Vampire and I รักนายแวมไพร์ของฉัน

56.0K · จบแล้ว
Daydream, Ida Minami, Haruka Aya
34
บท
2.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

แวมไพร์ เลือด ความงดงาม ชีวิตอมตะเรื่องพวกนั้นน่ะเป็นตำนานและคำบอกเล่าเกี่ยวกับแวมไพร์ที่พวกเราได้ยินมานานแล้ว แต่มีฉันคนเดียวเท่านั้นที่รู้จักแวมไพร์อย่างแท้จริงเพราะเขาอยู่ต่อหน้าฉันนี่ไงล่ะชินจิ นักเรียนชายหล่อเหลาผู้เป็นที่หลงใหลของนักเรียนหญิงทั้งมัธยมคนนั้น เขาได้เข้ามาเรียนในโรงเรียนมัธยมของฉันและกลายเป็นนักเรียนใหม่ในความดูแลของหัวหน้าห้องอย่างฉัน ไม่ว่าฉันจะเต็มใจหรือไม่ก็ตามแต่เหนืออื่นใด ชินจิหลงรักเลือดของฉัน ทั้งรสชาติ สี กลิ่น อุณหภูมิของมัน และทุกอย่าง ชินจิแวมไพร์ผู้หล่อเหลาราวกับเจ้าชายแห่งความมืดได้เลือกฉันและเมื่อเขายื่นข้อเสนอที่งดงาม...ข้อเสนอที่จะมอบชีวิตอันเป็นนิรันดร์เคียงข้างเขาตลอดไปให้กับฉัน ฉันจะทำอย่างไรดีนะ

นิยายรักแวมไพร์แฟนตาซี

Scarlet Beginning

“มาแล้วเหรอ ทาเคดะ ยูกะ” คุณครูโมริเอะยิ้มหวานเมื่อฉันเข้ามาถึงห้องพักของเธอ และที่ข้างเธอนั่นมีนักเรียนชายคนหนึ่งที่ฉันไม่รู้จักยืนอยู่

เอ่อ...เขาหล่อมากด้วย หล่อแบบที่เรียกได้ว่าที่สุดที่ฉันเคยเห็นเลยล่ะ ถึงโรงเรียนมัธยมของเราจะมีนักเรียนชายเป็นพันคนก็เหอะ

เขาเป็นใครกันนะ ? ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเจือสีแดงราวกับสีของฟากฟ้ายามเย็นนั่นให้ความรู้สึกแปลกและลึกลับอย่างบอกไม่ถูกเลย

“ค่ะ คุณครู มีอะไรให้หนูช่วยไหมคะ ?”

“มีแน่จ้ะ” คุณครูยิ้มหวานอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้น และแนะนำให้ฉันรู้จักกับ... นั่นสิ...ใครน่ะ ?

“นักเรียนใหม่จ้ะ”

อ้อ

“นี่คือนิชิมูระ ชินจิ จะย้ายมาเรียนที่โรงเรียนของเราวันนี้” ครูบอกชื่อของเขาคนนั้นและแนะนำชื่อของฉันให้เขารู้จักบ้าง

“ชินจิ นี่หัวหน้าห้องของเธอ ทาเคดะ ยูกะจ้ะ”

ชินจิ ?

...ชายที่ดูไม่เหมือนใครราวกับเทพนิยายที่ยังไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อนคนนั้น...

นั่นล่ะ วิธีพบกันแบบง่ายๆ และสั้นๆ ของฉันกับชินจิ แต่ใครจะรู้ล่ะ ว่าต่อไปนี้จะมีเรื่องยุ่งยากตามมาอีกมากแค่ไหน !

เรื่องราวที่ทั้งวุ่นวายและแปลกประหลาดกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว !

‘เพราะงั้นฝากดูแลชินจิให้ทำความคุ้นเคยกับที่นี่หน่อยนะ’ รอยยิ้มหวานของคุณครูและคำสั่งของเธอยังติดแน่นในหัวของฉัน ขณะที่ฉันเดินพาชินจิออกเดินชมโรงเรียน

นักเรียนใหม่ที่เข้ามาเรียนในปีสุดท้ายของชั้นมัธยมงั้นเหรอ ? แปลกดีนะ ฉันไม่รู้เลยว่าชินจิเป็นใครมาจากไหน เขาดูไม่เหมือนคนอื่นเลย รูปร่างหน้าตาของเขาน่ามองอย่างประหลาด โดยเฉพาะตอนนี้ที่เขาเดินอยู่ข้างๆ ฉัน เยื้องหน้านิดๆ นั่น ทำให้ฉันเผลอแอบมองเขาไปหลายรอบเหมือนกัน แต่นั่นน่ะไม่แปลกเลย เพราะทุกคนก็ทำแบบนั้น

