ตอนที่ 13 หมารอบกัด
Episode [13] หมารอบกัด
[Renny Talk]
"ลุงคะ..ใกล้จะถึงรึยังคะ" ฉันเอ่ยถามคุณลุงขับแท็กซี่ หลังจากที่ฉันนั่งรถทัวร์มาลงต่างจังหวัดเป็นเวลาหลายชั่วโมงและมาต่อที่แท็กซี่อีก
"ใกล้แล้วหนู..แต่หนูไหวแน่นะสภาพดูไม่ค่อยดีเลย"
"หนูไหวค่ะ.." ทั้งที่ความจริงตอนนี้ฉันแทบจะล้มหลับอยู่รอมร่อ แต่ยังไงก็ต้องเอาโทรศัพท์ไปให้เขาอยู่ดี ฉันไม่อยากโดนเหมือนเมื่อคืน..
"แล้วหนูจะไปทำไมท่าเรือนั้นล่ะลูก..ที่ตรงนั้นเขามีเจ้าของส่วนตัวนะ"
"หนูแค่แวะเอาของไปให้คนรู้จักเฉยๆ ค่ะ"
"มืดป่านนี้ก็ระวังตัวด้วยน่ะ" คุณลุงบอกฉันด้วยความเป็นห่วง รถจอดนิ่งอยู่กับที่เมื่อถึงที่หมาย ฉันจึงควักเงินที่เอามาจากลิ้นชักขึ้นมาจ่าย
"อ่ะ..เอาไว้ป้องกันตัว" กรรไกรด้านใหญ่ถูกยื่นมาตรงหน้า
"ขอบคุณค่ะ" ฉันพนมไหว้คุณลุง ยื่นมือออกไปรับเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง
"ลุงไปละนะ"
"ค่ะ" ฉันฉีกยิ้มให้คุณลุง เดินมายังบริเวณท่าเรือที่มืดสนิท มีเพียงแสงรำไรเล็กน้อย ดวงตากวาดมองไปยังรอบๆ แต่กลับไม่พบร่างของใครสักคน
"เฮ้อ.." อาการหนักอึ้งที่หัวทำให้สองขาเดินหาที่นั่งพักโดยอัตโนมัติเพื่อรอคุณเอเธนส์กลับมา ไม่นานก็เจอที่แอบๆ ฉันจึงตัดสินใจหย่อนสะโพกนั่งลงชันเข่าขึ้นกอดตัวเอง ลมพัดแรงๆ เข้ามาเป็นระยะๆ ส่งผลให้ร่างกายสัมผัสกับความหนาวเหน็บ..
ตึก ตึก ตึก ตึก จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินผ่านตรงที่ฉันนั่งอยู่
แกร๊ก! และมีเสียงทำอะไรบางอย่างดังอยู่ใกล้ๆ ด้วยความอยากรู้ทำให้ฉันคลานย้ายที่ไปอีกมุม แอบมองผ่านช่องว่างเล็กๆ พบชายชุดดำสวมโม่งสองคนกำลังติดตั้งอะไรบางอย่าง แล้วย้ายไปยังที่อื่นอีกสองสามจุด
"มึงได้ตายสมใจแน่.." ชายคนหนึ่งพูดขึ้นเป็นภาษาญี่ปุ่น
"ไปกันเถอะ..เดี๋ยวมันกลับมาก่อน" ทั้งสองคุยกัน แล้วรีบเดินลับๆ ล่อๆ เลี่ยงไปยังทางออกอีกฝั่ง ในมือมีอุปกรณ์อะไรบางอย่างเธอไปด้วย
ลับร่างโจรสองคนนั้น ฉันจึงเปิดไฟฉายในสมาร์ตโฟนตัดสินใจเดินไปยังคัตเอาท์เพื่อจะเปิดไฟให้สว่างกลับต้องชะงัก เมื่อสายไฟถูกตัด?
ตี้ด! ตี้ด! ตี้ด! ตี้ด! เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นทุกวินาที ฉันกวาดสายตามองไปรอบๆ สองขาวิ่งไปดูต้นตอของเสียงที่ใกล้ที่สุดจ่อไฟฉายมอง..
"ระ...ระเบิด" มันคือที่วางระเบิด..
พอรู้ว่าโจรสองคนนั้นวางระเบิดท่าเรือมือไม้ฉันก็สั่นเทา สมองขาดโพลน ฉันเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วที่ญี่ปุ่นแต่ไม่แน่ใจว่าระเบิดที่กำลังจะหมดเวลาในอีก30วินาที ตัดสายสีเหลืองเหมือนกันรึป้าว..
