอ่อยเหยื่อเหมือนต้องการเชคเรทติ้งด้วยการยกขาขึ้นไขว่ห้าง อวดเรียวขายาว เอนหลังพิงพนักเก้าอี้เพื่อให้ทรวงอกอวบใหญ่ผุดพุ่งโดดเด่นสะดุดตาบรรดาผู้ชายที่กำลังมองมาทางฉันกับแอนนาราวกับสัตว์นักล่ากระหายเหยื่อ
ฉันเอื้อมมือมาหยิบบุหรี่ที่แอบซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อเมื่อตอนเย็น จุดสูบทั้งที่สูบไม่เป็น
“ว้าย... แกสูบบุหรี่ด้วยหรอ”
แอนนาตกใจ ฉันส่ายหน้าน้อยๆ ตอบเบาๆ ว่าปกติไม่เคยสูบ... แต่วันนี้ไม่รู้เป็นไง นึกครึ้มอกครึ้มใจอยากลอง สักครู่ก็สำลักควันไอค่อกแค่กน่าขายหน้า
“คุณครับ... โต๊ะนั้นฝากมาให้ค่ะ”
บริกรหนุ่มของร้านเดินเข้ามากระซิบบอกพร้อมกับยื่นนามบัตรใบหนึ่งให้กับฉัน มีข้อความภาษาอังกฤษเขียนด้วยปากกาสีน้ำเงินว่า ‘Do you wanna spend the night’
“โอ้แม่เจ้า... ”
ฉันอ่านข้อความซึ่งมีความหมายว่าชวนไปหลับนอน แอนนาได้ยินก็ยกมือขึ้นปิดปาก หัวเราะขำ ท่าทางของเราสองคนคงดูเหมือน ‘ไก่’ ในสายตาของผู้คนรอบข้าง แต่ไม่รู้สิ... ฉันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก กับสายตาผู้ชายหลายคู่ที่มองมา
“Hello... ”
ฉันเหลือบไปทักทายหนุ่มใหญ่เจ้าของนามบัตร ท่าทางของเขาเหมือนคนเยอรมัน ตัวใหญ่มาก เนื้อตัวกำยำไปด้วยมัดกล้ามเหมือนนักมวยปล้ำ นั่งอยู่กับเพื่อนฝรั่งอีกคนซึ่งเป็นนิโกรตัวใหญ่ ผิวดำ แต่หล่อมาก
“คุณครับ... โต๊ะนั้นสั่งมาให้คุณสองคนครับ”
เด็กเสริฟบอกพลางวางวอดก้าสองแก้วลงบนโต๊ะ
“คนไหนคะ”
ฉันถามด้วยความอยากรู้ เผลอแสดงอาการสนใจผู้ชายมากกว่าเหล้า
เด็กเสริฟมองไปทางฝรั่งร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง รูปร่างหน้าตาหล่อเหลากระชากใจสาว ผิวสีแทนดูคมคร้ามเหมือนผู้คนแถบอเมริกาใต้ เขากำลังนั่งดื่มอยู่กับเพื่อนอีกคนซึ่งเป็นนิโกรตัวใหญ่