ดูสิ นักเรียนหญิงมองตามเขาใหญ่เลย ที่โรงเรียนเราไม่เคยมีใครเป็นจุดสนใจได้ขนาดนี้เลยนะ

“ส่วนที่เราเพิ่งเดินผ่านมาเป็นอาคารอำนวยการนะ ตรงนี้เป็นโรงยิม ตรงนั้นเป็นห้องพยาบาล”

ฉันพูดจ้อ “โรงเรียนมัธยมแห่งนี้เป็นโรงเรียนอันดับหนึ่งของจังหวัดนะ ก่อตั้งเมื่อปี 1860”

“...”

“และนั่นเป็นห้องน้ำ มีตรงนี้จุดหนึ่ง แล้วก็อีกจุดหนึ่งสุดทางอีกฟาก” ฉันบอกเรื่องที่ควรบอกเกี่ยวกับโรงเรียนของเราให้เขารู้ แต่ดูเขาจะพูดน้อยนะ ก็เหมือนกับผู้ชายหน้าตาดีในญี่ปุ่นทั่วไปนั่นล่ะ

“...”

“อ้อ แล้วนั่นโรงอาหาร แล้วก็...” ฉันหันมายิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร “ยินดีต้อนรับ นี่คือห้องเรียนของเราล่ะ”

ฉันบอกนักเรียนใหม่ในสิ่งที่เขาควรรู้เกี่ยวกับโรงเรียนของเราครบรึยังนะ

เพื่อนในห้องมองเราเป็นตาเดียวตอนที่ฉันพาชินจิเดินเข้ามา แล้วในวินาทีเดียวความสง่างามที่ยากจะอธิบายของเขาก็ทำให้ทุกคนในห้องหันมามองเขาอย่างชื่นชมได้

“ใครน่ะ”

“นักเรียนใหม่เหรอ เขาหล่อจังเลย”

“ไม่เคยมีนักเรียนหล่อแบบนี้ในโรงเรียนเราเลย มาจากไหนนะ”

พวกนั้นซุบซิบกันอย่างตื่นเต้นเกินไปแล้ว ทว่าชินจิราวกับไม่ได้ยิน เพราะเขาเพียงแค่ตอบรับเสียงฮือฮาพวกนั้นด้วยท่าทางที่สงบนิ่งและริมฝีปากที่เรียบสนิทเป็นเส้นตรงเท่านั้น เขาดูเย็นชาและพูดน้อยทีเดียวล่ะ แต่ดวงตาที่นิ่งทว่าไม่ยโสหรือรั้นนั่นบอกฉันว่าเขาไม่ใช่คนหยิ่งเลย

ว่าแต่เขาเป็นคนแบบไหนกันล่ะ ?

“ชินจิ นี่ห้องเรียนของนายนะ นายอยู่ห้องเดียวกับฉัน” ฉันยิ้มกว้างแบบเจ้าของบ้านที่ใจดีที่สุด

“...”

“จะนั่งตรงไหนล่ะ เชิญเลือกตามสบาย” ฉันยิ้มกว้างกว่าเดิม

“...”

บางทีอยู่กับเพื่อนใหม่ที่ไม่พูดอะไรเลยแบบนี้ก็อึดอัดเหมือนกันนะ

ห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ราวกับพวกนักเรียนหญิงกำลังรอว่าชินจิจะนั่งลงข้างพวกเธอคนใดคนหนึ่งหรือไม่

แล้วชินจิก็นั่งลงตรงที่นั่งว่างถัดจากฉันโดยไม่พูดอะไร ระหว่างโต๊ะของเขากับของฉันมีทางเดินเล็กๆ ขนาดหนึ่งคนเดินได้กั้นเอาไว้ เขาคงต้องการการแนะนำในฐานะเด็กใหม่จริงๆ นั่นล่ะ และในเมื่อเขาเลือกนั่งใกล้ๆ ฉัน ฉันก็จะทำหน้าที่เจ้าบ้านให้ดีที่สุดก็แล้วกัน

แล้วชั้นเรียนแรกของวันนี้ก็เริ่มขึ้น เพราะคุณครูวิชาวิทยาศาสตร์น่ะมาถึงแล้ว

ระหว่างเรียนคุณครูมีคำถามโยนให้พวกเราตอบตลอดเวลา และพอมาถึงชินจิ ฉันก็ต้องแปลกใจที่เขาตอบได้ดีทีเดียวล่ะ ถึงเขาจะตอบสั้นๆ แต่ก็ชัดเจนและถูกต้อง ทำให้ทุกคนอดมองเขาอย่างชื่นชมไม่ได้ เขาคงเรียนเก่งทีเดียวนะ บางทีปีนี้เขาอาจจะสอบได้ที่หนึ่งแซงหน้าฉันก็ได้