"อึก.." หนีก็ไม่ทัน..ลองเสี่ยงดูละกัน ฉันตัดสินใจล้วงกรรไกรออกมาจากถุงกางเกงตัดไปที่สายสีเหลือง พยายามไปที่ระเบิดอีกสองตัวให้เร็วที่สุด
กึด! ตัวที่สองผ่านไป เนื้อตัวฉันอาบไปด้วยเหงื่อ
17
16
"อยะ...อยู่ไหนอ่ะ" สมองฉันขาวโพลนไปหมด สติหลุดลุ่ย เมื่อระเบิดตัวสุดท้ายฉันไม่รู้ว่าโจรสองคนนั้นติดไว้ที่ไหน..
"ฮึก.."
10
9
"..." ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ ตั้งใจจับต้นตอของเสียง สองขาลืมความเจ็บเป็นปริดทิ้ง เมื่อสายตาพบกับแสงกะพริบตัวเลขสีแดง อยู่ท้ายรอที่จอดเทียบท่าสนิท
5
4
"ขาดสิ..ขาด" หัวใจเต้นกระหนํ่าเมื่อเหลือเวลาอีกแค่สามวิ แต่มือเจ้ากรรมก็ดันสั่นไม่หยุด
3
2
กึด!
เพล้ง!
"ฮึก..ฮือ" ฉันโยนกรรไกรทิ้ง ทรุดร่างกายอ่อนปวกเปียกลงพื้นปล่อยนํ้าตาหยดแล้วหยดเล่าออกมาด้วยความกลัว มือชุ่มไปด้วยเหงื่อ ตัวสั่นเทาไม่หยุด
[And Talk]
เอเธนส์ที่ขับเรือมาจอดเทียบท่าพร้อมการ์ดอีกสองคน ก้าวขาลงจากเรือ หรี่ตามองสภาพท่าเรือที่มืดสนิทอย่างสงสัย
"หมาลอบกัด" นํ้าเสียงไม่สบอารมณ์สบถออกมา
"นายครับ..ระเบิด" การ์ดคนแรกที่เดินสำรวจท่าเรือหยุดคุกเข่ามองซากระเบิดที่ถูกตัดสายทำงาน
"เดี๋ยวผมไปเช็คที่กล้องวงจรปิดเองครับ" อีกหนึ่งคนที่ยืนประกบหลังเอ่ยขึ้น
"ไม่ต้อง คิดว่าพวกมันจะเหลือกล้องให้พวกมึงดูรึไง ดูไปก็ไม่มีประโยชน์ ในเมื่อรู้ตัวพวกมันอยู่แล้ว" เอเธนส์ยกมือห้ามปรามลูกน้อง เรียวคิ้วขมวดยุ่งเขาเพียงสงสัยว่าใครเป็นคนตัดสายระเบิด..
"เธองั้นหรอ?" เอเธนส์หยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมากดโทรออกเบอร์สำรองตัวเอง
(หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถทำรายการได้ในขณะนี้ค่ะ...)
"เคลียร์พื้นที่ด้วย"
"ครับนาย"
"..." เอเธนส์เดินกระแทกเท้าด้วยความหงุดหงิด หลายเรื่องตีกังวลในสมอง มือหนาบีบโทรศัพท์แน่น ก่อนจะเอื้อมมืออีกข้างเปิดประตูรถ สอดตัวเข้าไปนั่ง เคลื่อนตัวมุ่งหน้ากลับคอนโดทันที ใจจริงเขาตั้งใจจะเปิดคอนโดด้วยซํ้า แต่เมื่อมีคนขัดคำสั่งเขาจึงต้องรีบกลับไปจัดการ
ตลอดการเดินทางผ่านไปหลายชั่วเข้าถนนใหญ่ทางไปคอนโดหลักของเอเธนส์ มีรถกระบะอีกคันขับประกบหลังตั้งแต่เข้าเขตกรุงเทพ เอเธนส์เหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็ว สายตาคมกริบมองผ่านกระจก
ปัง! ปัง!
เอี๊อด!!! รถยุโรปคันหรูหักเลี้ยวหลบกระสุนไปยังลานกว้างที่มีราวพลาสติกกั้นไว้ เบื้องหน้าคือแม่นํ้าสายใหญ่
ปัง! เพล้ง! กระจกรถติดฟิล์มดำทึบแตกกระจายทะลุเข้ามาโดนท่อนแขนกำยำเลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมาไม่ขาดสาย
"โธ่เว้ย!!" เอเธนส์สบถออกมาด้วยความหัวเสีย จับคันเร่งเดินหน้าเพื่อจะถอยรถกลับ แต่ช้าไปเมื่อรถกระบะสี่ประตูขับชนเข้าที่ท้ายรถคันหรูอย่างรุนแรง..
โคร้ม!!! ตู้ม เหตุการณ์รวดเร็วเกิดขึ้นภายในพริบตา รถคันหรูจมหายลงไปในแม่นํ้าสายใหญ่ เมื่อทำสำเร็จคนร้ายก็ถอยรถกลับด้วยความรวดเร็ว
เอเธนส์กลั้นหายใจพยายามตะเกียกตะกายออกจากรถแต่ดูเหมือนว่ายิ่งออกแรงก็ยิ่งไร้ประโยชน์ ดวงตาเริ่มพล่าเบลอมองภาพตรงหน้าไม่ค่อยชัด บาดแผลเริ่มปวดแสบ ร่างกายเริ่มอ่อนแรง เหลือเพียงสติน้อยนิดเนื่องจากหายใจไม่ออก
ก่อนจะปรากฏแสงสว่างมาพร้อมร่างของใครบางคนแหวกว่ายดำนํ้าลงมาช่วยเขา ภาพตรงหน้าเห็นเพียงเป็นร่างบอบบางของหญิงสาวปริศนาในเงามืด ใบหน้าของเธอคนนั้นเอเธนส์แทบจะมองไม่ออก..ก่อนที่สติจะค่อยๆ ดับวูบ..
"เฮียเธนส์..ฟื้นสิ..ฟื้น" ภาพตัดมาอีกทีตอนอยู่บนบก นํ้าขิงพยายามผายปอดให้เอเธนส์ด้วยการดูดนํ้าผ่านช่องปาก สลับดันหน้าอก เป็นเวลาหลายนาที
"เฮีย..เฮียได้ยินขิงไหม" เสียงคุ้นหูเอ่ยขึ้นตรงหน้า
"แค่กๆ .." เอเธนส์สำลักนํ้าออกเป็นจำนวนมาก พยายามหรี่ตามองเสี้ยวหน้า ใบหน้าหวานมีหวานเต็มไปด้วยความเป็นห่วง ก่อนที่ใบหน้าอ่อนแรงจะโดนจับลงมาซบอก
"เฮีย..อย่าเป็นอะไรนะ" นํ้าขิงร้องห่มร้องไห้กอดคนตัวโตแน่น ในตอนที่กำลังจะหมดลมหายใจแต่กลับมีใครอีกคนเสี่ยงชีวิตลงไปช่วยเขา ทำให้หัวใจด้านชากลับมาหวั่นไหวอีกครั้ง..
รถฉุกเฉินจากโรงพยาบาลและรถตำรวจรีบเคลื่อนตัวเข้ามาจอดข้างๆ ร่างของเอเธนส์ ทุกคนต่าชุลมุนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น..
"คุณเป็นคนโทรมาแจ้งใช่ไหมคะ"
"ค่ะ.." นํ้าขิงพยักหน้าตอบ เธอผละร่างเอเธนส์ออกให้พยาบาลนำตัวขึ้นรถ เอื้อมมือหยิบโทรศัพท์และกระเป๋าที่วางทิ้งไว้ก่อนหน้านี้ขึ้นสะพายบ่า
"คุณคะ..เดี๋ยวฉันจะไปกับเขาเองค่ะ"
"เชิญขึ้นรถเลยค่ะ" นํ้าขิงขึ้นรถไปนั่งข้างๆ ร่างที่นอนหายใจรวยริน มือบางเอื้อมจับมือเอเธนส์ขึ้นมาจับให้กำลังใจตลอดทาง สร้างความประทับใจให้คนที่ตอนนี้ไม่เหลือใคร..
@โรงพยาบาลเอกชนเเห่งหนึ่ง
ห้องพักฟื้น..