แล้วเวลาพักกินอาหารเที่ยงก็มาถึง ฉันเดินพาชินจิมาที่ห้องอาหารท่ามกลางสายตาสอดรู้สอดเห็นของนักเรียนหญิงทั้งโรงเรียน มันทำให้ฉันประหม่าไปด้วย แววตาทุกคู่ดูจะชื่นชมและหลงใหลเขา แต่ก็ไม่มีใครสักคนที่กล้าเข้ามาทัก นอกจากฉันที่ถูกคุณครูมอบหมายไว้

ฉันพูดไม่หยุดเหมือนเมื่อเช้า พยายามทำตัวเป็นหัวหน้าห้องที่ดีอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ฉันเล่าให้เขาฟังทุกเรื่องเกี่ยวกับโรงเรียน ตั้งแต่กฎระเบียบ ชื่อครู ชื่อเพื่อนๆ ไปจนถึงชื่อร้านอาหารและเมนูเด็ดของแต่ละร้านในโรงอาหาร แล้วฉันก็สั่งอาหารน่าอร่อยหลายอย่างมาวางให้หน้าชินจิ

“อ้าว ทำไมไม่กินล่ะ ?” ฉันถามเมื่อเห็นชินจิมองอาหารเฉยๆ เท่านั้น “ไม่น่ากินเหรอ ? หรือนายไม่สบาย ?”

“...”

“เป็นนักเรียนใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาคงกังวลเหมือนกันสินะ แต่นายก็ควรจะกินอะไรซักหน่อย ไม่งั้นจะไม่สบายได้นะ ^^”

“ไม่เป็นไร” เขาบอกสั้นๆ “เธอกินสิ ยูกะ”

แล้วเขาก็ปล่อยให้ฉันกินข้าวเที่ยงคนเดียวซะงั้น ส่วนเขาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามโดยไม่แตะต้องอาหารเลย

แต่ชินจิจะเป็นอะไรรึเปล่านะ เขาจะหิวรึเปล่า ? ฉันได้แต่ลอบมองใบหน้าเสี้ยวข้างที่งดงามของเขาจากโต๊ะเรียนของตัวเอง ใบหน้านั้นมองตรงไปที่กระดาน และมือที่มีนิ้วเรียวงามน่ามองก็จดสิ่งที่คุณครูสอนลงในสมุด ลายมือของเขาสวยและเป็นระเบียบ ต่างกับลายมือยุ่งๆ ของฉันราวกับคนละโลก การมีลายมือสวยๆ เหมือนชินจิน่ะดีจังเลยนะ

“ไปกินข้าวเย็นกันมั้ยชินจิ นายยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เที่ยงนะ” ฉันร้องบอกชินจิเมื่อหมดวัน เราเพิ่งเดินออกมาจากตึกเรียนด้วยกัน “ฉันรู้จักร้านอร่อยๆ แถวนี้เยอะเลย นายอยากกินอะไรล่ะ”

แล้วดวงตางดงามของเขาก็มองหน้าเปื้อนยิ้มของฉันอยู่ชั่วครู่ก่อนจะบอกออกมา เมื่อมองอย่างใช้เวลา ฉันถึงเห็นว่าดวงตาของเขามีสีที่น่าสนใจมาก มันเป็นมีสีน้ำตาลเข้มเจือแดงเหมือนที่เห็นตั้งแต่แรกนั่นล่ะ แต่เมื่อเห็นใกล้ๆ อย่างนี้มันดูราวกับท้องฟ้าของยามสนธยา เวลาที่แสนจะงดงาม ลึกลับ และน่าหลงใหล...

ที่น่าแปลกก็คือเวลานี้มันดูโดดเด่นและงดงามกว่าเมื่อเช้า ไม่รู้ว่าทำไม

“ก็ได้” เขาบอก

โอ้ ฉันดีใจจัง !