อดัมยืนกอดอกมองร่างลูกชายด้วยความเป็นห่วง หลังจากที่เหตุการณ์เกิดขึ้นได้ไม่นานอดัมก็ได้รับแจ้งว่าเอเธนส์โดนลอบฆ่า เขาจึงเดินทางกลับจากฮ่องกงพร้อมแพนตอลอย่างกะทันหัน
"ขออนุญาตครับนายใหญ่" แพนตอลที่พึ่งสั่งงานลูกน้องเสร็จเดินเข้ามาในห้อง
"ปิดเรื่องนี้ให้เงียบที่สุด..ให้พวกมันคิดว่าเอเธนส์ตายไปแล้ว หลังจากนั้นค่อยคิดดอกเบี้ยกับพวกมันทีละนิดๆ ให้สาสมกับสิ่งที่พวกมันทำ.." อดัมพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ดวงตาสีฟ้าครามฉายแววแค้นใจ
"นายใหญ่ครับมีอีกเรื่อง..มีการ์ดแจ้งผมว่า..พวกมันติดระเบิดไว้ที่ท่าเรือไว้ด้วยแต่มีใครบางคนตัดสายระเบิดทิ้งซะก่อนทำให้ท่าเรือของเราปลอดภัยดีครับ"
"สำรวจพื้นที่ให้ดี มีหลักฐานอะไรไว้บ้างเก็บมาพิสูจน์ลายมือแล้วมาแจ้งฉัน" ประสบการณ์ที่เคยสั่งสมมา ส่งผลให้อดัมคิดแก้ไขปัญหาสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว
"ครับ"
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
"เชิญ.." อดัมพูด
"สวัสดีค่ะ" นํ้าขิงที่พึ่งเปลี่ยนชุดเสร็จเดินเข้ามาในห้องพร้อมแก้วกาแฟในมือ และผลไม้ต่างๆ
"หนูนี้เอง..คนที่ช่วยเอเธนส์เอาไว้" อดัมเอ่ยทักนํ้าขิง ดวงตายาวรีหรี่ลงเล็กน้อย
"..เอ่อ..ค่ะ..คุณอดัมดื่มกาแฟก่อนไหมคะ..หนูซื้อมาฝาก" นํ้าขิงวางของไว้บนโต๊ะ ยื่นแก้วกาแฟให้อดัม
"ขอบใจ.."
"เดี๋ยวคืนนี้..หนูขออนุญาตนอนเฝ้าเฮียเองนะคะ"
"ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นห่วงลูกชายฉันเกินหน้าเกินตาจังนะ.." อดัมแสยะยิ้มเล็กน้อย ยื่นมือรับแก้วกาแฟ
"เฮียมีพระคุณกับหนูมากค่ะ..หนูแค่อยากตอบแทน"
"หึ..ฉันทราบซึ้งแทนมันจริงๆ " ริมฝีปากบาง ที่ปรากฏเคราขึ้นคลอบางๆ ตามคางและใต้จมูกเค้นหัวเราะออกมาเบาๆ
"..." นํ้าขิงฉีกยิ้มบางๆ ภายในใจเกิดอาการประหม่าขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อบุคคลตรงหน้าน่าเกรงขามชวนขนลุก
.
.
.
@คอนโด..
หลายชั่วโมงถัดมา...
[Renny Talk]
"อะ..โอ๊ย" ฉันครวญครางออกมาด้วยความเจ็บแสบ เมื่อปลายนิ้วชี้แตะไปที่ไหปลาร้าซึ่งเป็นแผลจากรอยฝันของคุณเอเธนส์เมื่อคืนนี้..
สายตาไล่มองเรือนร่างของตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่ ปรากฏบาดแผลมากมาย ทั้งรอยดูด รอยขีดข่วน รอยฝ่ามือที่เริ่มจะจางลงเรื่อยๆ เต็มแผ่นหลัง บนบ่าไหล่มีรอยแผลเป็นกากบาทที่เขาเคยทำไว้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน..
"4ปี อีกนานแค่ไหนกัน.." ยังไม่ถึงเดือนฉันยังโดนขนาดนี้ ถ้านานกว่านี้ฉันจะไปเหลืออะไร..
'ก็ลองดู..ถ้าคิดว่าฉันจะปล่อยเธอไปมีผัวใหม่'
'ก็ลองดู..ถ้าคิดว่าฉันจะปล่อยเธอไปมีผัวใหม่'
"ให้ตายเถอะ.." จู่ๆ คำพูดของคุณเอเธนส์ก็แทรกเข้ามาในโซนประสาท ส่งผลให้หน้าฉันเห่อร้อนขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก...
ก็อก ก็อก ก็อก! และเสียงเคาะประตูก็ทำให้ฉันรีบผูกสายชุดคลุมปิดเรือนร่าง เดินมุ่งหน้าไปเปิดประตูห้อง
"นะ..นาย"
.
.
.
NEXT...
"ถ้าเจ็บก็บอก อย่าทน"