“แต่ฉันต้องเป็นคนเลือกอาหารนะ” เขาบอก

“นั่นมันแน่อยู่แล้ว” ฉันดีใจจนเหมือนกระโดดไปมาอยู่รอบตัวเขา ฉันดีใจจังเลยที่ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะกินอะไรบ้างแล้ว เพราะมันแสดงว่าเขาเลิกกดดันกับการเข้ามาเรียนในโรงเรียนใหม่ของฉันแล้วไงล่ะ

“ยูกะ” เขาเรียกชื่อฉันอย่างตั้งใจขณะที่เดินนำฉันไปด้านหลังโรงเรียน เขาเดินนำหน้าฉันอยู่นิดๆ และตอนเรียกก็ไม่ได้หันมามองฉันซะทีเดียว “เธอใจดีจังเลยนะ”

“ฮ่าๆๆ” ฉันได้แต่ยิ้มให้แผ่นหลังของชินจิเพื่อตอบแทนคำชมของเขา ฉันอยากให้เขามีความสุขและคุ้นกับโรงเรียนเร็วๆ น่ะ

“ว่าแต่นายเดินมาหลังโรงเรียนทำไมเหรอ ร้านอาหารนอกโรงเรียนน่ะต้องไปอีกทางนะ” ฉันถามเมื่อเขาพาฉันเดินมายังสวนเปลี่ยวที่มีกำแพงสูงของโรงเรียนล้อมไว้ทุกด้าน เริ่มเย็นแล้วด้วย ที่สำคัญไม่มีใครอยู่ที่นั่นเลย

แล้วชินจิก็หยุดเดิน ฉันมองแผ่นหลังของเขางงๆ เมื่อเขานิ่งไปก่อนจะพูดว่า “เธอถามฉันว่าทำไมฉันไม่กินอะไร”

“?”

“ฉันจะบอกเธอก็ได้”

อ๊ะ !?

อยู่ๆ ชินจิก็หันมาจับข้อมือของฉันไว้ทั้งสองข้าง ทำให้ฉันงงและออกจะตกใจทีเดียว แล้วในวินาทีต่อมาร่างของฉันก็ถูกดึงเข้าไปใกล้เขาจนชิด ก่อนที่ริมฝีปากสวยของเขาจะขยับพูดสิ่งที่ฉันไม่มีวันเชื่อว่าจะเป็นไปได้

“เพราะฉันเป็นแวมไพร์ไงล่ะ”

“!!!!????”

เขี้ยวแหลมที่ปรากฏออกมา... ดวงตาที่ราวกับนักล่า... แสงสีแดงบนฟ้าที่กำลังเลือนหาย...

แวมไพร์ !!!????

“ยะ...อย่า...อ...อ๊า !!”

ชินจิกัดฉันแล้ว เขี้ยวคมของเขาฝังลึกลงที่ลำคอของฉัน ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ !!!???

...เจ็บจัง...

...กลัวมากด้วย...

คมเขี้ยวของชินจิกำลังแย่งชิงเลือดไปจากฉัน แรงบีบจากมือของชินจิที่ข้อมือของฉันแข็งราวกับคีมเหล็ก ฉันหนีไปไหนไม่ได้เลย

ช่วยฉันที ใครก็ได้ !!

“ชะ...ชินจิ !!”

ไม่ !!!!!

“อย่า !!!” ฉันสะดุ้งตื่นพร้อมกับความฝันที่ยังติดตา เช้าแล้ว และที่นี่คือห้องนอนของฉันเองนี่ ผนังห้องอบอุ่นกำลังเปิดรับแสงแดดยามเช้าจากบานหน้าต่างที่มีเสียงนกร้องร่าเริง

จากเงาสะท้อนของกระจกในห้อง รอยเขี้ยวจางๆ ยังปรากฏอยู่ที่ต้นคอของฉัน ฉันยังสัมผัสถึงความเจ็บเบาบางที่แผ่ซ่านออกจากผิวหนังตรงนั้น ราวกับมันกำลังเริงระบำ และเมื่อฉันเคลื่อนปลายนิ้วไปแตะต้องแผลนั้น ฉันก็ต้องยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเย็นเมื่อวานเป็นความจริง

ฉันถูกแวมไพร์ดูดเลือด เป็นไปได้ยังไงกัน ? นักเรียนใหม่คนนั้นเป็นแวมไพร์จริงๆ เหรอ !!??

...ชินจิ…

‘อ...อย่า !!’ วินาทีนั้นที่คมเขี้ยวของเขาแทรกเข้าไปในร่างของฉัน ฉันถึงกับสะท้านวูบ ความเจ็บที่แล่นปราด เลือดในกายที่วิ่งพล่านราวกับถูกเรียก... แขนแข็งแรงที่ล็อคฉันไว้จนขยับเขยื้อนไม่ได้ ไม่แม้แต่จะเปล่งเสียงร้องได้ด้วยซ้ำไป

นี่น่ะเหรอแวมไพร์ ??

...แล้วทุกอย่างก็ดับวูบลง…

ชินจิเป็นแวมไพร์ เขากัดฉันและดื่มเลือดของฉัน... มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว

ฉันจะทำยังไงดี !!??